xs
xsm
sm
md
lg

สาวเมืองลุงค้นพบเห็ดแครงมีคุณค่าทางโภชนาสูงยังช่วยชะลอความแก่-ต้านมะเร็ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พัทลุง - สาวพัทลุงจบเทคโนโลยีเกษตร กลับมาพัฒนาบ้านเกิด ค้นพบเห็ดแครงพืชเศรษฐกิจตัวใหม่กำลังมาแรง มีคุณค่าทางโภชนาสูง ล่าสุดผลิตเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ช่วยชะลอความแก่และป้องกันมะเร็งผิวหนัง

เห็ดแครงหรือเห็ดตีนตุ๊กแก เป็นเห็ดที่ขึ้นได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยและงอกได้ตลอดปี โดยเฉพาะฤดูฝนจะพบเห็ดแครงงอกตามท่อนไม้ กิ่งไม้ ในภาคใต้พบมากบนท่อนไม้ยางพาราเมื่อท่อนไม้ตายและมีฝนตกก็จะพบเห็ดแครงขึ้นเป็นจำนวนมาก เห็ดแครงมีคุณค่าทางโภชนาการไม่แพ้เห็ดชนิดอื่น มีคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนสูง จึงให้พลังงานสูงกว่าเห็ดชนิดอื่น

นอกจากนี้ ยังเป็นยาที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อไวรัส และยับยั้งเซลล์มะเร็ง และที่สำคัญทางสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ได้ทำการศึกษาวิจัยจนประสบความสำเร็จ เป็นผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิว เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอผิวหนังแก่ก่อนวัยและช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนังได้

นางสาวมยุรี แก้วขาว อายุ 25 ปี เจ้าของสวนต้นน้ำ อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.7 ต.เขาย่า อ.ศรีบรรพต จ.พัทลุง กล่าวว่า หลังจากจบการศึกษาสาขาเทคโนโลยีเกษตร ได้กลับมาอยู่บ้านโดยตั้งใจว่าจะนำความรู้ที่ได้รับมาถ่ายทอดสู่ชุมชน พร้อมทั้งศึกษาหาความรู้จากตำรา งานวิจัย และศึกษาดูงานจากสถานที่ต่างๆ กลับมาทดลองทำ ลองผิดลองถูก เป็นเวลา 2 ปี จึงประสบผลสำเร็จในการเพาะเห็ดแครงในถุงพลาสติก แบบเดียวกับเห็ดนางฟ้า และมีส่วนผสมของวัสดุเพาะเหมือนกัน แต่เพิ่มปริมาณรำมากกว่า และถุงมีขนาดเล็กกว่า คือ ขนาด 6.5 x 10 นิ้ว จะมีน้ำหนัก 600 กรัมการนึ่งก้อนเชื้อก็ทำเหมือนกัน แต่การบ่มก้อนเชื้อจะต้องบ่มในที่ทึบแสงและป้องกันหนูได้

ขั้นตอนที่จะต้องมีความละเอียด คือการเปิดคอก เมื่อเชื้อเห็ดเดินทั่วถุงแล้ว จะใช้เวลาบ่ม 15-20 วัน การเปิดคอกในโรงเรือน ที่มีชั้นวาง 3 ชั้น วางก้อนแนวตั้งและห่างกันพอประมาณ เพราะต้องกรีดข้างถุงให้เห็ดงอก ถุงละ 5-7 รอย ให้น้ำวันละ 4 ครั้ง ให้มีความชื้นประมาณ 7 วัน ก็สามารถเก็บเห็ดได้ถุงละ 100 กรัม จากนั้นรดน้ำตามปกติ อีก 7 วัน จะเก็บได้อีกครั้งประมาณ 40 กรัมต่อถุง คือก้อนเห็ด 1 ถุง จะให้ผลผลิต 140 กรัม โรงเรือน ขนาด 6 x 3 เมตร ซึ่งเป็นโรงเรือนกึ่งถาวรมีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 3 ปี และสามารถวางก้อนเห็ดได้ 1,000 ก้อน ให้ผลผลิต 140 กิโลกรัม ขายสดกิโลกรัมละ 200 บาท จะมีรายได้ ประมาณ 28,000 ต่อรุ่น หักต้นทุนแล้ว จะมีกำไรพอเลี้ยงตัวเองได้ และจะได้กำไรเพิ่มมากขึ้นในรุ่นต่อๆ ไป

ด้านตลาดปัจจุบันเห็ดแครงที่ขึ้นเองตามธรรมมีน้อยมาก ประกอบกับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งจำหน่ายปลีกกิโลกรัมละ 250 บาท ขณะที่สวนต้นน้ำมีกำลังการผลิตไม่มาก มีโรงเรือนเปิดคอก 2 โรง โรงขนาด 6 x 3 เมตร 1 หลัง และ 6 x 9 เมตรอีก 1 หลัง เห็ดที่ผลิตได้จะผลิตเป็นเห็ดแครงแห้ง ส่งจำหน่ายร้านอาหารปักษ์ใต้ ที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในกิโลกรัมละ 1,500 บาท ส่วนเห็ดสดก็มีแม่ค้ามารับซื้อถึงที่

ทั้งนี้ ในอนาคตตนเตรียมที่จะสร้างเครือข่ายเพิ่มผลผลิตครอบคลุมทั้ง 11 อำเภอ โดยทางตนจะรับซื้อเห็ดสดเพื่อผลิตเป็นเห็ดแครงแห้งส่งให้ลูกค้า ในการเชื่อมโยงตลาดไปยังต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ จีน และญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีความต้องการเห็ดแครงสูง ไม่ว่าจะนำไปเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว เพราะจุดเด่นในเห็ดแครงมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอผิวหนังแก่ก่อนวัย

นางสาวมยุรี ยังกล่าวอีกว่า เห็ดแครงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังมาแรง เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่นโปรตีน ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส มีสรรพคุณในการต่อต้านเชื้อไวรัส และลดขนาดของเซลมะเร็ง ปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น แกงกะทิกับกุ้งสด หรือปลาย่าง ผัดเผ็ดเห็ดแครง ผัดพริกไทยดำ และห่อหมกเห็ด สำหรับเกษตรกรที่สนใจติดต่อได้ที่ สวนต้นน้ำ โทร.0-7468-9071 หรือ 08-3191-4727







กำลังโหลดความคิดเห็น