ข่าวในประเทศ - บ๊อชประกาศยอดขายทะลุ 1.277 ล้านล้านบาท และเติบโต 8.2% พร้อม เดินหน้าลงทุนตั้งโรงงานผลิตเครื่องจักร เล็งใช้ไทยเป็นฐานขยายธุรกิจสู่ สปป. ลาว
มาร์ติน เฮยส์ ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการของ บ๊อช ในเอเชียอาคเนย์กล่าวว่าเอเชียแปซิฟิค ยังคงเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตสูงสำหรับ บ๊อช โดยธุรกิจของ บ๊อช ในภูมิภาคนี้ มีการขยายตัว 8.9% หรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 504 พันล้านบาท (12 พันล้านยูโร) ในปี 2554 และยังได้มีการลงทุนเพิ่มในภูมิภาคนี้ 33.6 พันล้านบาท (800 ล้านยูโร) ในปีที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจในเอเชียแปซิฟิค ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่จะสามารถทำยอดขายในสัดส่วน 30% ของยอดขายทั่วโลกในปี 2558
"ปี 2555 เราคาดว่าจะลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเป็นจำนวน 193 พันล้านบาท (4.6 พันล้านยูโร) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2554 เป็นจำนวน 16.8 พันล้านบาท (400 ล้านยูโร) สำหรับประเทศไทย ปี 2554 ที่ผ่านมา บ๊อช มีรายได้จากการขายรวม 8.9 พันล้านบาท (212 ล้านยูโร) ซึ่งเพิ่มขึ้น 25% เทียบกับปีก่อนหน้านี้ โดยทำยอดขายเติบโตสูงสุดในเอเชียอาคเนย์"
นอกจากนี้บ๊อช มีแผนจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ในเดือนมิถุนายน 2555 ซึ่งจะช่วยให้ บ๊อช ขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และช่วยยกระดับการบริการ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยธุรกิจที่จะเข้าไปบุกเบิกใน สปป. ลาว คือ ธุรกิจอะไหล่รถยนต์, เครื่องมือไฟฟ้า และระบบความปลอดภัย
ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดเอเชียอาคเนย์ บ๊อช ได้ตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่สำหรับเทคโนโลยีการแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครเมื่อปลายปีที่แล้วโดยโรงงานจะสามารถเริ่มการผลิตได้ประมาณไตรมาส 3 ของปี 2555 โรงงานแห่งใหม่นี้เป็นโรงงานแห่งที่ 3 ของ บ๊อช ในประเทศไทย ซึ่งอีก 2 โรงงานทำการผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดย บ๊อช วางแผนใช้เงินลงทุนจนถึงปี 2557 รวมมูลค่า 110 ล้านบาท (2.6 ล้านยูโร)สำหรับโรงงานใหม่ในประเทศไทย มีพื้นที่ 1,700 ตารางเมตร โดยโรงงานนี้จะผลิตเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยว และอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
สำหรับในปีงบประมาณ 2554 กลุ่มบริษัท บ๊อช เติบโตกว่า 9% อยู่ที่ 2.163 ล้านล้านบาท (51.5 พันล้านยูโร) คงความแข็งแกร่งทางตลาดในทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลักคือกลุ่มเทคโนโลยียานยนต์ ส่วนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีก่อสร้าง นอกจากนี้ปี 2555 คาดว่ายอดขายทั่วโลกของกลุ่มบริษัท บ๊อช จะขยายตัวระหว่าง 3 - 5%
มาร์ติน เฮยส์ ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการของ บ๊อช ในเอเชียอาคเนย์กล่าวว่าเอเชียแปซิฟิค ยังคงเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตสูงสำหรับ บ๊อช โดยธุรกิจของ บ๊อช ในภูมิภาคนี้ มีการขยายตัว 8.9% หรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 504 พันล้านบาท (12 พันล้านยูโร) ในปี 2554 และยังได้มีการลงทุนเพิ่มในภูมิภาคนี้ 33.6 พันล้านบาท (800 ล้านยูโร) ในปีที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจในเอเชียแปซิฟิค ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่จะสามารถทำยอดขายในสัดส่วน 30% ของยอดขายทั่วโลกในปี 2558
"ปี 2555 เราคาดว่าจะลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเป็นจำนวน 193 พันล้านบาท (4.6 พันล้านยูโร) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2554 เป็นจำนวน 16.8 พันล้านบาท (400 ล้านยูโร) สำหรับประเทศไทย ปี 2554 ที่ผ่านมา บ๊อช มีรายได้จากการขายรวม 8.9 พันล้านบาท (212 ล้านยูโร) ซึ่งเพิ่มขึ้น 25% เทียบกับปีก่อนหน้านี้ โดยทำยอดขายเติบโตสูงสุดในเอเชียอาคเนย์"
นอกจากนี้บ๊อช มีแผนจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ในเดือนมิถุนายน 2555 ซึ่งจะช่วยให้ บ๊อช ขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และช่วยยกระดับการบริการ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยธุรกิจที่จะเข้าไปบุกเบิกใน สปป. ลาว คือ ธุรกิจอะไหล่รถยนต์, เครื่องมือไฟฟ้า และระบบความปลอดภัย
ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดเอเชียอาคเนย์ บ๊อช ได้ตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่สำหรับเทคโนโลยีการแปรรูป และบรรจุภัณฑ์ ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครเมื่อปลายปีที่แล้วโดยโรงงานจะสามารถเริ่มการผลิตได้ประมาณไตรมาส 3 ของปี 2555 โรงงานแห่งใหม่นี้เป็นโรงงานแห่งที่ 3 ของ บ๊อช ในประเทศไทย ซึ่งอีก 2 โรงงานทำการผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดย บ๊อช วางแผนใช้เงินลงทุนจนถึงปี 2557 รวมมูลค่า 110 ล้านบาท (2.6 ล้านยูโร)สำหรับโรงงานใหม่ในประเทศไทย มีพื้นที่ 1,700 ตารางเมตร โดยโรงงานนี้จะผลิตเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยว และอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
สำหรับในปีงบประมาณ 2554 กลุ่มบริษัท บ๊อช เติบโตกว่า 9% อยู่ที่ 2.163 ล้านล้านบาท (51.5 พันล้านยูโร) คงความแข็งแกร่งทางตลาดในทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจหลักคือกลุ่มเทคโนโลยียานยนต์ ส่วนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีก่อสร้าง นอกจากนี้ปี 2555 คาดว่ายอดขายทั่วโลกของกลุ่มบริษัท บ๊อช จะขยายตัวระหว่าง 3 - 5%
