ภาพลักษณ์ของพริตตี้ที่เราพบเจอตลอดมาต้องสวยเซ็กซี่ น่ารัก เพื่อดึงดูดความสนใจ แต่ในงานมอเตอร์โชว์ขณะนี้มีพริตตี้ของค่ายวอลโว่ที่ทุกคนให้ความสนใจเธออย่างล้นหลาม ด้วยทรงผมของเธอ หลายคนมองว่าเธอแรง หลายคนมองว่าเธออยากเด่นดัง หรือว่าเธอตัดประชดใคร...แล้วตัวจริงของเธอเป็นอย่างไรกันแน่??? "ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง"จะพาไปเปิดใจ "น้องปอ เกษสิรินภัชร์ จรัณวัฒน์"
6 ปีกับวงการพริตตี้
"ปอมาเป็นพริตตี้ได้เพราะเพื่อนๆชวนมาเทสต์งานค่ะ ตอนนั้นเรายังไม่รู้เลยว่าพริตตี้คืออะไรทำงานอย่างไร แต่อยากหาเงินระหว่างเรียนอยู่ เลยตัดสินใจมาแล้วปรากฎว่าได้งานเลยเป็นพริตตี้ให้กับค่ายรถในงานมอเตอร์โชว์ซึ่งเป็นงานใหญ่มากสำหรับเราตื่นเต้นสุดๆ แล้วทำงานเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้รวม 6 ปีแล้วค่ะ หลังจากเรียนจบ(คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศีนครินทรวิโรฒ)ก็ลองไปทำงานประจำแต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ตัวเราเลยรับงานอิสระดีกว่า"
พริตตี้มีทั้งได้และเสีย
"ทำงานในวงการนี้มันมีทั้งการแข่งขันการแย่งชิงเรียกว่าดราม่าไม่แพ้วงการอื่นๆเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะปรับตัวอย่างไรเท่านั้นเอง การเลือกรับงานมีส่วนสำคัญถ้าเราเลือกงานดีๆเราจะอยู่ได้นาน ส่วนมากงานกลางคืนหรืองานเกี่ยวกับแอลกอฮอลล์ปอจะไม่รับเลย ส่วนเรื่องการแต่งตัวนั้นจะเรียกว่าโป๊ไหมมันแล้วแต่คนมองมากกว่าเราแต่งตามคอนเซ็ปท์ของสินค้าแค่พยายามเซฟตัวเองให้มากเพราะมีคนจ้องมาถ่ายภาพหลุดๆตลอดเวลาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่มีคนคิดว่าพริตตี้ต้องแต่งตัวโป๊ๆนั้นมันแค่ส่วนน้อยค่ะไม่อยากให้เหมารวมทั้งหมด ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือเรื่องรายได้บางเดือนรับงานใหญ่ครั้งเดียวอยู่ได้ทั้งเดือน สูงสุดที่เคยได้เกือบ 7 หมื่นบาท ซึ่งปอแบ่งมาเป็นรายได้ประจำวัน แบ่งให้ครอบครัวแล้วเหลือเป็นเงินเก็บ"
ไม่ได้อยากแรง...แต่ศรัทธา
"ผมอาจจะแรงแต่ปอไม่ได้แรงนะคะ ที่ปอทำโกนผมเพราะไปบวชมาค่ะ บวชชีที่จังหวัดพิษณุโลกเวลา 9 วันคือปกติแล้วปอชอบเข้าวัดรู้สึกว่ามันช่วยเติมเต็มให้ชีวิตเรามีความสุข เพราะเวลาเราทำงานมันเครียดมากเจอคนหลายรูปแบบทั้งคนดีคนไม่ดี ปอไม่ได้แคร์ว่าใครจะมองเราอย่างไร เพราะเราทำงานของเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด การไปบวชทำให้เราปลงแล้วรู้ถึงความหมายของการมีชีวิต ส่วนเรื่องการโกนผมนั้นปอคิดว่าผมคือส่วนหนึ่งของร่างกายเท่านั้นเองโกนออกไปแล้วขึ้นใหม่ได้ ปอไม่อายและรู้สึกภูมิใจด้วยซ้ำเพราะเราทำให้ครอบครัวมีความสุข ตอนจะบวชนั้นคิดอยู่แล้วว่าจะหยุดรับงานจนกว่าผมจะขึ้น แต่ทางค่ายเรียกเรามาทำงานเพราะเขาคิดว่าทำได้ค่ะ"
สวยในแบบของตัวเอง
"การทำงานพริตตี้นั้นมันต้องมีการลงทุนในเรื่องของการดูแลตัวเองสูงมากเพราะเราต้องใช้รูปร่างหน้าตาในการทำงาน แต่ที่สำคัญเราต้องมีสมองด้วย พริตตี้ต้องใช้ความสามารถไม่ต่างจากอาชีพอื่นๆไม่ใช่ว่าจะมายืนสวยไปวันๆ เพราะเราต้องรู้ข้อมูลของสินค้า รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆอีกทั้งต้องมีไหวพริบ มีทักษะในการพูดรวมถึงเรื่องของภาษาที่บางงานต้องการคนพูดได้สองสามภาษา อยากให้เข้าใจว่าพริตตี้ส่วนมากมีความรู้จบปริญญาทั้งนั้นค่ะ ส่วนเรื่องการทำศัลยกรรมนั้นปอมองว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลถ้าเขาคิดว่าเขายังสวยไม่พอหรือต้องการแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ จริงๆแล้วไม่ใช่แค่พริตตี้ที่สวยด้วยมีดหมอนะคะ ทุกวันนี้ผู้หญิงส่วนมากก็ทำกันเยอะ ต้องถามว่าผู้ชายดูออกหรือเปล่ามากกว่า แต่สำหรับปอแล้วไม่ต้องการทำอะไรทั้งนั้นค่ะปออยากเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด"
อนาคตของปอ
"คิดว่าคงทำงานอีกไม่นานเพราะทุกวันนี้มีพริตตี้รุ่นใหม่ๆมาตลอดเวลา การแข่งขันสูงมาก เราต้องหางานอื่นมารองรับซึ่งปอวางแผนไว้ว่าจะทำกิจการส่วนตัวเพราะมีเงินเก็บอยู่ส่วนหนึ่งแล้วค่ะ ส่วนเรื่องความรักนั้นมันต้องมีกันบ้างคิดว่าคงศึกษากันไปเรื่อยๆปอชอบผู้ชายเป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบคุยกันรู้เรื่องแล้วเข้าใจงานที่เราทำ ปอคิดว่าชีวิตเป็นของเราเวลาจะทำอะไรดีๆอย่าลังเลทำไปเลยแต่อย่าให้คนอื่นเดือดร้อนแล้วใจเราจะเป็นสุขค่ะ..."