00 เมื่อเวลาเริ่มงวดเข้ามาก็เริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน เหมือนกับว่า สันดานใครสันดานมัน โผล่ให้เห็นเอง บางครั้งไม่ต้องไปทำอะไรมาก ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ถึงเวลามันก็เปลือยกายล่อนจ้อน เหมือนกับ ทักษิณ ชินวัตร และบรรดา “หัวโจก” มีชื่อทั้งหลายที่ได้ประโยชน์จากพวก “ไพร่ราบ” ตามบ้านนอกที่ไร้เล่ห์เหลี่ยม ตามคนพวกนี้ไม่ทันก็ต้องตกเป็นเหยื่อ หลายคนต้องเจ็บ ตาย ต้องติดคุกติดตะราง ต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งนับล้านบาท ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชาตินี้จะชดใช้ได้หมดหรือไม่
00 น่าขันที่หลงเชื่อว่า แม้ว เป็นนักประชาธิปไตย ทั้งที่ในความเป็นจริงเมื่อย้อนดูทั้งประวัติการทำธุรกิจสัมปทานผูกขาด ก็ได้มาจากเผด็จการที่ตัวเองไป“ค้อมตัวกุมไข่” เข้าไปหาพวกรสช. ถัดมาเมื่อได้อำนาจเป็นนายกฯ ก็เข้าสภาไปตอบกระทู้นั่งฟัง ส.ส.อภิปรายแทบจะนับครั้งได้ แถมยังควบรวมซื้อพรรคการเมืองเข้ามาเพิ่มจำนวน ส.ส.รัฐบาล เพื่อให้ ฝ่ายค้านมีเสียงไม่พอสำหรับการยื่นซักฟอก ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการแทรกแซงองค์กรอิสระ และซื้อเสียงอย่างไรบ้าง อ้อ! แล้วคนประเภทไหนวะที่ตลอดเวลามีแต่เรื่องอื้อฉาว ถูกกล่าวหาแต่เรื่องซุกหุ้น ปั่นหุ้น หนีภาษี นี่หรือนักประชาธิปไตย นักบริหารมืออาชีพ ทุด !!
00 ที่ต้องบอกว่าบางครั้งต้องปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป หากจะเห็นธาตุแท้ หรือสันดานของคนที่เคยซุกซ่อนเอาไว้ ก็ต้องปล่อยให้ทำตามอิสระ ให้พูดให้แสดงออกมาอย่างเต็มที่ อย่าไปปิดกั้น เหมือนกับเวลานี้ที่พวกคนเสื้อแดงปลายแถวไร้ความสำคัญกับ ทักษิณ กำลังได้เห็นอยู่ ยังช็อกไม่หายกับการปรองดองกับอำมาตย์ และหัวหน้าคณะรัฐประหารที่เคยขับไล่ ทักษิณออกไป ก็ไหนว่าเป็นพวกเผด็จการทำลายปชต. ไม่มีทางญาติดีกันได้เลย แต่มาวันนี้กลับออกมาเรียงหน้าปกป้องกันหน้าสลอน ถึงกับยกให้ “บังเละ” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นฮีโร่หน้าตาเฉย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คนที่กำลังรับไม้ต่อเรื่องเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษฯ ก็ยกนิ้วให้เป็น “ทหารนักรบ” ส่วน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไพร่ที่กำลังสนุกอยู่กับตำแหน่งเสนาอำมาตย์ ก็บอกว่า “ไม่ติดใจแล้ว” หรือถ้าได้เห็นภาพที่ ส.ส. ก่อแก้ว พิกุลทอง ที่กำพืดเดิมมาจากไพร่เสื้อแดง เข้าปกป้องในสภา ก็เป็นภาพที่เข้าใจยากจริงๆ แต่อีกด้านหนึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นว่า คนพวกนี้มันเป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษที่สามารถ “ปรับตัว” ได้ตลอดเวลา
00 ที่บอกว่าทุกอย่างเริ่มงวด และเห็นภาพชัดขึ้นก็คือหลังจากนำร่องด้วยการใช้เสียงข้างมากไปจนถึงสภาผู้แทนให้พิจารณาผลวิจัยปรองดอง เพื่อรองรับการเสนอ พ.ร.บ.หรือ พ.ร.ก.ปรองดอง (นิรโทษฯ)ให้ ทักษิณ พ้นผิดและได้เงินคืนในที่สุด ขณะเดียวกันขั้นตอนการแก้ไขรธน.เพื่อนำไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ก็กำลังเร่งรีบกันแบบไฟลนก้น และที่น่าจับตาก็คือ การขยายเวลาสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติออกไปอีก จนถึงกลางเดือนพ.ค. นัยว่าเพื่อรองรับการแก้ไขรธน.เพื่อให้รองรับการเลือกตั้งส.ส.ร. มาร่างฉบับใหม่ตามตารางเวลาที่กำหนดเอาไว้ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ ซึ่งทางประธานวิปรัฐบาล อุดมเดช รัตนเสถียร ก็ไม่ปฏิเสธว่ามีเรื่องแบบนี้เข้ามาพิจารณาด้วย เรียกได้ว่า บีบเข้ามาพร้อมกันทุกทาง
00 มองอีกด้านหนึ่งมันก็พอเข้าใจได้ เพราะหากจะบอกว่าชัวร์ มันก็ชัวร์ แต่ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากบรรยากาศรอบตัว มันก็ไม่อาจไว้ใจได้เต็มร้อย ตรงกันข้ามทุกอย่างเริ่มถดถอย เริ่มมีเสียงโวยวายมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งพวกแดงด้วยกันเองก็เริ่ม “หูตาสว่าง” แถมรัฐบาลน้องสาวตัวดี วันๆก็เอาแต่ “โชว์สวย” ไม่ต่างจาก “พริตตี้มอเตอร์โชว์” เริ่มมีม็อบชาวไร่ ชาวสวน ออกมาออกันหน้าทำเนียบฯ มากขึ้นทุกวัน และนี่แหละน่าจะเป็นสาเหตุที่ต้องรีบรวบรัดให้เร็วที่สุดก่อนที่จะสายเกินการ เพราะถ้าพลาดเที่ยวนี้คงได้ “นอนมา” แน่ แต่แบบมีพระนำนะ !!
00 น่าขันที่หลงเชื่อว่า แม้ว เป็นนักประชาธิปไตย ทั้งที่ในความเป็นจริงเมื่อย้อนดูทั้งประวัติการทำธุรกิจสัมปทานผูกขาด ก็ได้มาจากเผด็จการที่ตัวเองไป“ค้อมตัวกุมไข่” เข้าไปหาพวกรสช. ถัดมาเมื่อได้อำนาจเป็นนายกฯ ก็เข้าสภาไปตอบกระทู้นั่งฟัง ส.ส.อภิปรายแทบจะนับครั้งได้ แถมยังควบรวมซื้อพรรคการเมืองเข้ามาเพิ่มจำนวน ส.ส.รัฐบาล เพื่อให้ ฝ่ายค้านมีเสียงไม่พอสำหรับการยื่นซักฟอก ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการแทรกแซงองค์กรอิสระ และซื้อเสียงอย่างไรบ้าง อ้อ! แล้วคนประเภทไหนวะที่ตลอดเวลามีแต่เรื่องอื้อฉาว ถูกกล่าวหาแต่เรื่องซุกหุ้น ปั่นหุ้น หนีภาษี นี่หรือนักประชาธิปไตย นักบริหารมืออาชีพ ทุด !!
00 ที่ต้องบอกว่าบางครั้งต้องปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป หากจะเห็นธาตุแท้ หรือสันดานของคนที่เคยซุกซ่อนเอาไว้ ก็ต้องปล่อยให้ทำตามอิสระ ให้พูดให้แสดงออกมาอย่างเต็มที่ อย่าไปปิดกั้น เหมือนกับเวลานี้ที่พวกคนเสื้อแดงปลายแถวไร้ความสำคัญกับ ทักษิณ กำลังได้เห็นอยู่ ยังช็อกไม่หายกับการปรองดองกับอำมาตย์ และหัวหน้าคณะรัฐประหารที่เคยขับไล่ ทักษิณออกไป ก็ไหนว่าเป็นพวกเผด็จการทำลายปชต. ไม่มีทางญาติดีกันได้เลย แต่มาวันนี้กลับออกมาเรียงหน้าปกป้องกันหน้าสลอน ถึงกับยกให้ “บังเละ” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นฮีโร่หน้าตาเฉย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คนที่กำลังรับไม้ต่อเรื่องเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษฯ ก็ยกนิ้วให้เป็น “ทหารนักรบ” ส่วน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไพร่ที่กำลังสนุกอยู่กับตำแหน่งเสนาอำมาตย์ ก็บอกว่า “ไม่ติดใจแล้ว” หรือถ้าได้เห็นภาพที่ ส.ส. ก่อแก้ว พิกุลทอง ที่กำพืดเดิมมาจากไพร่เสื้อแดง เข้าปกป้องในสภา ก็เป็นภาพที่เข้าใจยากจริงๆ แต่อีกด้านหนึ่งมันก็สะท้อนให้เห็นว่า คนพวกนี้มันเป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษที่สามารถ “ปรับตัว” ได้ตลอดเวลา
00 ที่บอกว่าทุกอย่างเริ่มงวด และเห็นภาพชัดขึ้นก็คือหลังจากนำร่องด้วยการใช้เสียงข้างมากไปจนถึงสภาผู้แทนให้พิจารณาผลวิจัยปรองดอง เพื่อรองรับการเสนอ พ.ร.บ.หรือ พ.ร.ก.ปรองดอง (นิรโทษฯ)ให้ ทักษิณ พ้นผิดและได้เงินคืนในที่สุด ขณะเดียวกันขั้นตอนการแก้ไขรธน.เพื่อนำไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ก็กำลังเร่งรีบกันแบบไฟลนก้น และที่น่าจับตาก็คือ การขยายเวลาสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติออกไปอีก จนถึงกลางเดือนพ.ค. นัยว่าเพื่อรองรับการแก้ไขรธน.เพื่อให้รองรับการเลือกตั้งส.ส.ร. มาร่างฉบับใหม่ตามตารางเวลาที่กำหนดเอาไว้ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ ซึ่งทางประธานวิปรัฐบาล อุดมเดช รัตนเสถียร ก็ไม่ปฏิเสธว่ามีเรื่องแบบนี้เข้ามาพิจารณาด้วย เรียกได้ว่า บีบเข้ามาพร้อมกันทุกทาง
00 มองอีกด้านหนึ่งมันก็พอเข้าใจได้ เพราะหากจะบอกว่าชัวร์ มันก็ชัวร์ แต่ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากบรรยากาศรอบตัว มันก็ไม่อาจไว้ใจได้เต็มร้อย ตรงกันข้ามทุกอย่างเริ่มถดถอย เริ่มมีเสียงโวยวายมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งพวกแดงด้วยกันเองก็เริ่ม “หูตาสว่าง” แถมรัฐบาลน้องสาวตัวดี วันๆก็เอาแต่ “โชว์สวย” ไม่ต่างจาก “พริตตี้มอเตอร์โชว์” เริ่มมีม็อบชาวไร่ ชาวสวน ออกมาออกันหน้าทำเนียบฯ มากขึ้นทุกวัน และนี่แหละน่าจะเป็นสาเหตุที่ต้องรีบรวบรัดให้เร็วที่สุดก่อนที่จะสายเกินการ เพราะถ้าพลาดเที่ยวนี้คงได้ “นอนมา” แน่ แต่แบบมีพระนำนะ !!