"ทำไมต้องชอบเหมือนคนอื่นๆครับ ผมไม่ชอบเหมือนใคร คนส่วนใหญ่อาจจะรู้สึกไม่ค่อยดีกับแบรนด์นี้แต่ผมคิดว่าถ้าใจเรารักไม่จำเป็นต้องไปแคร์ อีกอย่างพอได้มาลองขับรู้สึกว่ามันเป็นรถที่เกิดมาเพื่อเราจริงๆ"
นอกจากบุคคลิกที่ตลกเฮฮาไม่ซ้ำใครของ "ดีเจเผือก พงศธร จงวิลาส" แห่งคลื่น Hot 91.5 เขายังมีความชอบในเรื่องรถยนต์ที่แหกแนวกว่าใครเพราะตั้งแต่เริ่มจับพวงมาลัยจนถึงทุกวันนี้เผือกขับรถมาหลายแบบจนกระทั่งมาลงตัวที่ เกีย โซลคันนี้ เผือกบอกกับ "ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง" ว่าเจ้าเกีย โซลคันนี้มีคาเรกเตอร์ที่ตรงกับตัวเขา
"ก่อนหน้านี้ผมก็ขับฮอนด้าอินทิกร้าครับเป็นรถสปอร์ตที่ไม่ค่อยมีใครใช้เท่าไหร่ในเมืองไทย ด้วยความที่ผมชอบขับรถที่ไม่ค่อยซ้ำใคร คือขับแล้วต้องมีคาแรคเตอร์ ใจจริงเป็นคนไม่ค่อยชอบรถสปอร์ตมาก จะชอบรถSUV แต่ฮอนด้าคันนี้ใช้มาจนสมบุกสมบันแล้ว ถึงเวลาที่มันควรจะไปอยุ่กับคนอื่นให้เค้าไปทำต่อแล้วก็ขาย หลังจากนั้นตัดสินใจอยู่ระหว่างฟอร์ด โฟกัส ที่แรกคิดว่าจะซื้อชัวร์แต่พอไปดูคอนโซลภายในแล้วมันยังไม่ถูกใจ ทีนี้เลยไปเดินงานมอเตอร์โชว์เราก็เห็นว่าเป็นรถที่หน้าตาดูไม่เหมือนใครพอไปดูแล้วชอบเลยครับคือมันเปรี้ยวในตัวถึงจะเป็นสีขาวแต่การออกแบบภายในมันจี๊ดมากเป็นเบาะสีแดง เราซื้อมาแล้วไม่ต้องทำอะไรเลย
เรื่องศูนย์บริการสำหรับผมคิดว่าถ้าเรารักที่จะขับรถแปลกต้องทำใจครับ อาจจะต้องเจ็บช้ำใจนิดหน่อย เอาเงินที่ขายรถคันก่อนได้ดาวน์แล้วมาผ่อนต่อ ตอนนี้ชอบไปตะเวรดูของกระจุกกระจิกมาแต่งรถ อย่างพวกกรอบป้ายทะเบียน น้ำหอมติดรถ เดี๋ยวนี้ไปไหนขับรถไปทุกวัน ส่วนมากเวลามีเพื่อนๆมานั่งรถจะชอบเหมือนกันคือลำโพงไฟมันจะเต้นตามจังหวะเพลงน่ารักดี ที่สำคัญผมอยากชวนพี่ป็อก ปิยธิดา มานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้ผมสักครั้ง เพราะพี่เขาน่ารักมากเวลายิ้มแอบปลื้มมานานแล้วครับ"
ย้อนกลับไปเผือกบอกว่ามีรถคันแรกในชีวิตตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 เป็นซูซูกิ คาริเบียน สีดำ เนื่องจากเป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุดในตอนนั้น ก็ขับไปเรียนตลอดมันลุยๆดี แต่ช่วงฝนตกอาจจะมีปัญหาน้ำรั่วซึมบ้าง หลังจากนั้นเผือกเปลี่ยนรถมาเป็นจี๊ปเชโรกีโดยขายซูซูกิไป ซึ่งต่อมาเขาก็ต้องขายไปอีกเพราะทนค่าดูแลรักษาไม่ไหวรวมถึงอัตราบริโภคน้ำมันที่สูงกว่ารุ่นอื่นๆ
"ชอบรูปทรงมากครับแต่เวลาซ่อมทีแพงมาก มันต้องคนที่รักจี๊ปจริงๆ ซึ่งผมก็รักนะพอใช้มาสักพักหนึ่งต้องยอมแพ้ เปลี่ยนไปใช้อะไรที่มันดูแลง่ายกว่าเพราะเราไม่ค่อยดูแลรถมากเหมือนผู้ชายคนอื่นๆครับ ปกติไม่ค่อยล้างรถ เคยได้ยินบางคนบอกว่ารักรถมากกว่ารักแฟน แต่ผมรักแฟนมากกว่ารักรถครับ แต่ละคันส่วนใหญ่จะใช้ประมาณไม่เกิน 2 ปี นอกจากฮอนด้าที่ใช้เกือบ 5 ปี"
นอกจากเรื่องของรถยนต์แล้วเผือกยังฝากถึงผู้ใช้รถทุกคนว่าอยากให้ใจเย็นกันบ้าง เพราะเวลาอยู่บนท้องถนนเหมือนว่าจะขับแข่งกันมากกว่าซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ต้องรู้จักควบคุมตัวเองให้ปฏิบัติตามกฎจราจรรักษาระเบียบวินัย รถจะติดน้อยลง อย่าคิดว่าการทำผิดเล็กน้อยเป็นเรื่องธรรมดาเพราะจะกลายเป็นเรื่องเคยชินและแก้ไขยาก
นอกจากบุคคลิกที่ตลกเฮฮาไม่ซ้ำใครของ "ดีเจเผือก พงศธร จงวิลาส" แห่งคลื่น Hot 91.5 เขายังมีความชอบในเรื่องรถยนต์ที่แหกแนวกว่าใครเพราะตั้งแต่เริ่มจับพวงมาลัยจนถึงทุกวันนี้เผือกขับรถมาหลายแบบจนกระทั่งมาลงตัวที่ เกีย โซลคันนี้ เผือกบอกกับ "ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง" ว่าเจ้าเกีย โซลคันนี้มีคาเรกเตอร์ที่ตรงกับตัวเขา
"ก่อนหน้านี้ผมก็ขับฮอนด้าอินทิกร้าครับเป็นรถสปอร์ตที่ไม่ค่อยมีใครใช้เท่าไหร่ในเมืองไทย ด้วยความที่ผมชอบขับรถที่ไม่ค่อยซ้ำใคร คือขับแล้วต้องมีคาแรคเตอร์ ใจจริงเป็นคนไม่ค่อยชอบรถสปอร์ตมาก จะชอบรถSUV แต่ฮอนด้าคันนี้ใช้มาจนสมบุกสมบันแล้ว ถึงเวลาที่มันควรจะไปอยุ่กับคนอื่นให้เค้าไปทำต่อแล้วก็ขาย หลังจากนั้นตัดสินใจอยู่ระหว่างฟอร์ด โฟกัส ที่แรกคิดว่าจะซื้อชัวร์แต่พอไปดูคอนโซลภายในแล้วมันยังไม่ถูกใจ ทีนี้เลยไปเดินงานมอเตอร์โชว์เราก็เห็นว่าเป็นรถที่หน้าตาดูไม่เหมือนใครพอไปดูแล้วชอบเลยครับคือมันเปรี้ยวในตัวถึงจะเป็นสีขาวแต่การออกแบบภายในมันจี๊ดมากเป็นเบาะสีแดง เราซื้อมาแล้วไม่ต้องทำอะไรเลย
เรื่องศูนย์บริการสำหรับผมคิดว่าถ้าเรารักที่จะขับรถแปลกต้องทำใจครับ อาจจะต้องเจ็บช้ำใจนิดหน่อย เอาเงินที่ขายรถคันก่อนได้ดาวน์แล้วมาผ่อนต่อ ตอนนี้ชอบไปตะเวรดูของกระจุกกระจิกมาแต่งรถ อย่างพวกกรอบป้ายทะเบียน น้ำหอมติดรถ เดี๋ยวนี้ไปไหนขับรถไปทุกวัน ส่วนมากเวลามีเพื่อนๆมานั่งรถจะชอบเหมือนกันคือลำโพงไฟมันจะเต้นตามจังหวะเพลงน่ารักดี ที่สำคัญผมอยากชวนพี่ป็อก ปิยธิดา มานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้ผมสักครั้ง เพราะพี่เขาน่ารักมากเวลายิ้มแอบปลื้มมานานแล้วครับ"
ย้อนกลับไปเผือกบอกว่ามีรถคันแรกในชีวิตตอนเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 เป็นซูซูกิ คาริเบียน สีดำ เนื่องจากเป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุดในตอนนั้น ก็ขับไปเรียนตลอดมันลุยๆดี แต่ช่วงฝนตกอาจจะมีปัญหาน้ำรั่วซึมบ้าง หลังจากนั้นเผือกเปลี่ยนรถมาเป็นจี๊ปเชโรกีโดยขายซูซูกิไป ซึ่งต่อมาเขาก็ต้องขายไปอีกเพราะทนค่าดูแลรักษาไม่ไหวรวมถึงอัตราบริโภคน้ำมันที่สูงกว่ารุ่นอื่นๆ
"ชอบรูปทรงมากครับแต่เวลาซ่อมทีแพงมาก มันต้องคนที่รักจี๊ปจริงๆ ซึ่งผมก็รักนะพอใช้มาสักพักหนึ่งต้องยอมแพ้ เปลี่ยนไปใช้อะไรที่มันดูแลง่ายกว่าเพราะเราไม่ค่อยดูแลรถมากเหมือนผู้ชายคนอื่นๆครับ ปกติไม่ค่อยล้างรถ เคยได้ยินบางคนบอกว่ารักรถมากกว่ารักแฟน แต่ผมรักแฟนมากกว่ารักรถครับ แต่ละคันส่วนใหญ่จะใช้ประมาณไม่เกิน 2 ปี นอกจากฮอนด้าที่ใช้เกือบ 5 ปี"
นอกจากเรื่องของรถยนต์แล้วเผือกยังฝากถึงผู้ใช้รถทุกคนว่าอยากให้ใจเย็นกันบ้าง เพราะเวลาอยู่บนท้องถนนเหมือนว่าจะขับแข่งกันมากกว่าซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ต้องรู้จักควบคุมตัวเองให้ปฏิบัติตามกฎจราจรรักษาระเบียบวินัย รถจะติดน้อยลง อย่าคิดว่าการทำผิดเล็กน้อยเป็นเรื่องธรรมดาเพราะจะกลายเป็นเรื่องเคยชินและแก้ไขยาก