ASTVผู้จัดการรายวัน - “มิตซูบิชิ” กางแผนผลิตอีโคคาร์มิราจ ปีแรก 100,000 คัน ตั้งเป้าขายในประเทศ 2,000 คันต่อเดือน และเตรียมส่งออกไปทั่วอาเซียนและญี่ปุ่น ช่วงกลางปีนี้ พร้อมดันไทยเป็นฐานการผลิต มิราจ พลังงานไฟฟ้า (EV) คาดภายใน 2 ปีได้ข้อสรุป
นายโอซามุ มาสุโกะ ประธาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ประเทศไทยถือเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ในอาเซียน และนับเป็นฐานการผลิตสำคัญของมิตซูบิชิ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมั่นใจในศักยภาพพร้อมเพิ่มการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กในโครงการโกลบอล สมอลล์ อันสอดคล้องกับโครงการอีโคคาร์ของรัฐบาลไทย
โดยมิราจจะถูกผลิตขึ้น ณ โรงงานแห่งที่สามของมิตซูบิชิ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี มีกำลังการผลิต 100,000 คันในปีแรก และสามารถเพิ่มได้ถึง 150,000 คัน ตามความต้องการของตลาด พร้อมเป็นศูนย์กลางในการส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ยุโรป และญี่ปุ่น
“ไทยถือเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชินอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยกำลังการผลิต 3 โรงงานรวม 460,000 คันต่อปี และที่ผ่านมาก็เป็นศูนย์กลางส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิหลายรุ่นทำตลาดทั่วโลก ในส่วนของ มิราจ จะเริ่มการส่งออกไปยังอาเซียนและญี่ปุ่นช่วงกลางปี ส่วนตลาดยุโรปน่าจะพร้อมปลายปีนี้”
นายมาสุโกะ กล่าวว่า ด้วยแพลตฟอร์มของมิตซูบิชิ มิราจ สามารถพัฒนาต่อไปเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ๆ พร้อมกันนี้บริษัทกำลังศึกษา มิราจ พลังงงานไฟฟ้า (EV) คาดว่าจะสำเร็จภายในสองปี จากนั้นถึงจะพิจารณาว่าจะขึ้นไลน์ผลิตที่ประเทศไหน ซึ่งประเทศไทยก็มีโอกาสเช่นกันหากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และมีบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่เกิดขึ้นในประเทศไทย
นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า มีความเป็นไปได้ที่ มิราจ รุ่นขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจะขึ้นไลน์ผลิตที่ประเทศไทย แต่คงต้องมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่เกิดไปพร้อมกันด้วย ซึ่งการที่บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่จะเข้ามาลงทุนได้ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย และมีจำนวนการผลิตที่คุ้มค่าต่อการลงทุน
“ตอนนี้เรากำลังพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่เช่นกัน พร้อมกับหารือร่วมกับรัฐบาลไทย โดยกระทรวงอุตสาหกรรม และบีโอไอ ถึงการเอื้อประโยชน์ด้านการลงทุน ขณะเดียวกันโรงงานแบตเตอรี่แห่งนี้ต้องรองรับการผลิตให้กับค่ายรถยนต์อื่นๆด้วยถึงจะคุ้มค่าและมีแรงจูงใจในการลงทุน”
อย่างไรก็ตามหาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น เลือกผลิต มิราจ พลังงานไฟฟ้า ที่ประเทศไทย คงต้องลงทุนเพิ่มแต่จะเป็นเม็ดเงินเท่าไรต้องศึกษาอีกครั้ง ส่วนกำลังการผลิตไม่มีปัญหาเพาะโรงงานแห่งที่สาม ที่ผลิตมิราจในปัจจุบัน มีกำลังการผลิตเต็มที่ 150,000 คันต่อปี และมีศักยภาพเพิ่มได้ถึง 200,000 คัน
ในส่วนของ มิตซูบิชิ มิราจ ที่เพิ่งเปิดตัวพร้อมขายในไทยเป็นประเทศแรก แบ่งเป็น 5 รุ่นย่อย ราคา 380,000 - 546,000 บาท โดดเด่นด้วยออปชันอำนวยความสะดวก-ปลอดภัย มากมายให้ความคุ้มค่าต่อราคาสูง พร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3 สูบ 78 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ CVT อัตราบริโภคน้ำมัน 22 กม./ลิตร พร้อมรับจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยบริษัทเตรียมนำมิราจไปเปิดตัวต่อสาธารณะชนที่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2012 ก่อนจะเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ตั้งเป้าขาย 2,000 คันต่อเดือน
นายโอซามุ มาสุโกะ ประธาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ประเทศไทยถือเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ในอาเซียน และนับเป็นฐานการผลิตสำคัญของมิตซูบิชิ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมั่นใจในศักยภาพพร้อมเพิ่มการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กในโครงการโกลบอล สมอลล์ อันสอดคล้องกับโครงการอีโคคาร์ของรัฐบาลไทย
โดยมิราจจะถูกผลิตขึ้น ณ โรงงานแห่งที่สามของมิตซูบิชิ นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี มีกำลังการผลิต 100,000 คันในปีแรก และสามารถเพิ่มได้ถึง 150,000 คัน ตามความต้องการของตลาด พร้อมเป็นศูนย์กลางในการส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ยุโรป และญี่ปุ่น
“ไทยถือเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดของมิตซูบิชินอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยกำลังการผลิต 3 โรงงานรวม 460,000 คันต่อปี และที่ผ่านมาก็เป็นศูนย์กลางส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิหลายรุ่นทำตลาดทั่วโลก ในส่วนของ มิราจ จะเริ่มการส่งออกไปยังอาเซียนและญี่ปุ่นช่วงกลางปี ส่วนตลาดยุโรปน่าจะพร้อมปลายปีนี้”
นายมาสุโกะ กล่าวว่า ด้วยแพลตฟอร์มของมิตซูบิชิ มิราจ สามารถพัฒนาต่อไปเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ๆ พร้อมกันนี้บริษัทกำลังศึกษา มิราจ พลังงงานไฟฟ้า (EV) คาดว่าจะสำเร็จภายในสองปี จากนั้นถึงจะพิจารณาว่าจะขึ้นไลน์ผลิตที่ประเทศไหน ซึ่งประเทศไทยก็มีโอกาสเช่นกันหากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และมีบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่เกิดขึ้นในประเทศไทย
นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า มีความเป็นไปได้ที่ มิราจ รุ่นขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจะขึ้นไลน์ผลิตที่ประเทศไทย แต่คงต้องมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่เกิดไปพร้อมกันด้วย ซึ่งการที่บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่จะเข้ามาลงทุนได้ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย และมีจำนวนการผลิตที่คุ้มค่าต่อการลงทุน
“ตอนนี้เรากำลังพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่เช่นกัน พร้อมกับหารือร่วมกับรัฐบาลไทย โดยกระทรวงอุตสาหกรรม และบีโอไอ ถึงการเอื้อประโยชน์ด้านการลงทุน ขณะเดียวกันโรงงานแบตเตอรี่แห่งนี้ต้องรองรับการผลิตให้กับค่ายรถยนต์อื่นๆด้วยถึงจะคุ้มค่าและมีแรงจูงใจในการลงทุน”
อย่างไรก็ตามหาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น เลือกผลิต มิราจ พลังงานไฟฟ้า ที่ประเทศไทย คงต้องลงทุนเพิ่มแต่จะเป็นเม็ดเงินเท่าไรต้องศึกษาอีกครั้ง ส่วนกำลังการผลิตไม่มีปัญหาเพาะโรงงานแห่งที่สาม ที่ผลิตมิราจในปัจจุบัน มีกำลังการผลิตเต็มที่ 150,000 คันต่อปี และมีศักยภาพเพิ่มได้ถึง 200,000 คัน
ในส่วนของ มิตซูบิชิ มิราจ ที่เพิ่งเปิดตัวพร้อมขายในไทยเป็นประเทศแรก แบ่งเป็น 5 รุ่นย่อย ราคา 380,000 - 546,000 บาท โดดเด่นด้วยออปชันอำนวยความสะดวก-ปลอดภัย มากมายให้ความคุ้มค่าต่อราคาสูง พร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3 สูบ 78 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ CVT อัตราบริโภคน้ำมัน 22 กม./ลิตร พร้อมรับจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยบริษัทเตรียมนำมิราจไปเปิดตัวต่อสาธารณะชนที่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2012 ก่อนจะเริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ตั้งเป้าขาย 2,000 คันต่อเดือน
