ข่าวในประเทศ - ค่าย “มาสด้า” ทำในสิ่งที่ไม่คาดฝัน ทะลวงน้องน้ำสำเร็จ กวาดยอดขายปี2554ได้ 4.19 หมื่นคัน เพิ่มส่วนแบ่งเป็น 5% บรรลุเป้าหมายตามแผนธุรกิจ Building Block ก่อนเวลาถึง 2 ปี ประกาศเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในปีงูใหญ่ ตั้งเป้าขาย 6 หมื่นคัน หรือเติบโต 45% ด้วยกลยุทธ์ครอบคลุมเรื่องแบรนด์ การสร้างความพึงพอใจ และโดยเฉพาะรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งปิกอัพและเก๋งที่จ่อคิวเปิดตัวครบ
โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย จะได้รับผลกระทบจากจากเหตุการณ์สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น และมหาอุทกภัยในไทยช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่จากการร่วมมือแก้ปัญหาของทีมมาสด้าทุกฝ่ายๆ อย่างใกล้ชิด ทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2554 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย ด้วยยอดขายกว่า 4.19 หมื่นคัน จากเดิมเมื่อต้นปีที่ตั้งเป้าไว้ 3.8 หมื่นคัน ก่อนจะปรับเป็น 4.0 หมื่นคัน ในช่วงกลางปีที่แล้ว
“ปีที่ผ่านมามาสด้าได้ทำในสิ่งที่ไม่คาดฝัน โดยมียอดขายเติบโตถึง 20% ขณะที่ภาพรวมตลาดลดลง และจากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้มาสด้ามีส่วนแบ่งทางการตลาด 5% ซึ่งบรรลุเป้าหมายตามแผนธุรกิจ Building Block ก่อนเวลาถึง 2 ปี หลังจากได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 ที่ขณะนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 2.4% และในปีนี้มาสด้ายังจะยังดำเนินงานตามแผนธุรกิจต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้จะมียอดขายไม่ต่ำ 6 หมื่นคัน หรือเติบโตถึง 45% นับเป็นปริมาณยอดขายสูงสุด นับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย”
ส่วนกลยุทธ์มาสด้าในปีนี้ จะดำเนินการครอบคลุม ทั้งเรื่องของผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ เครือข่ายการขาย และความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะเรื่องของผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่จะมีการเปิดตัวโฉมใหม่ปิกอัพ มาสด้า บีที-50 อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 มกราคมที่จะถึงนี้ จากนั้นจะแนะนำโฉมใหม่ของ มาสด้า3 เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ และยังมีรุ่นพิเศษที่จะออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับนำเทคโนโลยีใหม่อย่าง Skyactive มาให้ชาวไทยได้สัมผัส
สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ไทยในปีนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทำให้รถปิกอัพ รวมถึงรถอเนกประสงค์เอสยูวีและพีพีวี(รถที่พัฒนาจากพื้นฐานของปิกอัพ) ได้รับการตอบรับมากขึ้น
“ผู้บริโภคที่อยู่ในกรุงเทพฯ หรือเขตเมือง ซึ่งเคยซื้อรถยนต์นั่ง หรือเก๋งขนาด 1.6 ลิตร จะเปลี่ยนไปใช้รถเอสยูวีและพีพีวีมากขึ้น ขณะที่ปิกอัพจะได้รับความนิยมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าปิกอัพจะกลับมามีสัดส่วนมากกว่า 50% เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี”
ในส่วนของมาสด้าได้เน้นกลยุทธ์สำคัญ ด้วยการสร้างแบรนด์ให้อยู่ในใจลูกค้าต่อเนื่อง นำเสนอตำแหน่งสินค้าที่ชัดเจนซึ่งที่ผ่านมารถยนต์มาสด้ามีความโดดเด่นและแตกต่างจะมีเพียงปิกอัพเท่านั้นที่ยังไม่ชัดนัก แต่ในโฉมใหม่ของมาด้า บีที-50 ที่กำลังจะเปิดตัวสู่ตลาด จะเห็นทิศทางตรงนี้อย่างชัดเจน ตอบสนองกลุ่มที่ต้องการใช้งานอย่างปิกอัพ แต่ก็ต้องการบุคลิกอย่างเก๋ง โดยทั้งหมดนอกจากจะรักษาลูกค้าเก่า ยังเอาชนะใจลูกค้าใหม่ด้วย
สำหรับแผนด้านสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น มาสด้าได้มีการปรับช่องซ่อมในศูนย์บริการทุกแห่ง เพื่อรองรับปิกอัพใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ รวมถึงการเพิ่มจำนวนช่องซ่อม ให้เพียงพอกับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เครือข่ายการขาย จะมีการขยายผู้จำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยใน 2555 นี้จะเพิ่มเป็น 140 แห่ง จากปีที่ผ่านมามีอยู่ 125 แห่ง
โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย จะได้รับผลกระทบจากจากเหตุการณ์สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น และมหาอุทกภัยในไทยช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่จากการร่วมมือแก้ปัญหาของทีมมาสด้าทุกฝ่ายๆ อย่างใกล้ชิด ทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2554 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย ด้วยยอดขายกว่า 4.19 หมื่นคัน จากเดิมเมื่อต้นปีที่ตั้งเป้าไว้ 3.8 หมื่นคัน ก่อนจะปรับเป็น 4.0 หมื่นคัน ในช่วงกลางปีที่แล้ว
“ปีที่ผ่านมามาสด้าได้ทำในสิ่งที่ไม่คาดฝัน โดยมียอดขายเติบโตถึง 20% ขณะที่ภาพรวมตลาดลดลง และจากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้มาสด้ามีส่วนแบ่งทางการตลาด 5% ซึ่งบรรลุเป้าหมายตามแผนธุรกิจ Building Block ก่อนเวลาถึง 2 ปี หลังจากได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 ที่ขณะนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 2.4% และในปีนี้มาสด้ายังจะยังดำเนินงานตามแผนธุรกิจต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้จะมียอดขายไม่ต่ำ 6 หมื่นคัน หรือเติบโตถึง 45% นับเป็นปริมาณยอดขายสูงสุด นับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย”
ส่วนกลยุทธ์มาสด้าในปีนี้ จะดำเนินการครอบคลุม ทั้งเรื่องของผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ เครือข่ายการขาย และความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะเรื่องของผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่จะมีการเปิดตัวโฉมใหม่ปิกอัพ มาสด้า บีที-50 อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 มกราคมที่จะถึงนี้ จากนั้นจะแนะนำโฉมใหม่ของ มาสด้า3 เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ และยังมีรุ่นพิเศษที่จะออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับนำเทคโนโลยีใหม่อย่าง Skyactive มาให้ชาวไทยได้สัมผัส
สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ไทยในปีนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทำให้รถปิกอัพ รวมถึงรถอเนกประสงค์เอสยูวีและพีพีวี(รถที่พัฒนาจากพื้นฐานของปิกอัพ) ได้รับการตอบรับมากขึ้น
“ผู้บริโภคที่อยู่ในกรุงเทพฯ หรือเขตเมือง ซึ่งเคยซื้อรถยนต์นั่ง หรือเก๋งขนาด 1.6 ลิตร จะเปลี่ยนไปใช้รถเอสยูวีและพีพีวีมากขึ้น ขณะที่ปิกอัพจะได้รับความนิยมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าปิกอัพจะกลับมามีสัดส่วนมากกว่า 50% เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี”
ในส่วนของมาสด้าได้เน้นกลยุทธ์สำคัญ ด้วยการสร้างแบรนด์ให้อยู่ในใจลูกค้าต่อเนื่อง นำเสนอตำแหน่งสินค้าที่ชัดเจนซึ่งที่ผ่านมารถยนต์มาสด้ามีความโดดเด่นและแตกต่างจะมีเพียงปิกอัพเท่านั้นที่ยังไม่ชัดนัก แต่ในโฉมใหม่ของมาด้า บีที-50 ที่กำลังจะเปิดตัวสู่ตลาด จะเห็นทิศทางตรงนี้อย่างชัดเจน ตอบสนองกลุ่มที่ต้องการใช้งานอย่างปิกอัพ แต่ก็ต้องการบุคลิกอย่างเก๋ง โดยทั้งหมดนอกจากจะรักษาลูกค้าเก่า ยังเอาชนะใจลูกค้าใหม่ด้วย
สำหรับแผนด้านสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น มาสด้าได้มีการปรับช่องซ่อมในศูนย์บริการทุกแห่ง เพื่อรองรับปิกอัพใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ รวมถึงการเพิ่มจำนวนช่องซ่อม ให้เพียงพอกับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น ขณะที่เครือข่ายการขาย จะมีการขยายผู้จำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยใน 2555 นี้จะเพิ่มเป็น 140 แห่ง จากปีที่ผ่านมามีอยู่ 125 แห่ง