สองค่ายหัวใจตรงกัน “เชฟโรเลต-ฮุนได” นัดเปิดตัวเอสยูวีเครื่องยนต์ดีเซล โดยค่ายแรกส่ง“แคปติวา”วางดีเซล 2.0 ลิตร 163 แรงม้า บล็อกใหม่ปรับสมรรถนะให้แรงขึ้นแต่กินน้ำมันน้อยลง แบ่งขาย 3 รุ่นย่อย 1.395-1.699 ล้านบาท ส่วนค่ายรถเกาหลีนำเข้า“ทูซอน”เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร มาเซอร์ไพร์สเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 อัดออปชันเพียบพร้อมขาย 1.69 ล้านบาท
มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 28 หรือ “มอเตอร์เอ็กซ์โป2011” กำลังเดินหน้าจัดงานอย่างคึกคัก โดยผู้จัดและบรรดาค่ายรถหวังใช้เวทีนี้กระตุ้นตลาด สร้างบรรยากาศการซื้อให้กลับมาอีกครั้ง พร้อมปั้นยอดขายช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีให้ใกล้เคียง หรือได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
แม้งานมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้ ไฮไลต์ส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่กลุ่มปิกอัพ เพราะมีโมเดลใหม่มาเปิดตัวให้เลือกมากมาย แต่ก็ใช่ว่ารถประเภทอื่นๆ จะไม่มีความเคลื่อนไหวให้ติดตาม อย่างเอสยูวี 2 รุ่นจาก 2 ค่าย ต่างนัดหมายกันเสริมทัพรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเข้ามาเป็นทางเลือก นอกเหนือไปจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่ชิงขายไปก่อนหน้า
เริ่มจากค่ายเชฟโรเลตที่เพิ่งเปิดตัว “แคปติวา ไมเนอร์เชนจ์” ไปช่วงต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดส่งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ลุยตลาดตามสัญญา โดยเครื่องยนต์ VCDi ดีเซลคอมมอนเรลไดเรคอินเจคชัน บล็อกใหม่แบบ4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตรที่ 1,750 - 2,750 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบปรับเปลี่ยนเกียร์ DSC (Driver Shift Control)
“เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นในหลายๆ จุด โดยเปลี่ยนฝาสูบใหม่ให้เหมาะสมกับระบบดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ (เครื่องรุ่นเดิมเป็น SOHC) แม้ขนาดความจุกระบอกสูบเท่าเดิมคือ 2.0 ลิตร แต่ให้แรงม้ามากขึ้น จาก 150 แรงม้าเป็น 163 แรงม้า โดยใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไป เพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์ จึงช่วยลดมลพิษและผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร5 สรุป คือ แคปติวา ดีเซล ใหม่ให้กำลังมากขึ้น ปล่อยมลพิษน้อยลง แถมประหยัดน้ำมัน” วันชนะ อูนากูล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” และว่า
ในส่วนช่วงล่างของ แคปติวา ดีเซล ใหม่ ถูกปรับปรุงพวกลูกยางและจุดรองรับต่างๆ ให้นุ่มลง ขณะที่โช้คและสปริงแข็งขึ้น ส่งผลให้สมรรถนนะการเข้าโค้งดี ยึดเกาะถนนมั่นใจ ซึ่งการขับขี่และความสะดวกสบายในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล แทบไม่ต่างจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน โดยลูกค้าที่สนใจสามารถไปลองขับและจับจองเป็นเจ้าของได้แล้วที่โชว์รูมเชฟโรเลตทั่วประเทศ
นอกเหนือจากสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นแล้ว เชฟโรเลตยังจัดออปชัน หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน โดยรุ่นท็อป LTZ มีทั้งเบาะหนัง ด้านคนขับสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง คอนโซลติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ตลอดจนบอกข้อมูลการขับขี่ ด้านพวงมาลัย 4 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่น ผู้ขับขี่สามารถควบคุมระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติ รวมถึงระบบเครื่องเสียง และระบบปรับอากาศ
ขณะเดียวกันยังติดตั้งเบรกมือไฟฟ้า รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนท์ เพียบพร้อมด้วยการแสดงข้อมูลของตัวรถ และความบันเทิงซึ่งได้รับการติดตั้งระบบเครื่องเสียงสามมิติ เน้นให้เสียงโอบล้อมผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างมีมิติ คมชัด และสมจริง ผ่านลำโพง 8 ตัว เชื่อมต่อด้วยระบบบลูทูธ USB และ AUX
สำหรับราคาเชฟโรเลต แคปติวา ดีเซล เริ่มต้นในรุ่น LSX 1.395ล้านบาท รุ่น LT ราคา 1.62 ล้านบาท และรุ่นLTZ 1.699 ล้านบาท (แคปติวา เครื่องยนต์เบนซิน 2.4ตัวท็อป LTZ ราคา 1.58 ล้านบาท)
อีกความน่าสนใจและถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของ เชฟโรเลต แคปติวา นั่นคือ “ฮุนได ทูซอน” ซึ่งงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้แอบมีเซอร์ไพร์สเล็กๆ เพราะนำเข้ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซลมาเปิดตัวพร้อมขาย โดย สฤษฎร์พร สกลรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดและวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ว่า ทูซอน ดีเซล ใหม่ มาพร้อมราคาพิเศษช่วงแนะนำ 1.69 ล้านบาท ซึ่งบริษัทแม่ประเทศเกาหลีหวังเอาใจคนไทย หลังผ่านวิกฤตน้ำท่วม โดยอยากให้คนไทยมีโอกาสใช้รถดี มีประโยชน์ใช้สอยสูง พร้อมราคาสมเหตุสมผล
ด้านจุดเด่นใต้ฝากระโปรงอย่างเครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ R-Engine CRDi ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด177 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 392 นิวตัน-เมตรที่ 1,800 - 2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-Time On Demand ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ยังอัดออปชันระดับเครื่องเสียงชั้นดีที่รองรับการเชื่อมต่อผ่าน AUX และ USB โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว พร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพ(ESP)ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ROP) ระบบช่วยในการขึ้นและลงทางลาดชัน (HAC และ DBC)
“ทูซอน รุ่นเทอร์โบดีเซล มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ น่าจะถูกใจคอเอสยูวีเมืองไทย ซึ่งคราวนี้มาพร้อมหลังคาโลหะ ที่ดูเข้มดุดันและมากไปด้วยแรงม้า-แรงบิด นับว่าลงตัวมากกับการใช้งานในยุคปัจจุบัน” สฤษฎร์พร กล่าวสรุป
...สองรุ่น สองสัญชาติ กับคอมแพกต์เอสยูสวีขุมพลังดีเซลที่พร้อมให้คนไทยได้เป็นเจ้าของ ใครชอบรถเอนกประสงค์ ขับขี่สบาย พร้อมกำลังแรงถึงใจ แถมจิบน้ำมัน ไม่น่าพลาด โดยไปเปรียบเทียบและสัมผัสตัวเป็นๆ พร้อมกันได้ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 จนถึง 12 ธันวาคมนี้ที่ อิมแพค เมืองทองธานี
มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 28 หรือ “มอเตอร์เอ็กซ์โป2011” กำลังเดินหน้าจัดงานอย่างคึกคัก โดยผู้จัดและบรรดาค่ายรถหวังใช้เวทีนี้กระตุ้นตลาด สร้างบรรยากาศการซื้อให้กลับมาอีกครั้ง พร้อมปั้นยอดขายช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีให้ใกล้เคียง หรือได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
แม้งานมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้ ไฮไลต์ส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่กลุ่มปิกอัพ เพราะมีโมเดลใหม่มาเปิดตัวให้เลือกมากมาย แต่ก็ใช่ว่ารถประเภทอื่นๆ จะไม่มีความเคลื่อนไหวให้ติดตาม อย่างเอสยูวี 2 รุ่นจาก 2 ค่าย ต่างนัดหมายกันเสริมทัพรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเข้ามาเป็นทางเลือก นอกเหนือไปจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่ชิงขายไปก่อนหน้า
เริ่มจากค่ายเชฟโรเลตที่เพิ่งเปิดตัว “แคปติวา ไมเนอร์เชนจ์” ไปช่วงต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดส่งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ลุยตลาดตามสัญญา โดยเครื่องยนต์ VCDi ดีเซลคอมมอนเรลไดเรคอินเจคชัน บล็อกใหม่แบบ4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตรที่ 1,750 - 2,750 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบปรับเปลี่ยนเกียร์ DSC (Driver Shift Control)
“เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นในหลายๆ จุด โดยเปลี่ยนฝาสูบใหม่ให้เหมาะสมกับระบบดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ฟ (เครื่องรุ่นเดิมเป็น SOHC) แม้ขนาดความจุกระบอกสูบเท่าเดิมคือ 2.0 ลิตร แต่ให้แรงม้ามากขึ้น จาก 150 แรงม้าเป็น 163 แรงม้า โดยใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไป เพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์ จึงช่วยลดมลพิษและผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร5 สรุป คือ แคปติวา ดีเซล ใหม่ให้กำลังมากขึ้น ปล่อยมลพิษน้อยลง แถมประหยัดน้ำมัน” วันชนะ อูนากูล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” และว่า
ในส่วนช่วงล่างของ แคปติวา ดีเซล ใหม่ ถูกปรับปรุงพวกลูกยางและจุดรองรับต่างๆ ให้นุ่มลง ขณะที่โช้คและสปริงแข็งขึ้น ส่งผลให้สมรรถนนะการเข้าโค้งดี ยึดเกาะถนนมั่นใจ ซึ่งการขับขี่และความสะดวกสบายในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล แทบไม่ต่างจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน โดยลูกค้าที่สนใจสามารถไปลองขับและจับจองเป็นเจ้าของได้แล้วที่โชว์รูมเชฟโรเลตทั่วประเทศ
นอกเหนือจากสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นแล้ว เชฟโรเลตยังจัดออปชัน หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน โดยรุ่นท็อป LTZ มีทั้งเบาะหนัง ด้านคนขับสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง คอนโซลติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ตลอดจนบอกข้อมูลการขับขี่ ด้านพวงมาลัย 4 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่น ผู้ขับขี่สามารถควบคุมระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติ รวมถึงระบบเครื่องเสียง และระบบปรับอากาศ
ขณะเดียวกันยังติดตั้งเบรกมือไฟฟ้า รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนท์ เพียบพร้อมด้วยการแสดงข้อมูลของตัวรถ และความบันเทิงซึ่งได้รับการติดตั้งระบบเครื่องเสียงสามมิติ เน้นให้เสียงโอบล้อมผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างมีมิติ คมชัด และสมจริง ผ่านลำโพง 8 ตัว เชื่อมต่อด้วยระบบบลูทูธ USB และ AUX
สำหรับราคาเชฟโรเลต แคปติวา ดีเซล เริ่มต้นในรุ่น LSX 1.395ล้านบาท รุ่น LT ราคา 1.62 ล้านบาท และรุ่นLTZ 1.699 ล้านบาท (แคปติวา เครื่องยนต์เบนซิน 2.4ตัวท็อป LTZ ราคา 1.58 ล้านบาท)
อีกความน่าสนใจและถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของ เชฟโรเลต แคปติวา นั่นคือ “ฮุนได ทูซอน” ซึ่งงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้แอบมีเซอร์ไพร์สเล็กๆ เพราะนำเข้ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซลมาเปิดตัวพร้อมขาย โดย สฤษฎร์พร สกลรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดและวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ว่า ทูซอน ดีเซล ใหม่ มาพร้อมราคาพิเศษช่วงแนะนำ 1.69 ล้านบาท ซึ่งบริษัทแม่ประเทศเกาหลีหวังเอาใจคนไทย หลังผ่านวิกฤตน้ำท่วม โดยอยากให้คนไทยมีโอกาสใช้รถดี มีประโยชน์ใช้สอยสูง พร้อมราคาสมเหตุสมผล
ด้านจุดเด่นใต้ฝากระโปรงอย่างเครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ R-Engine CRDi ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด177 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 392 นิวตัน-เมตรที่ 1,800 - 2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-Time On Demand ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้ยังอัดออปชันระดับเครื่องเสียงชั้นดีที่รองรับการเชื่อมต่อผ่าน AUX และ USB โดดเด่นด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว พร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพ(ESP)ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ROP) ระบบช่วยในการขึ้นและลงทางลาดชัน (HAC และ DBC)
“ทูซอน รุ่นเทอร์โบดีเซล มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ น่าจะถูกใจคอเอสยูวีเมืองไทย ซึ่งคราวนี้มาพร้อมหลังคาโลหะ ที่ดูเข้มดุดันและมากไปด้วยแรงม้า-แรงบิด นับว่าลงตัวมากกับการใช้งานในยุคปัจจุบัน” สฤษฎร์พร กล่าวสรุป
...สองรุ่น สองสัญชาติ กับคอมแพกต์เอสยูสวีขุมพลังดีเซลที่พร้อมให้คนไทยได้เป็นเจ้าของ ใครชอบรถเอนกประสงค์ ขับขี่สบาย พร้อมกำลังแรงถึงใจ แถมจิบน้ำมัน ไม่น่าพลาด โดยไปเปรียบเทียบและสัมผัสตัวเป็นๆ พร้อมกันได้ที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 จนถึง 12 ธันวาคมนี้ที่ อิมแพค เมืองทองธานี
