กลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ เดินหน้าสยายปีก เพิ่มทางเลือกหลากหลายให้กับลูกค้า ไม่เพียงคว้าสิทธิ์จำหน่ายรถแต่ง “ปอร์เช่” จากสำนักแต่งชื่อดังเมืองเบียร์ “สปีด อาร์ต” มาไว้ในมือ และเตรียมเปิดตัวในปีหน้า หลังต้องชะลอแผนทำตลาดปีนี้เพื่อเปิดโอกาสให้กับแบรนด์อื่นๆ อย่างซีตรอง และสโกด้ากลับมาลุยก่อน แต่ที่มาแน่ปลายปีนี้งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 ประกาศเสริมทัพแบรนด์ใหม่ “เดวา” รถบรรทุกพาณิชย์จากประเทศจีน เพื่อมาท้าชน “เกีย เค2900” ที่เคยปลุกปั้นมากับมือ สมัยอยู่ภายใต้ชายคากลุ่มยนตรกิจ ทำให้เป็นรถยนต์จากแดนหลังม่านไม้ไผ่ยี่ห้อที่สอง ต่อจาก “โฟตอน” รถตู้ที่เคยนำเข้ามาทำตลาดก่อนหน้านี้ มั่นใจผลจากการนำรถแบรนด์ใหม่ และเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ของแบรนด์ที่ถืออยู่ปัจจุบัน จะทำให้ยอดขายทั้งกลุ่มในปีหน้า พุ่งทะลุ 1,000 คันแน่นอน
กลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ (DAD Yontrakit) หรือบริษัท ไดเรคชันแนล ออโตโมบิลส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด แม้จะเป็นกลุ่มธุรกิจนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หลากหลายแบรนด์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นจากยุโรปและเอเชีย ยี่ห้อซีตรอง, สโกด้า, เซียท, รถแต่งเอ็มทีเอ็ม, สปายเกอร์ และโฟตอน แต่กลุ่มดีเอดีฯ ยังคงมุ่งเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของแบรนด์ที่ถือสิทธิ์อยู่ อย่างซีตรองที่จะนำเข้ารถในตระกูล “ดีเอส” มาทำตลาดในไทยครบไลน์ หรือแม้แต่รุ่นคลาสสิคอย่างตระกูล “ซี” ด้วย ขณะเดียวกันยังเดินหน้าคว้าสิทธิ์แบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดต่อเนื่องเช่นกัน
“หากมีโอกาสและเห็นอนาคตที่ดี เราจะพยายามนำเข้าแบรนด์ใหม่ๆ มาทำตลาดแน่นอน เพราะการมีรถยนต์หลากหลายแบรนด์ จะทำให้สามารถรองรับความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างหนึ่ง หากสถานการณ์ตลาดเปลี่ยนแปลงไป”
นั่นเป็นคำกล่าวของ “วิเชียร ลีนุตพงษ์” ประธานกรรมการบริหารกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ และว่า... “แต่หากดูทิศทางตลาดปัจจุบัน ดีเอดีฯ คงไม่ลงไปเล่นในตลาดรถขนาดเล็ก เพราะการแข่งขันกันรุนแรง และมีคู่แข่งเยอะที่ล้วนแข็งแกร่ง ดังนั้นเราคงจะมุ่งไปตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีลูกค้าชัดเจนมากกว่า”
“ปัจจุบันกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ ถือสิทธ์รถแต่งสปีด อาร์ต(Speed ART) เพียงแต่ยังไม่เปิดตัวทำตลาด และยังมีปลายปีนี้ที่จะนำเข้าแบรนด์ใหม่ เป็นรถยนต์จากจีนมาเปิดตัวในไทย แต่จะเป็นแบรนด์ไหน และรูปแบบการทำตลาดอย่างไร จะเปิดเผยรายละเอียดในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายปีนี้”
ส่วนสาเหตุของการยังไม่เปิดตัวทำตลาดรถแต่ง “สปีด อาร์ต” วิเชียรบอกว่าต้องการทำแบรนด์หลักๆ ที่มีอยู่ปัจจุบันให้นิ่งเสียก่อน เพราะเพิ่งปรับโครงสร้างธุรกิจไปเมื่อไม่นาน หลังจากแยกออกมาจากกลุ่มยนตรกิจ และยี่ห้อที่มีอยู่ก็เพิ่งกลับมาทำตลาดเต็มที่ ทำให้มีปัญหาในการส่งมอบรถให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ซีตรอง หรือสโกด้า โดยบริษัทแม่เพิ่งทยอยส่งรถมาให้ แต่ในปีหน้าการส่งมอบรถจะเริ่มเต็มรูปแบบ ทำให้มีรถทำตลาดมากขึ้น
“เหตุนี้เราถึงชะลอการทำตลาดรถแต่งสปีด อาร์ต ซึ่งในปีนี้คงยังไม่สามารถเริ่มได้ แต่ในปีหน้าคงจะทำตลาดแน่นอน” วิเชียรกล่าว
ทั้งนี้ สปีด อาร์ต (Speed ART) เป็นสำนักแต่งรถชื่อดังจากเยอรมนี โดยมีความเชี่ยวชาญในการแต่งรถ “ปอร์เช่” (Porsche) ที่ครอบคลุมทั้งการตกแต่งเครื่องยนต์ โครงสร้างตัวถัง รวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน จึงถือเป็นรถยนต์อีกยี่ห้อหนึ่ง เช่นเดียวกับ “รูฟ” (RUF)
สำหรับรถยนต์จากประเทศจีน ตามที่วิเชียรบอกว่าจะนำเข้ามาทำตลาดในไทยปลายปีนี้นั้น จากรายงานข่าวของกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจระบุว่า เป็นรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ยี่ห้อ “เดวา” (DEVA) โดยจะนำเข้ามาเปิดตัวทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 ช่วงปลายปีนี้
โดยรถเดวาเป็นรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ เช่นเดียวกับ “เกีย เค2900” (Kia K2900) ที่เคยปลุกปั้นมากับมือสมัยอยู่ใต้ชายคากลุ่มยนตรกิจ ซึ่งมีจุดเด่นที่เป็นรถกึ่งปิกอัพและรถบรรทุก จึงสามารถบรรทุกได้เยอะ เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการใช้บรรทุกและขนส่ง ที่สำคัญสามารถจดทะเบียนเป็นปิกอัพได้ ทำให้สามารถวิ่งในเมืองได้ตลอดเวลา
รถบรรทุกเดวาจึงเป็นรถยนต์จากจีนล่าสุด ที่อยู่ในการทำตลาดของกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ ซึ่งปัจจุบันมีเฉพาะรถตู้ยี่ห้อ “โฟตอน” (FOTON) แต่ช่วงที่ผ่านมาชะลอการทำตลาด เพราะมีปัญหาในเรื่องการจดทะเบียน แต่ขณะนี้ได้แก้ปัญหาและรถตู้โฟตอนสามารถจดทะเบียนได้แล้ว โดยตอนนี้ได้มีการสั่งนำรถเข้ามาทำตลาดปกติ และคาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 100 คัน
“เราได้ประสานและชี้แจงรายละเอียดกับกรมขนส่งเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้รถตู้โฟตอนสามารถจดทะเบียนได้เหมือนรถตู้ทั่วไป และเชื่อว่าจะเป็นรุ่นที่ทำยอดขายได้มาก เพราะแนวโน้มความต้องการมีสูง ที่สำคัญราคาของรถตู้โฟตอนอยู่ที่ประมาณ 7 แสนบาท ต่ำกว่าคู่แข่งรถญี่ปุ่น 20-30% จึงน่าจะได้รับการตอบรับดี และปลายปีนี้จะมีการนำเข้ารถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์จากจีนเข้ามาเสริมตลาดอีกยี่ห้อ ทำให้เรามีผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองลูกค้าเชิงพาณิชย์ได้มากขึ้น” วิเชียรกล่าว
สำหรับเป้าหมายการขายรถยนต์ในกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ โดยรถยนต์ซีตรองจะอยู่ที่ประมาณ 300 คัน ผลิตภัณฑ์หลักจะเป็นรุ่นดีเอส3 แต่ปีหน้าที่จะมีการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ซีตรอง ดีเอส 4 และ 5 รวมถึงรุ่นซี5 ทำให้คาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 600 คัน ขณะที่ยี่ห้อสโกด้าปีนี้น่าจะประมาณ 50 คัน แม้จะมีการเปิดตัวรุ่นซูเพิร์บ และเยติ เข้ามาเสริมรุ่นฟาเบีย แต่การส่งมอบรถจากบริษัทแม่ในปีนี้ทำได้เพียงแค่นี้ โดยปีหน้าน่าจะได้รับการรถมากขึ้น เมื่อรวมกับยี่ห้ออื่นๆ และรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวสู่ตลาด คาดว่ากลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ น่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1,000 คัน
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงการเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์หลากหลาย ดีเอดี ยนตรกิจยังเน้นการบริการหลังการขาย โดยเฉพาะปีนี้ที่แก้ปัญหาการจัดส่งรถจากบริษัทแม่เรียบร้อย ทำให้กลับมามุ่งความสำคัญงานบริการหลังการขายได้เต็มที่ รวมถึงการสต็อกอะไหล่ของยี่ห้อต่างๆ รวมถึงการเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ อย่างประมาณเดือนมีนาคมปีหน้า จะมีการเปิดตัวโชว์รูมเอ็กซ์คลูซีฟของสโกด้า ที่ใช้งบลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท
นี่เป็นการเสริมทัพของค่ายดีเอดี ยนตรกิจ ที่มุ่งเพิ่มทางเลือกหลากหลายให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันก็พยายามหาจุดต่าง มุ่งจับตลาดเฉพาะกลุ่ม ซึ่งไม่เพียงจะหนีการแข่งขันที่รุนแรงแล้ว ยังเป็นลดความเสี่ยงทางธุรกิจอีกด้วย!
กลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ (DAD Yontrakit) หรือบริษัท ไดเรคชันแนล ออโตโมบิลส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด แม้จะเป็นกลุ่มธุรกิจนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หลากหลายแบรนด์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นจากยุโรปและเอเชีย ยี่ห้อซีตรอง, สโกด้า, เซียท, รถแต่งเอ็มทีเอ็ม, สปายเกอร์ และโฟตอน แต่กลุ่มดีเอดีฯ ยังคงมุ่งเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของแบรนด์ที่ถือสิทธิ์อยู่ อย่างซีตรองที่จะนำเข้ารถในตระกูล “ดีเอส” มาทำตลาดในไทยครบไลน์ หรือแม้แต่รุ่นคลาสสิคอย่างตระกูล “ซี” ด้วย ขณะเดียวกันยังเดินหน้าคว้าสิทธิ์แบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดต่อเนื่องเช่นกัน
“หากมีโอกาสและเห็นอนาคตที่ดี เราจะพยายามนำเข้าแบรนด์ใหม่ๆ มาทำตลาดแน่นอน เพราะการมีรถยนต์หลากหลายแบรนด์ จะทำให้สามารถรองรับความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างหนึ่ง หากสถานการณ์ตลาดเปลี่ยนแปลงไป”
นั่นเป็นคำกล่าวของ “วิเชียร ลีนุตพงษ์” ประธานกรรมการบริหารกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ และว่า... “แต่หากดูทิศทางตลาดปัจจุบัน ดีเอดีฯ คงไม่ลงไปเล่นในตลาดรถขนาดเล็ก เพราะการแข่งขันกันรุนแรง และมีคู่แข่งเยอะที่ล้วนแข็งแกร่ง ดังนั้นเราคงจะมุ่งไปตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีลูกค้าชัดเจนมากกว่า”
“ปัจจุบันกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ ถือสิทธ์รถแต่งสปีด อาร์ต(Speed ART) เพียงแต่ยังไม่เปิดตัวทำตลาด และยังมีปลายปีนี้ที่จะนำเข้าแบรนด์ใหม่ เป็นรถยนต์จากจีนมาเปิดตัวในไทย แต่จะเป็นแบรนด์ไหน และรูปแบบการทำตลาดอย่างไร จะเปิดเผยรายละเอียดในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายปีนี้”
ส่วนสาเหตุของการยังไม่เปิดตัวทำตลาดรถแต่ง “สปีด อาร์ต” วิเชียรบอกว่าต้องการทำแบรนด์หลักๆ ที่มีอยู่ปัจจุบันให้นิ่งเสียก่อน เพราะเพิ่งปรับโครงสร้างธุรกิจไปเมื่อไม่นาน หลังจากแยกออกมาจากกลุ่มยนตรกิจ และยี่ห้อที่มีอยู่ก็เพิ่งกลับมาทำตลาดเต็มที่ ทำให้มีปัญหาในการส่งมอบรถให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ซีตรอง หรือสโกด้า โดยบริษัทแม่เพิ่งทยอยส่งรถมาให้ แต่ในปีหน้าการส่งมอบรถจะเริ่มเต็มรูปแบบ ทำให้มีรถทำตลาดมากขึ้น
“เหตุนี้เราถึงชะลอการทำตลาดรถแต่งสปีด อาร์ต ซึ่งในปีนี้คงยังไม่สามารถเริ่มได้ แต่ในปีหน้าคงจะทำตลาดแน่นอน” วิเชียรกล่าว
ทั้งนี้ สปีด อาร์ต (Speed ART) เป็นสำนักแต่งรถชื่อดังจากเยอรมนี โดยมีความเชี่ยวชาญในการแต่งรถ “ปอร์เช่” (Porsche) ที่ครอบคลุมทั้งการตกแต่งเครื่องยนต์ โครงสร้างตัวถัง รวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน จึงถือเป็นรถยนต์อีกยี่ห้อหนึ่ง เช่นเดียวกับ “รูฟ” (RUF)
สำหรับรถยนต์จากประเทศจีน ตามที่วิเชียรบอกว่าจะนำเข้ามาทำตลาดในไทยปลายปีนี้นั้น จากรายงานข่าวของกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจระบุว่า เป็นรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ยี่ห้อ “เดวา” (DEVA) โดยจะนำเข้ามาเปิดตัวทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 ช่วงปลายปีนี้
โดยรถเดวาเป็นรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ เช่นเดียวกับ “เกีย เค2900” (Kia K2900) ที่เคยปลุกปั้นมากับมือสมัยอยู่ใต้ชายคากลุ่มยนตรกิจ ซึ่งมีจุดเด่นที่เป็นรถกึ่งปิกอัพและรถบรรทุก จึงสามารถบรรทุกได้เยอะ เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการใช้บรรทุกและขนส่ง ที่สำคัญสามารถจดทะเบียนเป็นปิกอัพได้ ทำให้สามารถวิ่งในเมืองได้ตลอดเวลา
รถบรรทุกเดวาจึงเป็นรถยนต์จากจีนล่าสุด ที่อยู่ในการทำตลาดของกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ ซึ่งปัจจุบันมีเฉพาะรถตู้ยี่ห้อ “โฟตอน” (FOTON) แต่ช่วงที่ผ่านมาชะลอการทำตลาด เพราะมีปัญหาในเรื่องการจดทะเบียน แต่ขณะนี้ได้แก้ปัญหาและรถตู้โฟตอนสามารถจดทะเบียนได้แล้ว โดยตอนนี้ได้มีการสั่งนำรถเข้ามาทำตลาดปกติ และคาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 100 คัน
“เราได้ประสานและชี้แจงรายละเอียดกับกรมขนส่งเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้รถตู้โฟตอนสามารถจดทะเบียนได้เหมือนรถตู้ทั่วไป และเชื่อว่าจะเป็นรุ่นที่ทำยอดขายได้มาก เพราะแนวโน้มความต้องการมีสูง ที่สำคัญราคาของรถตู้โฟตอนอยู่ที่ประมาณ 7 แสนบาท ต่ำกว่าคู่แข่งรถญี่ปุ่น 20-30% จึงน่าจะได้รับการตอบรับดี และปลายปีนี้จะมีการนำเข้ารถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์จากจีนเข้ามาเสริมตลาดอีกยี่ห้อ ทำให้เรามีผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองลูกค้าเชิงพาณิชย์ได้มากขึ้น” วิเชียรกล่าว
สำหรับเป้าหมายการขายรถยนต์ในกลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ โดยรถยนต์ซีตรองจะอยู่ที่ประมาณ 300 คัน ผลิตภัณฑ์หลักจะเป็นรุ่นดีเอส3 แต่ปีหน้าที่จะมีการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ซีตรอง ดีเอส 4 และ 5 รวมถึงรุ่นซี5 ทำให้คาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 600 คัน ขณะที่ยี่ห้อสโกด้าปีนี้น่าจะประมาณ 50 คัน แม้จะมีการเปิดตัวรุ่นซูเพิร์บ และเยติ เข้ามาเสริมรุ่นฟาเบีย แต่การส่งมอบรถจากบริษัทแม่ในปีนี้ทำได้เพียงแค่นี้ โดยปีหน้าน่าจะได้รับการรถมากขึ้น เมื่อรวมกับยี่ห้ออื่นๆ และรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวสู่ตลาด คาดว่ากลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ น่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1,000 คัน
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงการเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์หลากหลาย ดีเอดี ยนตรกิจยังเน้นการบริการหลังการขาย โดยเฉพาะปีนี้ที่แก้ปัญหาการจัดส่งรถจากบริษัทแม่เรียบร้อย ทำให้กลับมามุ่งความสำคัญงานบริการหลังการขายได้เต็มที่ รวมถึงการสต็อกอะไหล่ของยี่ห้อต่างๆ รวมถึงการเปิดตัวโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ อย่างประมาณเดือนมีนาคมปีหน้า จะมีการเปิดตัวโชว์รูมเอ็กซ์คลูซีฟของสโกด้า ที่ใช้งบลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท
นี่เป็นการเสริมทัพของค่ายดีเอดี ยนตรกิจ ที่มุ่งเพิ่มทางเลือกหลากหลายให้กับลูกค้า ขณะเดียวกันก็พยายามหาจุดต่าง มุ่งจับตลาดเฉพาะกลุ่ม ซึ่งไม่เพียงจะหนีการแข่งขันที่รุนแรงแล้ว ยังเป็นลดความเสี่ยงทางธุรกิจอีกด้วย!