สำหรับคนทั่วไป ภาพที่เห็นอยู่นี้อาจจะดูไม่แปลกหรือแตกต่างจากอินไซท์ทั่วไปที่วางขายอยู่ในตลาดเลย แต่ความจริงแล้วนี่คือรุ่นปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความสดใหม่ขึ้น บวกกับความประหยัดน้ำมันที่ทางฮอนด้าเผยว่าดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าแน่นอน
ฮอนด้าเผยโฉมอินไซท์รุ่นนี้ออกสู่ตลาดเมื่อต้นปี 2009 และเป็นการใช้ชื่อนี้กลับมาทำตลาดอีกครั้งหลังจากที่ฮอนด้าเคยใช้กับรถยนต์ไฮบริดสุดไฮเทคที่ขายระหว่างปี 1999-2006 โดยการกลับมาของอินไซท์ในครั้งนี้ต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะอินไซท์ถูกวางให้เป็นรถยนต์ไฮบริดที่เข้าถึงลูกค้าในวงกว้าง ด้วยการแชร์พื้นฐานทางวิศวกรรมร่วมกับ B-Car อย่างแจ๊ซ/ฟิต Z ทำให้สามารถตั้งราคาถูกลงได้
สำหรับในรุ่นปรับโฉม เมื่อดูผ่านๆ อาจจะไม่เห็นความแตกต่างมากนัก แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิมมีความแตกต่างแน่ๆ เพราะอย่างน้อยกระจังหน้าก็ได้รับการออกแบบใหม่ เพิ่มความสปอร์ตขึ้นเช่นเดียวกับลวดลายบนกันชนหน้า ส่วนด้านท้ายมีการเพิ่มแถบโครเมียมคาดกลางตรงฝากระโปรงหลัง รวมถึงกันชนท้ายแบบใหม่ ส่วนล้อแม็กก็เป็นลายใหม่ และในรุ่นที่ใช้ล้อขนาด 15 นิ้วมีการอัพเกรดสเปกยางจาก 175/65R15 มาเป็น 185/60R15
นั่นคือความแตกต่างในเชิงภาพลักษณ์ที่สัมผัสได้ด้วยตา ส่วนเรื่องที่สัมผัสได้ด้วยการขับ ทางฮอนด้าบอกว่าในอินไซท์ใหม่รุ่นปี 2012 มีการปรับปรุงตัวรถให้ตอบสนองความประหยัดน้ำมันขึ้นจากเดิม โดยเมื่อใช้วิธีในการวัดของ EPA หรือ Environmental protection Agency ของสหรัฐอเมริกาแล้ว ตัวเลขดีขึ้นประมาณ 1 ไมล์/แกลลอนในทุกรูปแบบ
ตามปกติแล้วตัวเลขการขับในเมือง/นอกเมือง/ผสมผสานของอินไซท์จะอยู่ที่ 40/43/41 ไมล์/แกลลอน หรือ 16.2/17.4/16.6 กิโลเมตร/ลิตร แต่ในรุ่นใหม่จะอยู่ที่ 41/44/42 ไมล์/แกลลอน หรือ 16.6/17.8/17 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงในส่วนของแอโรไดนามิกบนตัวถังให้มีความเพรียวลมขึ้น โดยเฉพาะการติดตั้งชิ้นส่วนใต้ท้องรถ ซึ่งฮอนด้าบอกว่าทำให้แอโรไดนามิกของตัวรถดีขึ้นจากรุ่นเดิม 2%
หน้าที่ในการขับเคลื่อนเป็นงานของขุมพลังแบบไฮบริด IMA หรือ Integrated Motor Assist มีเครื่องยนต์ 1300 ซีซี i-VTEC เป็นต้นกำลังหลัก พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์เป็นตัวช่วยขับเคลื่อน ซึ่งระบบโดยรวมสามารถผลิตกำลังออกมาได้ 98 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 16.9 กก.-ม. ที่ 1,000-1,700 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT โดยถังน้ำมันที่มีความจุ 10.6 แกลลอน หรือ 42 ลิตร สามารถพารถแล่นทำระยะทางได้มากกว่า 400 ไมล์ หรือ 643 กิโลเมตร
สำหรับราคาขายของอินไซท์ในตลาดสหรัฐอเมริกาตั้งเอาไว้ที่ 18,350-23,540 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 550,000-706,000 บาท และฮอนด้าจะทยอยเปิดตัวอินไซท์ไมเนอร์เชนจ์ตามตลาดต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งในเมืองไทย ใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของคงต้องพึ่งจากผู้นำเข้าอิสระเพียงอย่างเดียว