"สุวิทย์" ลั่นร่างข้อเสนอของกัมพูชาและยูเนสโก ล้วนทำให้ไทยสุ่มเสี่ยงเสียดินแดน เตือนผอ.ยูเนสโก หากดันทุรังนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการฯ ไทยจะประกาศถอนตัวจากการเป็นภาคีมรดกโลก "เทพมนตรี" ยึดมั่นจุดยืนไทยควรลาออกเท่านั้น ไม่ควรขอให้เลื่อนการประชุม
นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บรรณาธิการข่าวความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ว่าเมื่อเวลา 20.15 น. เวลาในไทย ตรงกับเวลา 15.15 น.ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าทีมเจรจามรดกโลกของไทย ได้นำทีมรวมถึงนายอัษฏา ชัยนาม เข้าพบนางอิริน่า โบโกว่า ผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก เพื่อหารือขั้นสุดท้าย ถึงถ้อยคำที่ยังติดใจ ในร่างของยูเนสโก มีการเสนอให้เลื่อนแผนบริหารจัดการออกไป แต่ก็มีข้อความที่หัวหน้าคณะไม่สบายใจ ต้องการให้เอาออก เช่น คำว่า restoration และ reparation (บูรณะซ่อมแซม) ซึ่งถ้ามีสองคำนี้จะทำให้เกิดการตีความตามมา ขอให้ใช้คำว่า protection and conservation (การคุ้มครองและการอนุรักษ์) ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่เป็นเรื่องใหญ่มากของหัวหน้าคณะทำงาน
ทั้งนี้ นายเสริมสุขรายงานก่อนหน้านี้ว่า นาย คีซอ ราว KISHORE RAO หัวหน้าศูนย์มรดกโลก ซึ่งทำหน้าที่เลขานุการของการประชุมมรดกโลก ได้พูดคุยกับหัวหน้าคณะเจรจามรดกโลกไทย เพื่อหาข้อยุติร่วมกันให้ได้ต่อ DRAFT DECISION หรือ ร่างมติผลการประชุมล่วงหน้าที่ทั้งสองฝ่ายยังเห็นต่าง แม้ในหลักการจะเห็นตรงกัน ต่อเรื่องแผนบูรณะตัวปราสาท ทางกัมพูชาใช้คำว่า restoration and reparation ที่หมายถึงการซ่อมแซมหลังเกิดความเสียหายที่กัมพูชาสรุปว่าเป็นฝีมือการยิงของทหารไทย ฝ่ายคณะไทยเลือกใช้คำว่า conservsation and protection ซึ่งเป็นคำที่มีเนื้อหาแตกต่างจากที่กัมพูชาเสนอ ไทยยังมีเงื่อนไขว่าในการบูรณะต้องไม่ละเมิดอธิปไตยของไทย ตรงนี้อาจทำให้กัมพูชา ไม่ happy และหากตกลงกันไม่ได้ อาจดันเข้าที่ประชุมใหญ่ให้ลงคะแนน ต้องรอฟังผลการประชุมวันนี้จะออกอย่างไร
นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าคณะฝ่ายไทย แถลงต่อผู้สื่อข่าว ว่ามีการเจรจาหาข้อมติร่างข้อตกลงร่วมระหว่างไทยและกัมพูชา โดยทางผู้อำนวยการศูนย์มรดกโลกให้ไทยและกัมพูชาเสนอร่างฝ่ายละฉบับ แต่มีข้อแตกต่างกันมาก ไม่สามารถร่างเป็นมติร่วมกันได้ โดยฝ่ายไทยเห็นว่าร่างของทางกัมพูชานั้นมีความสุ่มเสี่ยง ที่จะทำให้ไทยเสียดินแดน ทางด้านนายคีซอ ราว จึงได้เสนอร่างของยูเนสโกเพื่อนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการมรดกโลก โดยนายสุวิทย์ได้ขอดูร่างดังกล่าวแล้วพบว่าร่างของยูเนสโก ก็มีบางถ้อยคำที่ทำให้ไทยมีความสุ่มเสี่ยงจะเสียดินแดน ฝ่ายไทยจึงไม่รับร่างนี้ และนายสุวิทย์ได้บอกกับผู้อำนวยการยูเนสโกว่า ถ้ายังดันทุรังจะพิจารณาร่างนี้ ประเทศไทยก็อาจต้องประกาศถอนตัวจากการเป็นภาคีอนุสัญญา มรดกโลก
ล่าสุด นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าทีมเจรจามรดกโลกของไทย เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ ดังนี้
22.00 น. "ก่อนมาที่ปารีส ครม.ได้ให้อำนาจในการตัดสินใจในบางกรณีมาด้วย เผื่อจำเป็นต้องใช้หากไม่ได้ข้อสรุปที่เราพอจะยอมรับได้"
23.00 น. "ค่อนข้างกังวลกับร่างสรุปฉบับยูเนสโก ทุกคนรับผิดชอบงานคนละส่วน วันนี้ยังไม่จบ เรายังมีเวลาอีกพอสมควรครับ"
23.25 น. "ทราบว่ามีบางท่านรอผลการประชุมในวันนี้ (คืนนี้เวลาไทย) ผมแจ้งให้ทราบก่อนนะครับว่าการประชุมในบางวาระ อาจเลื่อนไปพิจารณาในวันต่อไปก็ได้"
23.30 น. "ในกรณีของไทยเรา ผมคาดว่าวันนี้น่าจะได้ข้อสรุปครับ ดึกสักหน่อย ซึ่งก็ดีครับ ทำให้เรามีเวลาทำงานเพิ่มจากเดิม"
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. นายสุวิทย์ ได้โทรศัพท์ไปรายงานนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว ว่าบรรยากาศการประชุมหารือวันนี้เป็นอย่างไรบ้า ง รวมทั้งแจ้งเรื่องที่อาจจะต้องถอนตัวจากภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็บอกว่าให้ดูตามสถานการณ์การเจรจาว่าเป็นอย่างไร ส่วนอำนาจการตัดสินใจนั้นเป็นอำนาจของตนเพราะที่ประชุม ครม. ได้มอบหมายหน้าที่ให้แล้ว
ก่อนหน้านี้ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า "ผมต้องขออนุญาตอธิบายอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อความเข้าใจอันดีที่มีต่อกัน
1. ผมเห็นว่าเราควรลาออกไม่ควรให้มีการเลื่อน อันนี้ชัดเจนนะครับ
2. ผมไปในฐานะผู้สังเกตการณ์ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ออกความเห็นย่อมเป็นไปไม่ได้เช่นกัน ผมไม่ได้มีตำแหน่งแห่งหนใด ไม่ได้เป็นข้าราชการหรือนักการเมือง กรรมการมรดกโลกก็ไม่ได้เป็น
3. ผมกลัวถูกฟ้องว่าทำให้เสียดินแดนโทษสูงสุดคือประหารชีวิต หรืออย่างเก่งจ้องไปกินข้าวแดงอยู่ในคุกตลอดชีวิต ส่วนคนอื่นที่มาเขาไม่กลัวก็ช่างเขา (แต่ผมกลัวมาก)
4. ผมจะบอกคุณสุวิทย์ทุกอย่างแล้วให้เขาตัดสินใจเอง หวังว่าทุกท่านคงเข้าใจสถานภาพของผมนะครับ ผมเห็นว่าเราต้องลาออกครับ"