หลังสร้างกระแสความคึกคักเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ ที่มีผู้คลิ๊กอ่านข่าวจำนวนกว่าแสนครั้ง (คลิ๊กอ่านรายละเอียด) สำหรับการเผยโฉมคันจริง “โตโยต้า คัมรี่ใหม่” เพื่อบุกตลาดรถยนต์ครอบครัวในกลุ่ม D-Segment ของสหรัฐอเมริกา โดยจะเริ่มขายในช่วงปลายปีนี้ และเปิดราคาถูกกว่ารุ่นเดิมอยู่ราวๆ 200-1,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 6,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ซึ่งคัมรี่ใหม่จะมีราคาอยู่ระหว่าง 22,500 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 675,000 บาท และ 25,900 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 777,000บาท
แต่สำหรับในเมืองไทยอาจจะต้องรอกันอีกสักนิด คิดว่าการเข้าทำตลาดน่าจะมีขึ้นในช่วงปีหน้า โดยหน้าตาของคัมรี่ที่ขายในบ้านเราจะเป็น Asian version ซึ่งมีความต่างออกไป แต่จะมากน้อยแค่ไหน คงต้องรอดูหลังจากเปิดตัวกันไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องให้กับคัมรี่ใหม่ที่จะลงสู้ศึกเมืองลุงแซม “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ทำการสำรวจคู่แข่งในตลาด ดูความพร้อมของแต่ละค่ายว่าจะมีโมเดลทีเด็ดที่อัพเกรดและยกระดับ หวังขึ้นมาเขย่าบัลลังก์แชมป์รถยนต์คลาส D รุ่นนี้จากโตโยต้าได้อย่างไรกันบ้าง
ฮุนได โซนาตา
เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2009 และน่าจะมีการปรับโฉมในเร็วๆ นี้ โดยในตลาดเกาหลีใต้ ทางฮุนไดกระตุ้นตลาดให้กับโซนาตาไปแล้วครั้งหนึ่งกับการปรับโฉมเพียงเล็กน้อยแบบขัดตาทัพ และปรับไลน์อัพของรุ่นเครื่องยนต์ใหม่ ส่วนในตลาดโลก โซนาตาน่าจะมีการปรับเปลี่ยนหน้าตามากกว่านี้
แน่นอนว่าฮุนไดนำเสนอทางเลือกในการแข่งขันกับคัมรี่ในตลาดสหรัฐอเมริกาอย่างเต็มที่ เพราะมีทั้งรุ่นปกติเครื่องยนต์ 2000 ซีซี ตัวแรง 2000 ซีซี เทอร์โบ 274 แรงม้า และรุ่นไฮบริด ส่วนราคาเริ่มต้นอยู่ในระดับต่ำกว่าคัมรี่ โดยสตาร์ทไม่ถึง 20,000 เหรียญสหรัฐฯ อยู่ที่ 19,695 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 590,000 บาท
เชฟโรเลต มาลิบู
เป็นผลผลิตที่ค่อนข้างใหม่เพราะว่าเผยโฉมคันจริงให้เห็นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเพิ่งจะเริ่มทำตลาดสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายปี ซึ่งทางเชฟโรเลต แบรนด์ดังในเครือจีเอ็มจัดการปรับทัพและแนวคิดของมาลิบูให้เป็นรถยนต์ World Car สำหรับขายทั่วโลกหลังจากหมกตัวขายอยู่ในบ้านตัวเองเท่านั้น
สิ่งที่ทางเชฟโรเลตมั่นใจว่ามาลิบูจะสามารถแข่งกับคัมรี่ได้ คือ การปรับปรุงในเรื่องงานออกแบบให้ดูลงตัวและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนลุคใหม่เหมือนกับครูซ, อาวีโอ และแคปติวา ส่วนราคาก็สตาร์ทที่ 21,975 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 659,000 บาท
แม้ทางเลือกของเครื่องยนต์จะไม่มีรุ่นไฮบริดวางขาย แต่เชฟโรเลตก็มีรุ่นประหยัด ECO ซึ่งเป็นการใช้เครื่องยนต์ 2400 ซีซี พร้อมระบบ eAssist ซึ่งจะมีมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน เพื่อทำหน้าที่ชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในระบบและส่งให้กับการใช้งานในส่วนต่างๆ ของตัวรถ เพื่อช่วยภาระให้กับเครื่องยนต์ และทำให้มีความประหยัดน้ำมันขึ้น
ฮอนด้า แอคคอร์ด
อยู่ในช่วงปลายอายุตลาด และรุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์ยังไม่มา แต่คาดว่าจะเข้ามาขายในปลายปีหน้าเป็นอย่างช้าที่สุด ส่วนรายละเอียดของแอคคอร์ดใหม่เท่าที่มีการเปิดเผยออกมา คือ จะมีการเพิ่มรุ่น PHEV หรือ Plug-in Hybrid Electric Vehicle ซึ่งสามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้ โดยตัวรถสามารถวิ่งในโหมด EV หรือไฟฟ้าด้วยการอาศัยกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ และสามารถทำระยะทางได้ประมาณ 30 กิโลเมตร และเมื่อไปถึงที่หมายก็สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้
ฟอร์ด ฟิวชั่น-ทอรัส
เป็นรถยนต์อีกรุ่นในตลาดที่มาพร้อมกับความสด เพราะว่าเพิ่งจะปรับโฉมขายกันเมื่อปี 2010 ในอดีตฟอร์ดเคยได้รับความนิยมจากลูกค้ากลุ่มนี้ และรถยนต์อย่างทอรัสก็ผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ในด้านนี้ของโลกด้วยยอดขายสูงสุด ก่อนที่จะถูกล้มโดยคัมรี่ สำหรับราคาของฟิวชั่นจะตั้งเอาไว้ต่ำมาก อยู่ในระดับ 19,850 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 650,000 บาท
ปิดท้าย นอกจากคู่แข่งซึ่งเป็นที่จับตามองแล้ว ในส่วนการขยับบทบาทของคัมรี่ใหม่เองในสนามแข่ง ก็เป็นที่จับตามองไม่แพ้กัน ถ้าใครได้มีโอกาสติดตามความเคลื่อนไหวของคัมรี่ใหม่ในสหรัฐอเมริกา จะพบว่าโตโยต้าได้ใช้มอเตอร์สปอร์ตเป็นสื่อกลางในการนำเสนอ ความยอดเยี่ยมของตัวรถผ่านทางการโชว์สมรรถนะในสนามแข่งเหมือนกับเป็นยานยนต์ที่มี DNA เดียวกัน
แน่นอนว่าในภาพยนตร์โฆษณาชุดแรกของคัมรี่ใหม่มาพร้อมกับการสื่อให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของทั้ง 2 ด้าน ด้วยการนำตัวแข่ง NASCAR มาประกบ และมีไคล์ บุสช์ แชมป์ NASCAR ในสังกัดของโตโยต้าเมื่อปี 2009 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์หลัก ขณะที่ทีมโตโยต้าประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์โลกประเภททีมผู้ผลิตของรายการนี้ถึง 3 ปีซ้อนนับตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปี 2010
นอกจากนั้น ทางโตโยต้าเองยังได้นำคัมรี่ใหม่มาดัดแปลงเป็น Pace Car หรือรถยนตร์สำหรับแล่นนำขบวนรถแข่งประจำการแข่งขัน NASCAR รายการเดย์โทนา 500 ที่สนามเดย์โทนา สปีดเวย์ มลรัฐฟลอริด้า ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ปีหน้า และเดย์โทนา 500 จะเป็นสนามเปิดซีซั่น 2012 ของการแข่งขันแนสคาร์ สปรินต์ คัพ ซีรีส์
ตรงนี้ถือเป็นการช่วยโปรโมตและกระตุ้นตลาดได้เป็นอย่างดี เพราะว่าการแข่งขันเดย์โทนา 500 มีการถ่ายทอดไปยังตลาดแห่งอื่นๆ ทั่วโลก แต่จะมีผลต่อยอดขายที่จะต้องฟาดฟันกับคู่แข่งในตลาดหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป...