ถือว่าเป็นการปล่อยของออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่องแบบไม่ให้พักหายใจกันเลย เพราะหลังจากทยอยส่งตัวถังหลักอย่างแฮทช์แบ็ก และสเตชันแวกอนลงขายในตลาดนับจากช่วงต้นปี 2011 แล้ว คราวนี้ถึงคิวของความแรงและเร้าใจในรหัส ST
แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าที่ผ่านมา เพราะคุณพ่อบ้านที่ชอบความอเนกประสงค์แต่รักความแรงก็จะมีข้ออ้างในการหารถยนต์ที่มีจุดเด่นในทั้ง 2 ด้านได้แล้ว เพราะในรุ่นนี้ฟอร์ดขยายทางเลือกของรหัส ST มายังตัวถังแวกอนด้วย
สำหรับ ST หรือ Sports Technologies ก็เหมือนกับรหัส GTI ที่โฟล์คสวาเกนมีเป็นทางเลือกแห่งความแรงที่ถูกอัพเกรดจากรุ่นมาตรฐาน และอยู่คู่กับรถยนต์ของฟอร์ดหลายรุ่นทั้งเฟียสต้า, โฟกัส และมอนเดโอ ซึ่งตัวรถได้รับการปรับปรุงและพัฒนาจากความร่วมมือหลายฝ่ายทั้งฟอร์ด ทีม อาร์เอสที่ดูแลในเรื่องของทีมแข่ง WRC และหน่วยงานด้านความแรงของฟอร์ดอเมริกาอย่าง SVT-Special Vehicles Team เพราะในปัจจุบันรถยนต์รุ่นมาตรฐานของฟอร์ดไม่ได้เกิดมาเพื่อตลาดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่จะต้องถูกส่งขายภายใต้แนวคิด One Ford ไปยังตลาดทั่วโลก
ในครั้งนี้จะแชร์พื้นฐานของโฟกัสใหม่ และเริ่มบุกตลาดระลอกแรกด้วยรุ่นแฮทช์แบ็กในปลายปีนี้ ส่วนใครที่ชอบความอเนกประสงค์ ต้องรอประมาณกลางปี 2012 โดยทางโจสต์ คาปิโต้ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูง หรือ Global Performance Vehicles ของฟอร์ดเผยว่า สำหรับโฟกัส ST ใหม่ถือเป็นรถยนต์ที่สามารถตอบสนองความเร้าใจในการขับขี่อย่างมาก และป็นรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นแรกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจากโครงการใหม่อย่าง Global Production Vehicles ของฟอร์ด ในการตอบสนองในด้านสมรรถนะต่อความต้องการของผู้คนทั่วโลก
ในแง่ของความโดดเด่นทางด้านรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน โฟกัส ST ตอบสนองด้วยความสวยสปอร์ตกับชุดสเกิร์ตที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับรุ่นนี้โดยเฉพาะ รวมถึงการออกแบบกันชนหน้าและหลังใหม่เพื่อเพิ่มความดุดันจากรุ่นมาตรฐาน ส่วนภายในก็เติมแต่งเพิ่มความลงตัวด้วยเบาะนั่งแบบบักเก็ตซีททรงสปอร์ตจาก Recaro พร้อมกับชุดแต่งเพื่ออัพเกรดความเร้าใจได้เป็นอย่างดี
ในรุ่นที่แล้วมากับเครื่องยนต์ 5 สูบ 2500 ซีซี แต่ในรุ่นนี้มีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายแบบ ‘ความจุลดลง แต่ม้าเท่าเดิม’ ด้วยเครื่องยนต์ EcoBoost ซึ่งฟอร์ดนำมาเปิดตลาดยุโรปอยู่พักหนึ่งแล้วกับรถยนต์อย่าง S-Max โดยขุมพลังบล็อกนี้เป็นแบบ 4 สูบ 2000 ซีซี เทอร์โบที่ได้รับการติดตั้งระบบ Di หรือ Direct Injection พร้อมระบบความแปรผัน 2 ฝั่งแบบ Twin-independent Variable Cam Timing (Ti-VCT)
ผลคือ กำลังขับเคลื่อนเท่ากับรุ่นเดิม อยู่ที่ 250 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 36.7 กก.-ม. มีระดับการคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง แต่ทว่ามีความประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% ขณะที่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะได้รับการปรับอัตราทดให้เหมาะสมสำหรับการขับเคลื่อน เพื่อรีดสมรรถนะทั้งตีนต้นและตีนปลาย
และอีกสิ่งที่ฟอร์ดให้ความสำคัญ คือ การปรับเสียงคำรามของเครื่องยนต์ ซึ่งจะต้องตอบสนองแบบดุดัน โดยคาปิโต้บอกว่าในรุ่นที่แล้ว นักขับชื่นชอบเสียงคำรามของ ST อย่างมาก แต่ในรุ่นนี้เมื่อเครื่องยนต์เปลี่ยนจากแบบ 5 สูบมาเป็น 4 สูบ ย่อมส่งผลกระทบอย่างแน่นอน และงานนี้เหมือนกับการปรับแต่งชนิดที่จะต้องเอาใจแฟนเพลงของทั้งโมสาร์ท และบีโธเฟ่นกันเลยทีเดียว
ในรุ่นนี้แม้ว่าจะใช้ระบบช่วยผ่อนแรงไฟฟ้าแต่ก็มีการปรับเซตให้ตอบสนองในแง่ของความสปอร์ตได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับการติดตั้งระบบช่วยป้องกันอาการดึงของพวงลัยจากการกระแทกคันเร่งอย่างรุนแรง อย่างระบบ Torque Steer Compensation (TSC) ส่วนระบบควบคุมการทรงตัว หรือ ESP ก็มีการติดตั้งมาให้จากโรงงาน และปรับโปรแกรมการทำงานเพื่อให้หลากหลายกับการขับทั้งแบบปกติ และแบบสปอร์ตที่ต้องการเน้นสมรรถนะ ส่วนล้อแม็กที่ติดรถเป็นขนาด 18 นิ้วกับยาง 235/40R18 และลดความสูงลงจากรุ่นเดิม 10 มิลลิเมตร
ปลายปีนี้ ฟอร์ดพร้อมส่งโฟกัส ST ลุยตลาดอย่างแน่นอน และส่งขายในอีก 40 ประเทศทั่วโลก ส่วนบ้านเราก็คงยากที่จะเข้ามา ได้แต่เฝ้ารอว่าเมื่อไรรุ่นปกติของโฟกัสจะเข้ามาทำตลาดสักที
