ในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา นอกจากการเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการของรุ่นคาร์ม่า (Karma) แล้ว ทางด้านฟิสเคอร์ บริษัทถยนต์ระดับหรูแบรนด์ใหม่ล่าสุด ประกาศเตรียมรุกตลาดอีกครั้ง จับเอาคาร์ม่ามาต่อยอด พลิกแนวตลาดด้วยตัวถังทรงสปอร์ต 5 ประตู และเตรียมขายในปี 2013 ด้วยชื่อ เซิร์ฟ (Surf)
จะว่าไปแล้วโครงการ Surf ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการแตกไลน์ตัวถังให้กับ Karma เพราะแทนที่จะเป็นแบบ 3 กล่องในสไตล์ซีดาน 4 ประตู ก็เปลี่ยนสไตล์มาเป็นแฮทช์แบ็กทรงสปอร์ต 5 ประตู โดยโครงสร้างพื้นฐานของตัวรถช่วงด้านหน้าจนถึงเสากลางใช้ร่วมกัน เช่นเดียวกับเทคโนโลยี E-REV ที่ทางฟิสเคอร์เรียกว่า EVer หรือ Electric Vehicle with extended range
โปรเจกต์นี้ยังได้รับการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดผ่านทางเฮนริก ฟิสเคอร์ ซึ่งนั่งควบทั้งซีอีโอของบริษัท และผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ และทางฟิสเคอร์เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2009 แล้ว โดยทำงานควบคู่กับการพัฒนารุ่นซีดาน 4 ประตู แต่จุดที่แตกต่างจากตัวถังซีดาน คือ งานออกแบบตัวถังด้านท้ายใหม่ในสไตล์แฮทช์แบ็กที่มาพร้อมกับความอเนกประสงค์มากขึ้นกว่าเดิม แต่ยังคงความสปอร์ตในระดับหรูหรา และเพิ่มความเร้าใจด้วยล้อแม็กลายใหม่ขนาด 22 นิ้ว พร้อมอวดคาลิเปอร์สีส้มเข้มของ Brembo อยู่ภายใน
เทคโนโลยีการขับเคลื่อนของฟิสเคอร์ยังตอบสนองความเร้าใจและความประหยัด รวมถึงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเลือกใช้เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่มีโหมดขยายขีดความสามารถในการขับเคลื่อน แต่ก็มีการปรับรูปแบบการทำงานให้แตกต่างจากระบบ E-REV ทั่วไป โดยฟิสเคอร์เรียกระบบของตัวเองว่า EVer
ในระบบ E-REV ทั่วไป มอเตอร์ไฟฟ้าจะรับหน้าที่หลักในการขับเคลื่อน โดยที่เครื่องยนต์สันดาปภายในทำหน้าที่แค่ชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ ส่วนระบบ EVer ของฟิสเคอร์ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ซึ่งมีกำลังสูงสุดตัวละ 201.5 แรงม้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนเพลาท้าย
มอเตอร์ไฟฟ้าชุดนี้ได้รับกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่แบบลิเธียมจาก 20 kWh ที่ทางฟิสเคอร์ร่วมพัฒนากับทาง A123 บริษัทผลิตแบตเตอรี่ในเมืองวอร์เตอร์ทาวน์ มลรัฐแมสซาชูเซ็ตต์ โดยแบตเตอรี่ชุดนี้ใช้เวลาในการชาร์จ 6 ชั่วโมงสำหรับไฟขนาด 220 โวลต์ หรือ 14 ชั่วโมงสำหรับไฟ 110 โวลต์ และแล่นทำระยะทางได้ 80 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ขณะที่เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบ 4 สูบ 2000 ซีซี เทอร์โบ รหัส ECOTEC ของจีเอ็มมีกำลังสูงสุด 260 แรงม้า ทำหน้าที่ในการชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ ซึ่งน้ำมัน 1 ถัง เครื่องยนต์สามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าเพียงพอสำหรับแล่นในระยะทาง 250 ไมล์ หรือ 402 กิโลเมตร หรือเพิ่มอีก 80 กิโลเมตรเป็น 482 กิโลเมตรหลังรวมกับกระแสไฟฟ้าที่ถูกชาร์จมาจนเต็มในแบตเตอรี่ผ่านการเสียบปลั๊ก
ส่วนโหมดการขับเคลื่อนมีให้เลือก 2 แบบ คือ Stealth Mode ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า มีอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 7.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 153 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แต่ถ้าต้องการเพิ่มสมรรถนะในการขับเคลื่อนก็เข้าสู่ Sport Mode มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัวจะทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ รีดกำลังออกมาได้ 403 แรงม้า โดยที่เครื่องยนต์จะถูกสตาร์ทขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ปั่นไฟให้เพียงพอกับการผลาญกระแสไฟฟ้าอย่างรวดเร็วตามรูปแบบการขับ โดยจะมีตัวเจนเนอเรเตอร์ขนาด 175 กิโลวัตต์ถูกเครื่องยนต์หมุนเพื่อชาร์จกระแสไฟฟ้า ซึ่งในโหมดนี้ มีอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 5.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 201 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ใครที่สนใจตัวถังทรงอเนกประสงค์มาดสปอร์ตของฟิสเคอร์ก็ต้องรออีกสักนิด เพราะถึงเปิดตัวแล้วแต่ก็ยังไม่ขายจริง ต้องรอจนถึงช่วงปลายปี 2012 ส่วนราคายังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้ แต่คงใกล้เคียงกับรุ่นคาร์ม่า ซึ่งตั้งเอาไว้ที่ประมาณ 85,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบๆ 2.6 ล้านบาท