หลังจากมีข่าวออกมาให้ติดตามพร้อมกับภาพร่างคร่าวๆ ในตอนนี้ผลผลิตจาก i Project ก็กลายเป็นคันจริงรอให้สัมผัสแล้ว เมื่อทางบีเอ็มดับเบิลยูเผยโฉมแรกของ i3 คันต้นแบบออกมา ก่อนที่จะอวดโฉมบนเวทีในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 เดือนกันยายนนี้
i Project เป็นแผนงานที่บีเอ็มดับเบิลยูต้องการสร้างความแตกต่างจากรถยนต์สายพันธุ์อื่นๆ ของบริษัท โดย i เป็น Sub Brand ที่เน้นทำตลาดในกลุ่มรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมภายใต้รูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า และพลังงานทางเลือกแบบอื่นๆ ที่เน้นความยั่งยืนในการขับเคลื่อน
ส่วน i3 ถือเป็นผลผลิตที่ต่อยอดมาจากโครงการ Mega City ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูเพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดในอนาคต และพร้อมวางขายอย่างเป็นทางการในปี 2013 ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่บีเอ็มดับเบิลยูจะกล้ากล่าวอย่างเต็มปากว่า ‘i3 คือ รถยนต์พลังไฟฟ้าแบบไฮเอนด์รุ่นแรกของโลกที่มีการวางขาย’
i3 มาพร้อมกับตัวถังที่กะทัดรัดสำหรับรองรับกับการใช้งานในเมือง ภายใต้ตัวถังทรงแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ซึ่งมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 200 ลิตร และทางบีเอ็มดับเบิลยูเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาในการผลิตตัวถัง ซึ่งจะส่งผลทั้งในเรื่องของความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะในการขับเคลื่อน
แน่นอนว่าภาพที่เห็นอยู่นี้ยังเป็นต้นแบบ แต่เชื่อว่าคันจริงที่จะเริ่มทำตลาดคงจะมีความเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปลักษณ์อีกพอสมควร แต่รูปทรงโดยรวมคงไม่แตกต่างไปจากนี้แล้ว เช่นเดียวกับสมรรถนะในการขับเคลื่อนของตัวรถ ซึ่ง i3 จะทะยานอย่างเร้าใจด้วยกำลังในระดับ 170 แรงม้า ที่ได้รับจากมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งติดตั้งอยู่ที่เพลาท้าย ในการขับเคลื่อนล้อหลัง และมีแรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม.
ในด้านสมรรถนะทางบีเอ็มดับเบิลยูเผยว่าใช้เวลา 4 วินาทีสำหรับอัตราเร่งจาก 0-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ 8 วินาทีสำหรับ 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนอรรถรสในการขับให้การตอบสนองที่เร้าใจและการทรงตัวที่เยี่ยม เพราะ Drive Module ซึ่งรวบรวมแบตเตอรี่และสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนจะถูกวางใต้พื้นตัวถัง และอยู่ในระดับต่ำ ทำให้สามารถออกแบบตัวรถมี CG หรือ Center of Gravity ที่ต่ำ ขณะที่ระยะทางที่แล่นได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้งยังไม่มีการเปิดเผย แต่เชื่อว่าน่าจะอยู่ในระดับ 100 กิโลเมตรปลายๆ
สำหรับแฟนๆ ของค่ายบีเอ็มดับเบิลยูอดใจรอกันอีกสักนิด เพราะโปรเจกต์นี้จะเริ่มวางขายอย่างเป็นทางการในปี 2013 ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้
i Project เป็นแผนงานที่บีเอ็มดับเบิลยูต้องการสร้างความแตกต่างจากรถยนต์สายพันธุ์อื่นๆ ของบริษัท โดย i เป็น Sub Brand ที่เน้นทำตลาดในกลุ่มรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมภายใต้รูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า และพลังงานทางเลือกแบบอื่นๆ ที่เน้นความยั่งยืนในการขับเคลื่อน
ส่วน i3 ถือเป็นผลผลิตที่ต่อยอดมาจากโครงการ Mega City ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูเพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดในอนาคต และพร้อมวางขายอย่างเป็นทางการในปี 2013 ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่บีเอ็มดับเบิลยูจะกล้ากล่าวอย่างเต็มปากว่า ‘i3 คือ รถยนต์พลังไฟฟ้าแบบไฮเอนด์รุ่นแรกของโลกที่มีการวางขาย’
i3 มาพร้อมกับตัวถังที่กะทัดรัดสำหรับรองรับกับการใช้งานในเมือง ภายใต้ตัวถังทรงแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ซึ่งมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 200 ลิตร และทางบีเอ็มดับเบิลยูเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาในการผลิตตัวถัง ซึ่งจะส่งผลทั้งในเรื่องของความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะในการขับเคลื่อน
แน่นอนว่าภาพที่เห็นอยู่นี้ยังเป็นต้นแบบ แต่เชื่อว่าคันจริงที่จะเริ่มทำตลาดคงจะมีความเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปลักษณ์อีกพอสมควร แต่รูปทรงโดยรวมคงไม่แตกต่างไปจากนี้แล้ว เช่นเดียวกับสมรรถนะในการขับเคลื่อนของตัวรถ ซึ่ง i3 จะทะยานอย่างเร้าใจด้วยกำลังในระดับ 170 แรงม้า ที่ได้รับจากมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งติดตั้งอยู่ที่เพลาท้าย ในการขับเคลื่อนล้อหลัง และมีแรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม.
ในด้านสมรรถนะทางบีเอ็มดับเบิลยูเผยว่าใช้เวลา 4 วินาทีสำหรับอัตราเร่งจาก 0-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ 8 วินาทีสำหรับ 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนอรรถรสในการขับให้การตอบสนองที่เร้าใจและการทรงตัวที่เยี่ยม เพราะ Drive Module ซึ่งรวบรวมแบตเตอรี่และสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนจะถูกวางใต้พื้นตัวถัง และอยู่ในระดับต่ำ ทำให้สามารถออกแบบตัวรถมี CG หรือ Center of Gravity ที่ต่ำ ขณะที่ระยะทางที่แล่นได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้งยังไม่มีการเปิดเผย แต่เชื่อว่าน่าจะอยู่ในระดับ 100 กิโลเมตรปลายๆ
สำหรับแฟนๆ ของค่ายบีเอ็มดับเบิลยูอดใจรอกันอีกสักนิด เพราะโปรเจกต์นี้จะเริ่มวางขายอย่างเป็นทางการในปี 2013 ส่วนราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้