โฟล์คสวาเกนขะมักเขม้นในการเตรียมเปิดตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้า หรือ EV ให้ทันกับช่วงเวลาที่ทางรัฐบาลเยอรมนีขีดเอาไว้ในปี 2015 โดยตอนนี้จัดการส่งกอล์ฟ EV ล็อตที่ 2 ออกให้กับลูกค้าในเยอรมนีได้ทดลองขับเพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานจริง ก่อนที่จะนำไปสู่การปรับปรุงสำหรับขายจริงในอนาคต
กอล์ฟ EV ล็อตนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 80 คัน และโฟล์คฯ ตัดแบ่งมากถึง 53 คันสำหรับลูกค้าที่อยู่ในเมืองเบอร์ลิน ส่วนที่เหลือส่งไปยังเมืองใหญ่อย่างโวล์ฟบวร์ก และฮันโนเวอร์ โดยลูกค้าที่เข้าร่วมทดสอบและพัฒนาส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเอกชน อย่างเช่น โคคา-โคลา, คอนติเนนตัล, ด็อยท์ บาห์น และด็อยท์ เทเลคอม
รูดอล์ฟ เคิร์บส์ หัวหน้าส่วนดูแลการพัฒนาระบบพลังไฟฟ้าของโฟล์คฯ กล่าวว่า การนำรถยนต์ออกให้บรรดาลูกค้าออกใช้งานจริงนั้นจะมีประโยชน์อย่างมาก เพราะจะช่วยในแง่ของการเก็บข้อมูลภายใต้สภาพการใช้งานจริง ความสามารถของตัวรถในการรองรับกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และความต้องการของลูกค้าที่มีต่อตัวรถ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อมูลที่ถูกนำกลับมาวิเคราะห์เพราะหาจุดร่วมก่อนที่จะมีการผลิตขายจริงในอนาคต
ในการทดลองใช้กอล์ฟ EV ครั้งนี้ลูกค้าสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลของตัวรถผ่านทางแอพพลิเคชันที่อยู่ในโทรศัพท์มือถืออย่าง i-Phone ได้ รวมถึงยังสามารถขอรับคำปรึกษาจากทีมช่างเทคนิคของโฟล์คฯ ผ่านทางเว็บไซต์หรือ Call Center ได้ด้วย
โฟล์คฯ วางแผนในการผลิตกอล์ฟ EV ออกสู่ตลาดปี 2013 โดยปีนั้นจะมีรถยนต์พลังไฟฟ้าจากค่ายนี้รวมแล้ว 3 รุ่นด้วยกัน ซึ่งอีก 2 รุ่นที่เหลือก็คือ UP และ Jetta โดยสเป็กของกอล์ฟ EV มากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 115 แรงม้า ใช้เวลา 11.8 วินาที ในการเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุด 138 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถแล่นทำระยะทางประมาณ 145 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
โปรเจกต์นี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการขยับตัวตามนโยบายของรัฐบาลเยอรมนีที่ประกาศทุ่มเงินจำนวน 1,000 ล้านยูโร หรือ 44,000 ล้านบาท ในการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงโครงการที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ โดยทางรัฐบาลเยอรมนีตั้งเป้าเอาไว้ว่าในปี 2020 บนท้องถนนของประเทศเยอรมนีจะต้องมีรถไฟฟ้าแล่นไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคัน