ข่าวต่างประเทศ-รัฐบาลเยอรมนีหวังเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาและใช้งานรถยนต์พลังไฟฟ้า ด้วยการประกาศอัดงบประมาณเพิ่ม 1,000 ล้านยูโร หรือ 44,000 ล้านบาท ให้กับโครงการวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยตั้งเป้าว่าจะต้องเริ่มต้นใช้ได้ภายในปี 2015
จากการเปิดเผยของแองเจล่า แมร์เคล นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมนี ในงานแถลงที่กรุงเบอร์ลิน ยืนยันว่ารัฐบาลเอาจริงกับการเป็นศูนย์กลางของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป และทางภาครัฐจะให้การสนับสนุนในทุกรูปแบบเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาสนใจรถยนต์ประเภทนี้ โดยนอกจากการเทงบประมาณแล้ว รัฐบาลยังจะลดหย่อนในด้านการเก็บภาษี รวมถึงการจัดพื้นที่สำหรับจอดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์อย่างเต็มที่ ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริง คือ การเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนในเยอรมนีให้ได้ครบ 1 ล้านคันภายในปี 2020
“เราจะเห็นรถยนต์ประเภทนี้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าการเริ่มใช้งานได้อย่างจริงจังจะต้องรออีก 2-3 ปีข้างหน้า แต่ดิฉันมั่นใจว่าผู้ผลิตรถยนต์ของเราจะสามารถก้าวตามกระแสได้ทัน และผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาสู่ตลาดได้ตรงกับช่วงเวลาที่เราคาดหวังเอาไว้” นายกรัฐมนตรีแมร์เคล กล่าว
สำหรับงบประมาณที่เพิ่มเข้ามาในครั้งนี้จะถูกนำไปใช้กับโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและให้ความช่วยเหลือกับผู้ผลิตรถยนต์ในเยอรมนีได้พัฒนา และก่อให้เกิดความเป็นไปได้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ รวมถึงสนับสนุนด้านการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค เช่น แท่นชาร์จสาธารณะและการพัฒนาแบตเตอรี่ ซึ่งทั้งหมดจะมีส่วนช่วยเร่งขั้นตอนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าได้ในระดับหนึ่ง
ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์ในเยอรมนีทั้งโฟล์คสวาเกน, บีเอ็มดับเบิลยู, ออดี้ และเดมเลอร์ต่างก็สนองตอบความต้องการด้านการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อสานฝันให้รถยนต์ประเภทนี้สามารถวางขายได้ในท้องตลาด ขณะเดียวกันทางรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีแมร์เคลก็ให้การสนับสนุนในทุกๆ ด้านสำหรับโปรเจกต์เหล่านี้ด้วยเช่นกัน
จากการเปิดเผยของแองเจล่า แมร์เคล นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเยอรมนี ในงานแถลงที่กรุงเบอร์ลิน ยืนยันว่ารัฐบาลเอาจริงกับการเป็นศูนย์กลางของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป และทางภาครัฐจะให้การสนับสนุนในทุกรูปแบบเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาสนใจรถยนต์ประเภทนี้ โดยนอกจากการเทงบประมาณแล้ว รัฐบาลยังจะลดหย่อนในด้านการเก็บภาษี รวมถึงการจัดพื้นที่สำหรับจอดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์อย่างเต็มที่ ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริง คือ การเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนในเยอรมนีให้ได้ครบ 1 ล้านคันภายในปี 2020
“เราจะเห็นรถยนต์ประเภทนี้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าการเริ่มใช้งานได้อย่างจริงจังจะต้องรออีก 2-3 ปีข้างหน้า แต่ดิฉันมั่นใจว่าผู้ผลิตรถยนต์ของเราจะสามารถก้าวตามกระแสได้ทัน และผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาสู่ตลาดได้ตรงกับช่วงเวลาที่เราคาดหวังเอาไว้” นายกรัฐมนตรีแมร์เคล กล่าว
สำหรับงบประมาณที่เพิ่มเข้ามาในครั้งนี้จะถูกนำไปใช้กับโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและให้ความช่วยเหลือกับผู้ผลิตรถยนต์ในเยอรมนีได้พัฒนา และก่อให้เกิดความเป็นไปได้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ รวมถึงสนับสนุนด้านการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค เช่น แท่นชาร์จสาธารณะและการพัฒนาแบตเตอรี่ ซึ่งทั้งหมดจะมีส่วนช่วยเร่งขั้นตอนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าได้ในระดับหนึ่ง
ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์ในเยอรมนีทั้งโฟล์คสวาเกน, บีเอ็มดับเบิลยู, ออดี้ และเดมเลอร์ต่างก็สนองตอบความต้องการด้านการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อสานฝันให้รถยนต์ประเภทนี้สามารถวางขายได้ในท้องตลาด ขณะเดียวกันทางรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีแมร์เคลก็ให้การสนับสนุนในทุกๆ ด้านสำหรับโปรเจกต์เหล่านี้ด้วยเช่นกัน