ยานยนต์ต้นแบบที่นั่งเดี่ยวซึ่งทางโฟล์คสวาเกนพัฒนาขึ้นมาผ่านการสนับสนุนของกระทรวงคมนาคมของเยอรมนี ในการมองหายนตรกรรมรูปแบบใหม่ในการเดินทางสำหรับคนเมืองในยุคหน้า โดย NILS Concept มาพร้อมกับรูปทรงที่สวยสะดุดตา และเพียบพร้อมด้วยประโยชน์ใช้สอยโดยเฉพาะด้านความคล่องตัว และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการขับเคลื่อนในรูปแบบ EV หรือรถยนต์พลังไฟฟ้า 100%
รูปทรงสุดล้ำใช้ตัวถังที่ผลิตจากอะลูมิเนียม และประตูเปิดขึ้นแบบปีกนก เห็นอย่างนี้แล้วหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นรถยนต์ในฝัน แต่ทว่า NILS Concept ได้รับการพัฒนาร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่ายโดยอยู่บนพื้นฐานแนวคิดที่ว่าขายืนอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง และสามารถผลิตขายจริงได้ในราคาที่คนทั่วไปสามารถซื้อหาเป็นเจ้าของ
เจอร์เกน ลีโอโฮลด์ หัวหน้าทีมวิจัยของโฟล์คกล่าวว่า NILS คือ โครงการรถยนต์แบบ Commuter ที่โฟล์คร่วมมือกับทางกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอทางออกใหม่ ให้กับการเดินทางของคนเมืองด้วยการนำเสนอยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่มีความคล่องตัวสูง และใช้งานง่ายภายใต้รูปแบบการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า โดยโปรเจกต์นี้เป็นการนำเสนอให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐของเยอรมนีในการผลักดันให้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถแจ้งเกิดในแดนเบียร์ได้ตามที่หวังเอาไว้
NILS Concept ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และเป็นยานยนต์ที่ไม่เน้นการเดินทางระยะทางไกลมาก เพราะการชาร์จ 1 ครั้งสามารถแล่นทำระยะทางได้ 65 กิโลเมตร และมีความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยตัวเลขของระยะทางที่ทำได้ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อ้างอิงจากข้อมูลที่เก็บเอาไว้โดยกรมสถิติของเยอรมนีที่ระบุว่า 73.9% ของรถยนต์ที่อยู่ในเมืองมิวนิก และเบอร์ลินจะถูกใช้งานต่อวันไม่เกิน 25 กิโลเมตรในช่วงระหว่างวันทำงาน
แน่นอนว่าในแง่ของการออกแบบ ตัวรถมากับความไฮเทคสุดๆ เพราะประตูเปิดแบบปีกนกมีขนาดใหญ่ ทำให้เข้า-ออกจากห้องโดยสารได้อย่างสะดวก ตัวถังมีความยาว 3.04 เมตร และกว้างเพียงแค่ 0.39 เมตร ส่วนความสูงอยู่ที่ 1.2 เมตร ทำให้การเดินทางเปี่ยมด้วยความคล่องตัว โดยเฉพาะการซอกซอนไปตามคลื่นการจราจรบนท้องถนนในเมือง ส่วนชุดมอเตอร์ขับเคลื่อนวางทางด้านท้าย และใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังโดยใช้ล้อขนาด 17 นิ้วจับคู่กับยางที่มีหน้ากว้างเพียง 115 และ 125 ที่ล้อหน้าและหลัง แถมยังเป็นแบบ Low Rolling Resistance เพื่อช่วยเพิ่มความประหยัดพลังงาน
ตัวรถมีน้ำหนักเบาเพียง 460 กิโลกรัมเท่านั้น และขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 15 กิโลวัตต์ แต่สามารถขยับการถ่ายทอดกำลังเป็น 25 กิโลวัตต์ได้ในช่วงสั้นๆ ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาต่ำกว่า 11 วินาที ส่วนเวลาในการชาร์จพลังงานจากไฟฟ้าขนาด 230 โวลต์เพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูต่อไปว่าสุดท้ายแล้วโปรเจกต์นี้จะออกมาในรูปแบบไหน ส่วนการทำตลาดจริงก็ยังไม่มีการเปิดเผย แต่เชื่อว่าน่าจะหลังปี 2015 เพราะว่าปีนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทางรัฐบาลเยอรมนีกระตุ้นให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมารองรับความต้องการในตลาด
แต่สำหรับผู้ที่อดใจไม่ไหว ไม่อยากรอนานขนาดนั้น แนะนำให้เตรียมบินไปดูรายละเอียดคันจริงได้ในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ หรือ IAA 2011 ที่จะเริ่มรอบสื่อมวลชนวันแรกในวันที่ 13 กันยายนนี้ รับรองได้ยลโฉมคันต้นแบบก่อนใครแน่นอน!
