xs
xsm
sm
md
lg

เจอกันแน่ปลายเดือน มิ.ย. “แคปติวา ใหม่”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“จีเอ็ม” ประกาศก้องเดินหน้าแผนรุกตลาดไทย ชิงนำเปิดเกมรุกครึ่งปีหลัง เตรียมส่ง “เชฟโรเลต แคปติวา” ใหม่ เขย่าตลาดเอสยูวีคอมแพ็กต์ กำหนดเผยโฉมปลายเดือนมิถุนายนนี้ ด้วยการปรับรูปลักษณ์แคปติวาครั้งใหญ่ โดยเฉพาะชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้า ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์เชฟโรเลตรุ่นใหม่ๆ ต่อไป ขณะที่เครื่องยนต์บล็อกใหม่ มีให้เลือกทั้งเบนซิน 2.4 และดีเซล 2.2 ลิตรเป็นทางเลือก จากนั้นอีกเพียงไม่กี่เดือน ถึงเวลาของปิกอัพ “เชฟโรเลต โคโลราโด” โฉมใหม่สู่ตลาดในช่วงประมาณเดือนกันยายน หลังจากเผยโฉมรถต้นแบบเรียกน้ำย่อยไปแล้ว โดยวางเครื่องยนต์ให้เลือก 2 บล็อก เป็นดีเซลคอมมอนเรล 2.8 และ 2.5 ลิตร มั่นใจจะช่วยผนึกกำลังกับ เชฟโรเลต ครูซ รวมถึงรถอเนกประสงค์แบบพีพีวีโมเดลใหม่ และ “เชฟโรเลต อาวีโอ” ที่จะเปิดตัวปีหน้า 2555 รองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน


ในขณะที่หลายค่ายรถญี่ปุ่นกำลังหัวหมุนยุ่งอยู่กับปัญหาการผลิตลดลง จากผลกระทบสึนามิที่ญี่ปุ่น แม้ล่าสุดจะเริ่มกลับมาฟื้นการผลิตบ้างแล้ว แต่กว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ คงต้องใช้เวลาอีก 1-2 เดือน ทำให้ค่ายรถที่ไม่ได้รับผลกระทบ หรือมีเพียงเล็กน้อย ถือโอกาสใช้ช่วงจังหวะนี้รุกตลาด อย่างมิตซูบิชิที่ไม่เพียงประกาศเปิดรับจองและผลิตรถปกติแล้ว ล่าสุดได้เปิดตัว “มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน” รุ่นพิเศษ Navi Limited Edition บุกตลาด หรือฟอร์ดที่เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มเป็นแห่งที่ 100 โดยวางเป้าหมายจะเปิดให้ครบ 130 แห่ง ในปี 2555 รองรับการแนะนำรถรุ่นใหม่ และการขยายตัวของยอดขาย และที่กำลังจะเขย่าตลาดในเร็วๆ นี้ เห็นจะเป็นค่ายเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม (GM) ที่ปีนี้มาแรงอย่างยิ่ง ไม่เพียงตัวเลขยอดขายรถ “เชฟโรเลต” พุ่งเท่านั้น เพราะจากนี้ไปยังมีแผนที่เปิดตัวรถใหม่ต่อเนื่อง แทบจะทุกไตรมาสเลยทีเดียว แม้จะหงุดหงิดอย่างยิ่งกับแนวโน้มอัตราภาษีสรรพสามิตรถใหม่ ที่คณะรัฐมนตรีของนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อนุมัติหลักการในการประชุมนัดส่งท้ายรัฐบาลชุดนี้ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่จีเอ็มยังยืนยันพร้อมที่จะเดินรุกตลาดไทยตามแผน

“แผนการของจีเอ็มในประเทศไทย ยังคงจะเดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะการเปิดตัวรถใหม่ 4 รุ่น ภายใน 14 เดือน ที่ได้เคยประกาศไปในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2011 เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเชื่อมั่นลูกค้าจะชอบในสิ่งที่นำเสนอ เห็นได้จากยอดขายเดือน 4 เดือนแรกของปีนี้ เติบโตถึง 75% ดังนั้นจีเอ็มจึงไม่กลัวการแข่งขัน แต่เพียงขอต่อสู้ในเกมที่เป็นธรรมเท่านั้น”

นั่นเป็นคำกล่าวของ “มาร์ติน แอพเฟล” ประธานกรรมการประจำประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือจีเอ็มประเทศไทย (GM Thailand) และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยภายหลังได้แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ซึ่งจีเอ็มรู้สึกว่าภาครัฐให้ความสำคัญและเอื้อประโยชน์กับบางเทคโนโลยีอย่างไฮบริดมากเกินไป โดยไม่ได้มองผลสุดท้ายของเป้าหมาย ในเรื่องของการลดมลพิษ หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ทำให้ไม่เป็นธรรมกับเทคโนโลยีอื่น แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร? จีเอ็มก็พร้อมยอมรับและจะเดินหน้าในตลาดไทยต่อไป...

“แผนธุรกิจของจีเอ็มในอาเซียนกำลังดำเนินไปได้อย่างสวยงาม เราจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ในเชิงรุก ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายจากผู้แทนจำหน่าย ซึ่งวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น ไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงใดๆ กับจีเอ็ม ในการที่จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า เรามั่นใจและพร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ดี ในการเป็นเจ้าของยนตรกรรมคุณภาพระดับโลก อย่างเชฟโรเลต ครูซ และรุ่นอื่นๆ ที่จะเปิดตัวออกมาในเร็วๆ นี้” แอพเฟลกล่าว

แน่นอนผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แอพเฟลบอกจะทยอยเปิดตัวสู่ตลาดนั้น นอกจากปิกอัพโฉมใหม่ “เชฟโรเลต โคโลราโด” ซึ่งได้มีการเผยโฉมรุ่นต้นแบบ และประกาศจะแนะนำสู่ตลาดไทย ในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 นี้เป็นแห่งแรกในโลกแล้ว หมัดแรกที่จีเอ็มจะส่งมาเขย่าตลาดรถไทย รับการเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดรถครึ่งปีหลัง นับว่าเหลืออีกไม่เพียงถึงเดือนก็จะมาถึงแล้ว

จากรายงานของจีเอ็ม ประเทศไทย ระบุว่าจะมีการเปิดตัวรถอเนกประสงค์เอสยูวีขนาดอคมแพ็กต์ “เชฟโรเลต แคปติวา” ใหม่สู่ตลาดไทย ท้าชนกับ “ฮอนด้า ซีอาร์-วี” ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเป็นรถยนต์โมเดลแรกใน 4 รุ่นใหม่ ที่จีเอ็มได้ประกาศแนะนำสู่ตลาดไทย ภายในระยะเวลา 14 เดือน แม้จะไม่ใช่การปรับโฉม หรือโมเดลเชนจ์ แต่ถือเป็นการปรับรูปลักษณ์ครั้งใหญ่ หรือบิ๊กไมเนอร์เชนจ์เลยทีเดียว

เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานปารีส มอเตอร์โชว์ 2010 ปลายปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะเริ่มทำตลาดในช่วงต้นปีนี้ ซึ่งรูปลักษณ์ไม่แตกต่างจากรุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่ผลิตและทำตลาดในไทยปลายเดือนมิถุนายนนี้ จะมีก็เพียงรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น โดยจุดหลักสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิม (รุ่นปัจจุบันในไทย) ที่สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน เห็นจะเป็นรายละเอียดของชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้าถูกออกแบบใหม่หมด โดยเฉพาะกระจังหน้าและกันชนหน้าขนาดใหญ่ ที่ออกแบบให้ดูเหมือนรวมกันเป็นชุดเดียว แต่มีแถบคาดกลาง ไฟหน้าและฝากระโปรงหน้า รวมถึงแก้มตัวถังด้านข้างได้รับการออกแบบใหม่หมด

ทั้งนี้จะเห็นว่ารูปโฉมด้านหน้าของแคปติวาใหม่ จะมีความเหมือนกับ เชฟโรเลต อาวีโอ โฉมใหม่ รุ่นแฮ็ทช์แบ็กที่เปิดไปในต่างประเทศมาก ซึ่งจะเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์เชฟโรเลตรุ่นใหม่ๆ และมีอิทธิพลต่อการออกแบบปิกอัพเชฟโรเลต โคโลราโด โฉมใหม่ด้วย ส่วนด้านท้ายอาจจะสดใหม่น้อยหน่อย เพราะสิ่งที่ปรับแบบชัดเจนมีแค่ไฟท้าย ขณะที่ห้องผู้โดยสารได้รับการออกแบบใหม่ ด้วยวัสดุและผ้าหุ้มเบาะใหม่ พร้อมมีระบบรองรับความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นช่อง AUX, USB และการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth เป็นต้น

ขุมพลังของแคปติวาใหม่ในยุโรป มีให้เลือก 4 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล โดยที่จะทำตลาดในไทยเป็นเครื่องยนต์บล็อกใหม่ 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2400 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i 167 แรงม้า และอีกรุ่นเป็นเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ แบบ 4 สูบ 2200 ซีซี เทอร์โบ 163 แรงม้า (ต่างประเทศยังมีรุ่น 2.2 ลิตร เทอร์โบ 184 แรงม้า) โดยระบบขับเคลื่อนมีทั้งแบบ 2 ล้อ และ 4 ล้อ (AWD) ให้เลือก

นอกจากนี้ เพื่อให้ตัวรถสามารถตอบสนองกับการขับเคลื่อนได้อย่างลงตัว ทางทีมวิศวกรของเชฟโรเลตมีการปรับแต่งระบบช่วงล่างใหม่ ขณะที่ระบบความปลอดภัยก็ยังติดตั้งมาให้ครบครันเช่นเดิม ทั้งระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันการลื่นไถล ระบบเสริมแรงเบรก และระบบควบคุมการเร็วขณะลงจากทางลาดชัน

เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ นับว่าเป็นหมัดแรกที่ถูกปล่อยออกมานำร่อง เพราะหลังจากนั้นอีกเพียง 2-3 เดือน จะมีไฮไลต์สำคัญของค่ายจีเอ็มตามออกมา นั่นก็คือโฉมใหม่ของปิกอัพ “เชฟโรเลต โคโลราโด” ซึ่งได้เผยโฉมรถต้นแบบออกมาเรียกน้ำย่อย ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2011 ไปแล้ว โดยกำหนดเปิดตัวทำตลาดจริง อยู่ในช่วงประมาณเดือนกันยายน 2554 ที่จะถึงนี้

สำหรับรูปลักษณ์ของเชฟโรเลต โคโลราโด โฉมใหม่ ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ แต่จากรายงานของจีเอ็ม ประเทศไทย ระบุว่าจะไม่แตกต่างจากรุ่นต้นแบบมากนัก มีเพียงรายละเอียดและบางจุดที่จะต้องปรับ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับการใช้งานได้จริง โดยจะวางเครื่องยนต์ 2 บล็อกเป็นทางเลือก ซึ่งที่แน่นอนจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.8 ลิตร และอีกบล็อกกำลังดูความต้องการของตลาด ระหว่าง 2.2 และ 2.5 ลิตร แต่ค่อนข้างชัดเจนจะเป็นขนาด 2.5 ลิตรมากกว่า

นี่คือ 2 หมัดเด็ดในปีนี้ ที่จีเอ็มคาดหวังว่าจะมาช่วยผนึกกำลังกับ เชฟโรเลต ครูซ และรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี (PPV) ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานปิกอัพโคโลราโดมาพัฒนา เพื่อส่งทำตลาดในไทยต้นปีหน้า รวมถึงเชฟโรเลต อาวีโอ โฉมใหม่ ที่จะเปิดตัวช่วงปลายปี 2555 เพื่อทำให้จีเอ็มประเทศไทยเติบโตแบบก้าวกระโดด ขึ้นมาท้าชนกับค่ายรถญี่ปุ่นได้สมศักดิ์ศรียักษ์ใหญ่ระดับโลก!!
กำลังโหลดความคิดเห็น