xs
xsm
sm
md
lg

Jaguar XF/XFR : สดใหม่พร้อมลุยตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นานเหมือนกันสำหรับ XF สปอร์ตซีดานรุ่นใหม่ของจากัวร์ที่เข้ามาแทนที่ S-Type กับการทำตลาดแบบไม่มีความเคลื่อนไหวใหม่ๆ ออกมากระตุ้นยอดขาย เพราะนับจากเปิดตัวครั้งแรกปี 2009 XF ก็ไม่มีการปรับโฉมออกมารับมือกับคู่แข่งอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์, ออดี้ และบีเอ็มดับเบิลยูที่ทะยอยส่งรุ่นใหม่ๆ ของอี-คลาส, A6 และซีรีส์ 5 ออกมาสร้างสีสันในตลาดรถยนต์หรูขนาดกลางกึ่งใหญ่

ดังนั้น ที่เห็นอยู่นี้ถือเป็นการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรกของ XF เพื่อกระตุ้นตลาด แต่ก็คงเป็นงานหนักเอาเรื่องเหมือนกันสำหรับแบรนด์หรูของอังกฤษที่มีเจ้าของเป็นบริษัทอินเดีย ที่จะต่อสู้กับผู้ผลิตรถยนต์หรูจากเยอรมนีที่มีความแข็งแกร่งในตลาดกลุ่มนี้
Jaguar XF

XF เป็นโมเดลใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาภายใต้รหัส X250 โดยเป็นการปรับแนวคิดงานออกแบบมาจากต้นแบบรุ่น C-XF ที่เปิดตัวงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2007 ก่อนที่จะกลายมาเป็นคันจริงสำหรับขายเมื่อปี 2009 โดยเข้ามาแทนที่ S-Type ที่ประสบความล้มเหลวในการต่อกรกับ 3 คู่ปรับหรูแดนเบียร์อย่างออดี้ A6, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส

การพลิกโฉมจาก S-Type มาเป็น XF ทำให้ความเคลื่อนไหวของจากัวร์ในตลาดกลุ่มนี้มีความคึกคักขึ้นมาทันที เพราะงานออกแบบของ Ian Callum ที่ผสมผสานความสปอร์ตและความหรูเข้าด้วยกันอย่างลงตัวโดยมีกลิ่นอายของจากัวร์รุ่นเก่าๆ แฝงเข้ามาตามเส้นสายบนตัวถังด้วยนั้น ทำให้ XF ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดีในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องของการแจกรางวัลของนิตยสารรถยนต์ทั่วโลก ที่ XF ได้รับเลือกให้เป็นรถยนต์ระดับหรูยอดเยี่ยม

สำหรับการปรับโฉมครั้งนี้สังเกตได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ด้านหน้า เพราะเปลี่ยนไฟหน้าใหม่ โดยเส้นขอบด้านบนของโคมไฟจากเดิมที่มีการทำเป็นโค้งนูนขึ้นมาก็ถูกเปลี่ยนใหม่ให้เป็นแบบเรียบ และภายในโคมมีการติดตั้งหลอด LED สำหรับเป็น Running Day-Time Light

ส่วนด้านท้ายเปลี่ยนชุดไฟจากแบบธรรมดามาเป็น LED ทั้งหมด เพิ่มความสวยสะดุดตา เช่นเดียวกับประสิทธิภาพในการส่องสว่าง และความทนทานในการใช้งาน ขณะที่รูปทรงของไฟท้ายยังเหมือนเดิม ยกเว้นการเพิ่มแผงทับทิมที่ด้านล่างของแถบโครเมียมคาดกลางตรงส่วนของฝากระโปรงท้ายเพื่อให้ไฟดูเต็มดวงขึ้น

อย่างไรก็ตาม งานนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนเฉพาะรุ่นธรรมดา สำหรับเวอร์ชันแรงอย่าง XFR ทางจากัวร์ก็มีการปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ด้วยเช่นกัน โดยสิ่งที่ต่างไปจากรุ่นธรรมดาของ XF คือ กันชนหน้าและหลังของ XFR ที่จะออกแบบเพื่อความสปอร์ตและประสิทธิภาพที่สอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์มากกว่า
Jaguar XFR
หลากหลายทางเลือกของเครื่องยนต์เช่นเดิม แต่จุดเด่นที่ถือเป็นไฮไลต์สำหรับ XF คือ การเข้ามาของเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลบล็อกใหม่รหัส AJ-i4D แบบ 4 สูบ 2,200 ซีซี ใช้เทอร์โบแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ลูกสูบออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานในการทำงาน ลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนขณะทำงาน

ขุมพลังบล็อกนี้มีกำลังอยู่ระดับ 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 45.0 กก.-ม. มีอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง ความประหยัดน้ำมันอยู่ระดับ 21.5 กิโลเมตร/ลิตรสำหรับการทำงานแบบผสมผสาน ซึ่งตรงนี้เป็นเพราะมีการนำเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะรุ่นใหม่มาใช้ เช่นเดียวกับการติดตั้งระบบ Auto Start/Stop ซึ่งเครื่องยนต์จะดับเองอัตโนมัติเหมือนกับรถยนต์ไฮบริด

สำหรับในห้องโดยสาร ทางจากัวร์เผยว่ามีการปรับปรุงพอสมควร ทั้งในส่วนของชุดแผงคอนโซลกลาง และแผงมาตรวัด แต่ที่เห็นชัดเจนจากรุ่นที่แล้วคือ เบาะนั่งทั้งด้านหน้าและหลังมีการออกแบบใหม่ ผสานความหรูหราและการนั่งสบายเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ส่วนรุ่นอื่นๆ ที่ทำตลาดก็ยังมีเหมือนเดิม คือ วี8 5,000 ซีซี แบบหายใจเอง หรือ NA มีกำลัง 385 แรงม้า และจะเพิ่มเป็น 510 แรงม้าในรุ่นซูเปอร์ชาร์จ สำหรับรุ่น XFR ส่วนรุ่นเทอร์โบดีเซลซึ่งนอกจากบล็อกใหม่ 2,200 ซีซีแล้วก็ยังมีรุ่นวี6 3,000 ซีซี 240 และ 275 แรงม้าวางตลาดเป็นอีกทางเลือก

เปิดตัวให้สัมผัสคันจริงกันในงานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2011 เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็จริง แต่ทว่าการทำตลาดจริงยังต้องรออีกสักพัก เพราะจากัวร์จะเริ่มวางขายอย่างเป็นทางการกลางปีนี้ ใครที่สนใจก็เก็บเงินรอกันเอาไว้ก่อนได้

กำลังโหลดความคิดเห็น