xs
xsm
sm
md
lg

BMW Concept M5 คันขายจริงไม่ต่างกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไม่รู้ว่าจะทำให้ยุ่งยากเพิ่มขึ้นทำไม เพราะใครๆ ก็รู้ว่าภาพที่เห็นอยู่นี้ แม้ว่าทางบีเอ็มดับเบิลยูจะนำคำว่าต้นแบบ หรือ Concept แปะเข้าไปในชื่อรุ่น แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือ คันจริงของ M5 ใหม่ที่พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของซีรีส์ 5 รุ่นปัจจุบันในรหัส F10/11 นั่นแหละ

ตามกำหนดการ M5 ใหม่พร้อมลงสู่ตลาดอย่างเร็วที่สุดก็กลางปี หรือถ้าช้าหน่อยก็ลากยาวไปจนถึงปลายปี โดยตัวต้นแบบนี้มีคิวเผยโฉมในงานออโต้ เซี่ยงไฮ้ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ โดย M5 รุ่นนี้จะเป็นเจเนอเรชันที่ 5 นับจากค่ายใบพัดสีฟ้าเปิดตัวออกในปี 1984 กับซีรีส์ 5 ในรหัส E28

ในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกดูแลแล้วให้สัมผัสถึงพลังของการขับเคลื่อน และความสวยหรูแบบเรียบง่ายตามแบบฉบับของ M Power ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้า-หลังซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมกับสเกิร์ตข้างเพื่อความปราดเปรียว ล้อแม็กลายสวยซึ่งในคันต้นแบบมากับขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 265/35R20 ทั้ง 4 ล้อ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อเป็นรุ่นขายจริง ลวดลายและไซส์จะเปลี่ยนไหม

ประเด็นหลักของความเปลี่ยนแปลงจาก M5 รุ่นที่แล้ว คือ การปรับ M Car ให้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่ของความต้องการด้านความประหยัดน้ำมัน และความเข้มงวดที่เพิ่มขึ้นของมาตรฐานไอเสีย และในเมื่อบีเอ็มดับเบิลยูไม่ต้องเข้าร่วมการแข่งขัน F1 เพราะถอนทีมออกมาตั้งแต่ปี 2009 แล้ว แถมเครื่องยนต์ F1 ก็เปลี่ยนจากวี10 มาเป็นวี8 ดังนั้น M5 ก็เลยไม่ต้องชูจุดเด่นในเรื่องนี้เหมือนกับรุ่นที่แล้ว

และเพื่อให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ใต้ฝากระโปรงหน้าเราจึงได้เห็นเครื่องยนต์บล็อกใหม่ และจะรู้สึกขัดใจไหมถ้าจะบอกว่า M5 มีการติดตั้งระบบ Auto Start/Stop มาให้เหมือกับรถยนต์ไฮบริด พร้อมกับการชาร์จพลังที่เกิดขึ้นจากการเบรกหรือถอนคันเร่งเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ขนาดเล็กตามแนวคิด Efficient Dynamics ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ M5 รุ่นที่แล้ว ในรุ่นใหม่นี้มีความประหยัดน้ำมันและลดการคายก๊าซพิษในไอ้เสียถึง 25% แต่มีพละกำลังในการขับเคลื่อนใกล้เคียงกัน

ในรุ่นใหม่นี้เป็นเครื่องยนต์วี8 4400 ซีซี เทอร์โบคู่ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความเร้าใจขึ้นภายใต้แนวคิด M TwinPower Turbo Technology แต่ก็ไม่ได้บอกว่าแรงม้าและแรงบิดไปสุดอยู่ที่เท่าไร ซึ่งดูแล้วน่าจะเกิน 500 แรงม้าแน่นอนสำหรับกำลังขับเคลื่อนสูงสุด

ขณะที่หน้าที่ในการส่งกำลังเป็นงานของเกียร์แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ พร้อมโหมด Drivelogic ซึ่งมีการปรับเซตการทำงานให้สอดคล้องกับบุคลิกของเครื่องยนต์วี8 บล็อกนี้ เสริมด้วย LSD แบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยเพิ่มการทรงตัวที่ดีขึ้น เพราะการปรับการกระจายกำลังสามารถแปรผันได้ระหว่างล้อฝั่งซ้ายและขวาบนเพลาเดียวกัน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวขณะเข้าโค้ง

ตรงนี้มั่นใจได้ เพราะทางบีเอ็มดับเบิลยูนำรถออกแล่นทดสอบในสนาม North Loop ของนูร์บูร์กริง เพื่อพิสูจน์สมรรถนะและปรับเซตระบบช่วงล่างให้มีความเหมาะสม สามารถตอบสนองความต้องการของนักขับตัวจริง

แฟนๆ ได้เห็นและรับทราบแล้ว ยังมีเวลาเก็บเงินอีกสักนิด ส่วนราคายังไม่เปิดเผยออกมา แต่ดูจากค่าตัวของ E60 ที่เข้ามาขายในบ้านเราซึ่งตั้งเอาไว้ที่ 15 ล้านบาทโดยประมาณแล้ว งานนี้ไม่น่าจะต่ำกว่านี้แหงๆ






กำลังโหลดความคิดเห็น