ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม รุกหนักตลาดสีพ่นซ่อมรถยนต์ หวังเติบโตตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในเมืองไทย โดยจับมือเชอร์วิน วิลเลี่ยมส์ เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ สีพ่นซ่อมรถยนต์สูตรน้ำ AWX และ ATX สีพ่นซ่อมรถยนต์สูตร Solvent พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 200 ล้านบาท สานฝันสู่การขึ้นเป็นผู้นำอันดับที่ 3 ซึ่งเป็นความท้าทายที่ “ณัฎฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม ออโต้รีฟินนิชเพ้นท์ จำกัด ได้เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” สำหรับกลยุทธ์พิชิตส่วนแบ่งตามเป้าหมาย จากมูลค่าโดยรวมในตลาดที่สูงถึง 3.9 พันล้านบาท
แนวโน้มภาพรวมในตลาด
ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ได้เติบโตขึ้นอย่างมาก แม้ในช่วงระยะเวลาเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทั้งตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการ สามารถติดอันดับ 1 ใน 5 ผู้นำธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ โดยเฉพาะในตลาดสี 2K ซึ่งเป็นตลาดระดับบน แต่เรายังขาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่ใช้ในศูนย์บริการ หรือที่เรียกว่า OEM Approval เป็นตลาดสีสูตรน้ำที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตามนโยบายศูนย์บริการฯ ของฮอนด้าและโตโยต้าที่กำลังเปลี่ยนจากระบบ Solvent (ผสมทินเนอร์) มาใช้สีสูตรน้ำทั้งหมด โดยเฉพาะฮอนด้าได้เปลี่ยนมาใช้สีสูตรน้ำครบทุกศูนย์บริการแล้ว เนื่องจากเป็นสูตรสีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์
ด้วยเหตุนี้ เราจึงมองหาผลิตภัณฑ์สีสูตรน้ำเพื่อมารองรับความต้องการในกลุ่มนี้ โดยได้ศึกษาผลิตภัณฑ์ของเชอร์วิน วิลเลี่ยมส์ (Sherwin Williams) และพบว่ามีทั้งสีสูตรน้ำและสูตร Solvent ที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก อีกทั้งยังมีนโยบายการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับเรา จึงเป็นที่มาของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน โดยทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม เป็นตัวแทนนำเข้าผลิตภัณฑ์สีพ่นซ่อมรถยนต์มาจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว รวมถึงการเปิดตัวและจัดจำหน่ายที่ประเทศเวียดนาม ตลอดจนการขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไปในอนาคต
เปิดตัวสีสูตรน้ำ AWX และ ATX
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามา ได้แก่ สีสูตรน้ำ AWX และสีสูตร Solvent ATX มีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และใช้เทคโนโลยี AIR BAKE คือ การพ่นซ่อมสีรถยนต์โดยอาศัยการแห้งตัวจากอุณหภูมิห้อง ลดการใช้พลังงานจากห้องพ่นสีและเครื่องมืออินฟราเรด จึงช่วยลดปัญหามลภาวะ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จะนำเข้ามาครบทั้งระบบ ตั้งแต่ สีรองพื้น สีจริง และสีเคลียร์ (ชั้นเคลือบเงา)
กลุ่มเป้าหมาย
ในส่วนของลูกค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก โดยลูกค้าสำหรับสีสูตรน้ำ AWX จะเป็นศูนย์บริการที่มีนโยบายเปลี่ยนระบบจากสีสูตร Solvent มาเป็นสีสูตรน้ำ ได้แก่ ฮอนด้า โตโยต้า และอู่ทั่วไปที่สนใจเปลี่ยนมาใช้สีสูตรน้ำ ขณะที่กลุ่มลูกค้าสำหรับสีสูตร Solvent ATX ได้แก่ กลุ่มอู่ทั่วไปที่ยังคงใช้สีระบบนี้อยู่ และในอนาคตมีแนวโน้มว่าสีสูตรน้ำจะมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง เพราะค่ายรถยนต์ต่างๆ เริ่มหันมาใช้สีประเภทนี้มากขึ้น นัยว่าเพื่อลดภาวะโลกร้อนและเพื่อสุขภาพของช่างสี เห็นได้จากในต่างประเทศทั้งยุโรปและสหรัฐได้มีกฎหมายบังคับใช้สีสูตรน้ำแล้ว
ตอบโจทย์ความรวดเร็ว
ศูนย์บริการบางแห่งประสบปัญหาด้านพื้นที่ในการรับรถลูกค้า เพราะการทำสีต้องใช้เวลาพอสมควร และผลิตภัณฑ์สีพ่นซ่อมรถยนต์ทั้งสองตัวนี้จะสามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ด้วยการให้บริการภายใต้ระบบ HP Process ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือ 1.เพิ่มประสิทธิผลของศูนย์บริการและอู่ต่างๆ ให้สูงขึ้น (Higher Productivity) เพื่อช่วยให้สามารถรับปริมาณรถได้เพิ่มขึ้น 2.เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น ระยะเวลาในการทำงานลดลง (Higher Performance) และ 3.เพิ่มผลกำไรในการดำเนินธุรกิจสูงขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มขึ้น (Higher Profit)
ในส่วนของผู้ใช้รถเองก็มีความพึงพอใจ ที่จะได้รับรถในเวลารวดเร็วเช่นกัน โดยไม่ต้องทิ้งรถไว้ในอู่นานๆ เนื่องจากประสิทธิภาพของสีแห้งเร็ว ถ้าการซ่อมในปริมาณที่ 2-3 ชิ้น ลูกค้าจะสามารถรับรถได้ในเวลา 1 ชั่วโมงแน่นอน
เสริมการอบรมให้ความรู้ช่างสี
สิ่งที่เราจะทำอย่างต่อเนื่อง คือ มุ่งเน้นสร้างความเข้าใจในประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสอง ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ รวมถึงการให้บริการหลังการขาย ด้วยการส่งทีมบุคลากรเพื่อเข้าไปให้ความรู้ในเทคนิคการผสมสี การพ่นสีต่างๆ เพื่อให้ใกล้เคียงกับสีเดิมของตัวรถมากที่สุด
นอกจากนี้เรามีศูนย์ฝึกอบรมที่ทันสมัย ในย่านบางนา กม. 23 ภายในมีห้องปฏิบัติการด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยเครื่องมือฝึกพ่นสีเสมือนจริงหรือ Virtual Paint ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ปัจจุบันมีเพียง 5 เครื่องในโลกและเป็นเครื่องเดียวในเอเชีย ตลอดจนการสร้างรถ Mobile Training Center เพื่อใช้ในการสาธิตและทดสอบผลิตภัณฑ์สีในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอีกด้วย
เป้าหมายชิงส่วนแบ่ง-ขึ้นอันดับ 3
ด้านยอดขายปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 200 ล้านบาท จากมูลค่าโดยรวมของสีพ่นซ่อมรถยนต์อยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท ปัจจุบันเรามีส่วนแบ่งประมาณ 4% จัดอยู่ในอันดับที่ 5 ในตลาด และภายใน 3 ปี ตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งอยู่ที่ 11% หรือประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อขึ้นสู่อันดับที่ 3 ในอนาคต
แนวโน้มภาพรวมในตลาด
ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ได้เติบโตขึ้นอย่างมาก แม้ในช่วงระยะเวลาเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทั้งตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการ สามารถติดอันดับ 1 ใน 5 ผู้นำธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ โดยเฉพาะในตลาดสี 2K ซึ่งเป็นตลาดระดับบน แต่เรายังขาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่ใช้ในศูนย์บริการ หรือที่เรียกว่า OEM Approval เป็นตลาดสีสูตรน้ำที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตามนโยบายศูนย์บริการฯ ของฮอนด้าและโตโยต้าที่กำลังเปลี่ยนจากระบบ Solvent (ผสมทินเนอร์) มาใช้สีสูตรน้ำทั้งหมด โดยเฉพาะฮอนด้าได้เปลี่ยนมาใช้สีสูตรน้ำครบทุกศูนย์บริการแล้ว เนื่องจากเป็นสูตรสีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน
ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์
ด้วยเหตุนี้ เราจึงมองหาผลิตภัณฑ์สีสูตรน้ำเพื่อมารองรับความต้องการในกลุ่มนี้ โดยได้ศึกษาผลิตภัณฑ์ของเชอร์วิน วิลเลี่ยมส์ (Sherwin Williams) และพบว่ามีทั้งสีสูตรน้ำและสูตร Solvent ที่ได้รับการรับรองจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก อีกทั้งยังมีนโยบายการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับเรา จึงเป็นที่มาของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกัน โดยทีโอเอ-ไอเอสเอ็ม เป็นตัวแทนนำเข้าผลิตภัณฑ์สีพ่นซ่อมรถยนต์มาจำหน่ายในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว รวมถึงการเปิดตัวและจัดจำหน่ายที่ประเทศเวียดนาม ตลอดจนการขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไปในอนาคต
เปิดตัวสีสูตรน้ำ AWX และ ATX
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามา ได้แก่ สีสูตรน้ำ AWX และสีสูตร Solvent ATX มีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และใช้เทคโนโลยี AIR BAKE คือ การพ่นซ่อมสีรถยนต์โดยอาศัยการแห้งตัวจากอุณหภูมิห้อง ลดการใช้พลังงานจากห้องพ่นสีและเครื่องมืออินฟราเรด จึงช่วยลดปัญหามลภาวะ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้จะนำเข้ามาครบทั้งระบบ ตั้งแต่ สีรองพื้น สีจริง และสีเคลียร์ (ชั้นเคลือบเงา)
กลุ่มเป้าหมาย
ในส่วนของลูกค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก โดยลูกค้าสำหรับสีสูตรน้ำ AWX จะเป็นศูนย์บริการที่มีนโยบายเปลี่ยนระบบจากสีสูตร Solvent มาเป็นสีสูตรน้ำ ได้แก่ ฮอนด้า โตโยต้า และอู่ทั่วไปที่สนใจเปลี่ยนมาใช้สีสูตรน้ำ ขณะที่กลุ่มลูกค้าสำหรับสีสูตร Solvent ATX ได้แก่ กลุ่มอู่ทั่วไปที่ยังคงใช้สีระบบนี้อยู่ และในอนาคตมีแนวโน้มว่าสีสูตรน้ำจะมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง เพราะค่ายรถยนต์ต่างๆ เริ่มหันมาใช้สีประเภทนี้มากขึ้น นัยว่าเพื่อลดภาวะโลกร้อนและเพื่อสุขภาพของช่างสี เห็นได้จากในต่างประเทศทั้งยุโรปและสหรัฐได้มีกฎหมายบังคับใช้สีสูตรน้ำแล้ว
ตอบโจทย์ความรวดเร็ว
ศูนย์บริการบางแห่งประสบปัญหาด้านพื้นที่ในการรับรถลูกค้า เพราะการทำสีต้องใช้เวลาพอสมควร และผลิตภัณฑ์สีพ่นซ่อมรถยนต์ทั้งสองตัวนี้จะสามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ด้วยการให้บริการภายใต้ระบบ HP Process ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น คือ 1.เพิ่มประสิทธิผลของศูนย์บริการและอู่ต่างๆ ให้สูงขึ้น (Higher Productivity) เพื่อช่วยให้สามารถรับปริมาณรถได้เพิ่มขึ้น 2.เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้น ระยะเวลาในการทำงานลดลง (Higher Performance) และ 3.เพิ่มผลกำไรในการดำเนินธุรกิจสูงขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มขึ้น (Higher Profit)
ในส่วนของผู้ใช้รถเองก็มีความพึงพอใจ ที่จะได้รับรถในเวลารวดเร็วเช่นกัน โดยไม่ต้องทิ้งรถไว้ในอู่นานๆ เนื่องจากประสิทธิภาพของสีแห้งเร็ว ถ้าการซ่อมในปริมาณที่ 2-3 ชิ้น ลูกค้าจะสามารถรับรถได้ในเวลา 1 ชั่วโมงแน่นอน
เสริมการอบรมให้ความรู้ช่างสี
สิ่งที่เราจะทำอย่างต่อเนื่อง คือ มุ่งเน้นสร้างความเข้าใจในประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสอง ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ รวมถึงการให้บริการหลังการขาย ด้วยการส่งทีมบุคลากรเพื่อเข้าไปให้ความรู้ในเทคนิคการผสมสี การพ่นสีต่างๆ เพื่อให้ใกล้เคียงกับสีเดิมของตัวรถมากที่สุด
นอกจากนี้เรามีศูนย์ฝึกอบรมที่ทันสมัย ในย่านบางนา กม. 23 ภายในมีห้องปฏิบัติการด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยเครื่องมือฝึกพ่นสีเสมือนจริงหรือ Virtual Paint ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ปัจจุบันมีเพียง 5 เครื่องในโลกและเป็นเครื่องเดียวในเอเชีย ตลอดจนการสร้างรถ Mobile Training Center เพื่อใช้ในการสาธิตและทดสอบผลิตภัณฑ์สีในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอีกด้วย
เป้าหมายชิงส่วนแบ่ง-ขึ้นอันดับ 3
ด้านยอดขายปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 200 ล้านบาท จากมูลค่าโดยรวมของสีพ่นซ่อมรถยนต์อยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท ปัจจุบันเรามีส่วนแบ่งประมาณ 4% จัดอยู่ในอันดับที่ 5 ในตลาด และภายใน 3 ปี ตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งอยู่ที่ 11% หรือประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อขึ้นสู่อันดับที่ 3 ในอนาคต