ระยอง - ผู้ว่าฯพบ ส.ส. ผู้ประกอบการ และชุมชน หารือเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหามาบตาพุดร่วมกัน
วันนี้( 29 เม.ย.) นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานการประชุม “ผู้ว่าพบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ประกอบการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน ” มีนายสาธิต ปิตุเตชะ นายวิชัย ล้ำสุทธิ และ นายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ระยอง นายสยุมพร ลิ่มไทย อดีตผู้ว่าราชการ จ.ระยอง ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษา นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยองนายประทีป เอ่งฉ้วน ผอ.การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ผู้ประกอบการ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)และชุมชน เข้าร่วมประชุม
นายธวัชชัย กล่าวว่า ปัญหามาบตาพุดส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาภายใน มากกว่าปัญหาภายนอก จึงได้จัดประชุม ผู้ว่าพบผู้ประกอบการ ส.ส. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการ และชุมชน เพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหามาบตาพุดร่วมกัน จากนั้นจะไปแก้ไขปัญหาในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆที่อยู่ในพื้นที่ จ.ระยอง ต่อไป เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก
การแก้ไขปัญหามาบตาพุด จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน 1.ขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงงานเยี่ยมชมสนับสนุนสินค้าโอทอป ที่ ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม”มาย็อง” 2.ให้กลุ่มผู้ประกอบการร่วมการกำหนดหลักสูตร และความต้องการแรงงาน ขอใช้สถานประกอบการในการฝึกอบรมของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง
3.การสนับสนุนทุนการศึกษา 4.รับนักศึกษาที่จบเข้าทำงาน 5.ย้ายทะเบียนบ้านของพนักงานเข้ามาอยู่จังหวัดระยอง 6.จ้างคนระยองเข้าทำงาน 7.จดทะเบียนรถที่ จ.ระยอง สุดท้ายขอความร่วมมือจากโรงงานสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนใหม่ ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ คาดว่าปัญหามาบตาพุดน่าจะดีขึ้น
นายธวัชชัย กล่าวว่าการจัดตั้งกองทุนใหม่ ภายใต้คณะกรรมการ 3 ฝ่ายในการบริหารจัดการอย่างโปร่งใส ประกอบด้วยราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน-ภาคประชาชนและผู้ทรงคุณวุฒิ ที่จะเข้ามาดูแลการใช้จ่ายเงินกองทุน ทางด้านกลุ่มผู้ประกอบการโรงงาน กล่าวว่า การสนับสนุนเงินกองทุน ที่ผู้ว่าระยองเริ่มก่อตั้งขึ้นใหม่นั้น กลุ่มผู้ประกอบการพร้อมให้การสนับสนุน แต่ผู้บริหารระดับสูงต้องการความชัดเจนในการใช้จ่ายเงินกองทุนระยองแข็งแรง ที่ผ่านมา โดยไม่มีการชี้แจงรายละเอียดใช้จ่ายอะไร เงินเหลือจำนวนเท่าไหร่
นายสยุมพร ลิ่มไทย อดีตผวจ.ระยอง กล่าวว่า คนระยองส่วนใหญ่ไม่ได้ต่อต้านโรงงานอุตสาหกรรม แต่ต้องการอุตสาหกรรมสะอาด ปัญหาที่ผ่านมามีการต่อต้านมีการเคลื่อนไหว เราต้องยอมรับว่าปัญหาสังคม ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม และปัญหามลภาวะ เป็นปัญหาที่สะสมกันมายาวนานกว่า 25 ปี ที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจากภาครัฐ การคัดค้านการต่อต้านและการเคลื่อนไหวที่ไม่มีเหตุผลคนระยองก็ไม่เอาด้วย แต่การเคลื่อนไหวที่คนระยองได้รับผลกระทบจริงคนระยองก็จะออกมาร่วมด้วย และการเคลื่อนไหวคัดค้านก็จะต้องมีอีกต่อไปในอนาคต
นายสยุมพร กล่าวว่าเวลาผ่านไป 2 ปีเศษ การประกาศเขตควบคุมมลพิษ มีการเปลี่ยนแปลงของภาครัฐส่วนใหญ่ อาทิโครงการและงบประมาณต่างๆที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล เรื่องการดูแลสุขภาพประชาชนในเขตควบคุมมลพิษ ก่อสร้างโรงพยาบาลมาบตาพุดแห่งใหม่ จำนวน 200 เตียง ปรับปรุงโรงพยาบาลระยอง โรงพยาบาลแกลง โรงพยาบาลบ้านฉาง โรงพยาบาลแกลงฯลฯ การขยายเขตประปามาบตาพุด บ้านฉาง และเมืองระยอง รวมเป็นเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนภาคเอกชนหรือภาคอุตสาหกรรม เริ่มเปิดโครงการ CSR แต่ก็ยังไม่มากเหมือนภาครัฐ
นายสยุมพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาสมัยที่ยังรับราชการเป็นผู้ว่าระยอง ถูกสื่อมวลชนถามเรื่องเงิน” กองทุนระยองแข็งแรง”ที่กลุ่มโรงงานมาบตาพุดสนับสนุนเงินกองทุนเป็นจำนวนเงิน 30-40 ล้านบาท นำไปใช้ประโยชน์อะไรบ้าง “เงินกองทุนระยองแข็งแรง” ก่อตั้งในสมัยนายพลวัตร ชยานุวัชร อดีตผู้ว่าระยอง ได้จดทะเบียนตั้งเป็น”มูลนิธิระยองแข็งแรง” โดยมีนายพลวัตร ชยานุวัชร เป็นประธาน แต่ไม่ใส่ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ รองประธาน คือ นายสุนทร รัตนวราหะ อดีตรองผู้ว่าระยอง แต่ไม่ใส่ตำแหน่ง รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการบางคน แต่ก็ไม่ใส่ตำแหน่ง การบริหารจัดการเงินกองทุนโดยมูลนิธิฯแยกออกจากจังหวัด
หลังนายพลวัตร เกษียณอายุราชการ เงินที่เหลืออยู่ 5,000,000 บาท ผู้ว่าราชการคนต่อมาไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้และไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดการใช้
ด้านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)จ.ระยอง กล่าวว่าการแก้ไขปัญหามาบตาพุด เน้นบังคับใช้กฏหมายกับโรงงานอย่างจริงจัง เนื่องจากประชาชนร้องเรียนจำนวนมาก รวมทั้งให้มีการปรับปรุงถนนสายหนองแฟบ ฝากนายธวัชชัย ผวจ.ระยอง กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันจับกุมรถบรรทุกหนัก ทำให้ถนนสายห้วยโป่งไปออกสี่แยกหนองบอนชำรุดหนัก รวมทั้งให้กลุ่มโรงงานเสียภาษีที่ จ.ระยอง