หลังเผยภาพบางส่วนออกมายั่วน้ำลายบรรดาแฟนๆ ทั่วโลกอยู่พักหนึ่ง ในตอนนี้ ทางด้านซูบารุจัดการกระตุกผ้าคลุมเผยโฉมใหม่ของอิมเพรซาออกมาแล้ว รุกตลาดพร้อมกันทั้งตัวถังซีดาน และแฮทช์แบ็กเหมือนกับรุ่นที่แล้ว โดยมีกลิ่นอายการออกแบบที่ได้รับมาจากพี่ใหญ่อย่างเลกาซี่ในทุกมุมมอง
สำหรับอิมเพรซาใหม่ถือเป็นเจนเนอเรชันที่ 4 ของคอมแพ็กต์คาร์สุดสปอร์ตจากค่ายซูบารุนับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกเมื่อปี 1993 โดยความเปลี่ยนแปลงของอิมเพรซาเกิดขึ้นในรุ่นที่ 3 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2007 เมื่อแบรนด์ดังของญี่ปุ่นสลัดคราบความเป็นสปอร์ตซีดานมาสู่การเข้าถึงความต้องการของลูกค้ากลุ่มใหญ่ โดยละทิ้งเอกลักษณ์อย่างประตูแบบไร้กรอบ และเส้นสายบนตัวถังที่เน้นความดุดันในทุกรายละเอียดมาสู่การเป็นรถยนต์สำหรับลูกค้าทั่วไป รวมถึงยังไม่มีรุ่นแวกอนมาให้สัมผัส แต่ส่งแฮทช์แบ็ก 5 ประตูเข้ามาทำตลาดแทนที่
ในรุ่นใหม่ก็คงรูปแบบนี้ต่อไป ส่วนรุ่นแฮทช์แบ็กยกสูงแต่งเข้มออกแนวลุยๆ เหมือนพวกเอาท์แบ็ก หรือ XV คาดว่าน่าจะมีขายแน่ๆ เพราะขณะที่รุ่นปกติถูกนำออกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2011 ซูบารุก็จับเอารุ่นแฮทช์แบ็กมาแต่งยกสูง และเน้นความสวยแปลกตาเพื่อจัดแสดงในงานออโต้ เซี่ยงไฮ้ที่จัดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน และใช้ชื่อว่า XV Concept
อิมเพรซาใหม่มาพร้อมกับเส้นสายตัวถังที่ออกแบบได้อย่างเฉียบคมและสะท้อนความสปอร์ตในทุกมุมมอง โดยสไตล์นี้ถูกนำมาใช้กับเลกาซี่ใหม่ที่กำลังขายอยู่ในตอนนี้ และถูกถ่ายทอดรวมถึงขัดเกลาให้เข้ากับตัวถังที่เล็กลงมาอย่างอิมเพรซาภายใต้แนวคิด Smart
ในแง่ของมิติตัวถังเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิมนั้น ซูบารุเผยว่าใหญ่ขึ้นในเกือบทุกส่วน โดยเฉพาะในเรื่องความยาวของระยะฐานล้อ ถูกขยายจาก 2,620 มิลลิเมตรมาเป็น 2,644 มิลลิเมตร และนั่นทำให้ความกว้างของห้องโดยสารมีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่วางขาของเบาะหลัง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 2 นิ้ว หรือ 50.8 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นแฮทช์แบ็ก เบาะนั่งหลังสามารถแยกพับในอัตราส่วน 40/60 หรือพับลงทั้งหมดได้
สำหรับเครื่องยนต์ที่ทำตลาดจะเริ่มต้นกับเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ หรือสูบนอนซีซีต่ำในคลาส 1,600 ซีซีซึ่งเป็นบล็อกใหม่ โดยในแง่ของแรงม้าและแรงบิดยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่จะจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือว่าอัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT ซึ่งซูบารุเรียกว่า Lineartronic และเป็นเจนเนอเรชันที่ 2 ของเกียร์ชุดนี้แล้ว ขณะที่รุ่นสูงขึ้นไปในเกียร์ CVT จะมีโหมดล็อกคอัตราทด 6 จังหวะเดินหน้าเอาไว้ให้ และมี Paddle Shift ติดตั้งที่พวงมาลัยเอาไว้เปลี่ยนเกียร์กันเอาเอง
ส่วนรุ่น 2,000 ซีซีเป็นบล็อกใหม่เหมือนกันจะเริ่มต้นกับรุ่นหายใจเองที่มีกำลังอยู่ในระดับ 148 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 20.1 กก.-ม.ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยระบบ AWD แบบ Symmetrical โดยซูบารุบอกว่า เครื่องยนต์บล็อกนี้มีน้ำหนักเบาขึ้น และตอบสนองการขับเคลื่อนในระดับใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ 2,500 ซีซี และประหยัดน้ำมันในระดับ 16.2 กิโลเมตร/ลิตรสำหรับการขับนอกเมือง
ขณะที่บล็อกตัวแรง น่าจะมีขายเหมือนเดิม เพียงแต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งก็รวมถึงตัวแรงในรหัส STI ที่จะต้องมีขายจนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่จะขาดไม่ได้
แฟนๆ ของซูบารุยังต้องอดใจอีกสักนิด เพราะถึงแม้จะเปิดเผยให้เห็นคันจริงกันแล้ว แต่กำหนดเริ่มวางขายยังไม่ถึง ต้องรอจนถึงประมาณปลายปีนี้