ข่าวในประเทศ-ยามาฮ่า ใช้แนวคิกหลักเน้นคอนเซปต์ความเหนือชั้นของเทคโนโลยี นำโดยความทนทานของกระบอกสูบไดอะซิล และความประหยัดน้ำมันของระบบหัวฉีดเอ็มเจ็ท พร้อมนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าฉบับใช้งานจริงมาเผยโฉมตัวเป็นๆ
สรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายโฆษณาและส่งเสริมการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า แนวคิดของบูธในปีนี้ “The Art of Technology ศิลปะแห่งการสร้างสรรค์ เทคโนโลยีเพื่อคุณ” มุ่งเน้นในเรื่อง 3 เทคโนโลยียามาฮ่า คือ กระบอกสูบไดอะซิล พัฒนาเพื่อให้ความทนทานและประหยัดมากกว่ากระบอกสูบทั่วไป, ระบบหัวฉีดอัจฉริยะ ยามาฮ่า เอ็มเจ็ท (YMJet) ชูความประหยัดการใช้น้ำมัน และตบท้ายด้วยเทคโนโลยีรถไฟฟ้าที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
“ความโดดเด่นของกระบอกสูบไดอะซิล พัฒนาเพื่อให้ความทนทานและประหยัดมากกว่ากระบอกสูบทั่วไป ตัวกระบอกสูบผลิตจากอลูมินัมอัลลอยผสมซิลิกอน พร้อมลูกสูบแบบอัดขึ้นรูป น้ำหนักเบา แข็งแกร่ง ทนทาน ระบายความร้อนได้ดีกว่าเหล็กถึง 3 เท่า จึงช่วยลดการสึกหรอ ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า” สรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล กล่าวและว่า
“หัวฉีดอัจฉริยะ ยามาฮ่า เอ็มเจ็ท จากผลทดสอบสามารถประหยัดน้ำมันที่สุดในรถออโตเมติก 51 กม./ลิตร ด้วยการดีไซน์ให้มีลิ้นปีกผีเสื้อ 2 ตัว ควบคุมอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ให้เหมาะกับทุกสภาวะการขับขี่ ที่ช่วยลดความสิ้นเปลืองของการฉีดพ่นน้ำมันในทุกความเร็ว จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่าระบบหัวฉีดแบบเดิมๆ ทั้งในตอนขับขี่และจอดติด ตลอดจนเพิ่มความประหยัดมากขึ้นด้วยการฉีดน้ำมันเป็นละออง ที่ละเอียดกว่าการฉีดน้ำมันเป็นฝอยของหัวฉีดทั่วไป จึงทำให้เผาไหม้หมดจดกว่า ช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่า”
นอกจากนี้ได้กล่าวถึงเทคโนโลยีการใช้พลังงานรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำ YAMAHA EC03 รถไฟฟ้าโฉมวางจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่นมาโชว์ภายในงานด้วย
“รถไฟฟ้าที่ออกแบบโดยมีที่ชาร์จแบตเตอรี่ติดกับตัวถัง ชาร์จหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 46กิโลเมตร หากต้องการใช้งานก็แค่เสียบปลั๊กชาร์จทิ้งไว้ที่บ้านหรือที่ทำงาน แค่ก็พร้อมพาคุณไปทุกที่อย่างสบาย พร้อมเป็นมิตรไร้มลพิษทางอากาศ ปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์”
“ขณะที่แผนการนำเข้ามาวางจำหน่ายในเมืองไทย ยังไม่มีกำหนดแน่ชัด เนื่องด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงและความพร้อมของการทำตลาด แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้และต้องรอดูกันต่อไป” สรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล กล่าวปิดท้าย