xs
xsm
sm
md
lg

BMW จับมือ PSA สานสัมพันธ์พัฒนาระบบไฮบริด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หวังสร้างมาตรฐานไฮบริดในยุโรป
ข่าวต่างประเทศ-หลังจากที่ได้มีการทำบันทึกความเข้าใจ MOU Memorandum of Understanding เมื่อเดือนตุลาคมปี 2553 ระหว่าง BMW Group และ PSA Peugeot Citroënและในปีนี้ได้พัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นอีกขั้น ในการจัดตั้งบริษัทสำหรับพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์สำหรับไฮบริด ภายใต้ชื่อบริษัท BMW Peugeot Citroën Electrification โดยมี ดร. นอร์เบิร์ต ไรท์โฮเฟอร์ ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู เอจี และ นายฟิลลิป วาริน ประธานกรรมการบริหาร PSA Peugeot Citroën ได้ลงนามในสัญญาร่วมกันเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา
ดร. นอร์เบิร์ต ไรท์โฮเฟอร์ นายใหญ่บีเอ็มดับเบิลยู
ดร. นอร์เบิร์ต ไรท์โฮเฟอร์ ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู เอจี กล่าวว่า “ความร่วมมือในการจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อรับหน้าที่ด้านวิจัยพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์สำหรับเทคโนโลยีระบบไฮบริดในครั้งนี้เป็นการเพิ่มศักยภาพแบบทวีคูณ นอกจากทั้งสองบริษัทจะได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่แล้ว ยังได้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจาก Economy of Scale ที่ได้จากจำนวนยอดผลิตรวมของทั้งสองบริษัทรวมกัน” ในขณะที่ นาย ฟิลลิป วาริน ประธานกรรมการบริหาร PSA Peugeot Citroën ได้กล่าวเสริมว่า “บริษัทร่วมทุนนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดของอุตสาหกรรมยานยนต์ในยุโรป”

โดยต่างฝ่ายพร้อมร่วมลงทุนคนละครึ่ง เพื่อหวังประโยชน์จากศักยภาพในการวิจัยและพัฒา ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์สำหรับระบบไฮบริด เช่น แบตเตอรี่, ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า, ระบบกำเนิดไฟฟ้า, ส่วนสมองกลควบคุม Power Electronics, ระบบชาร์จไฟ รวมถึงการพัฒนาและผลิตซอฟแวร์ของระบบไฮบริด และพร้อมเปิดกว้างให้คู่ค้าผู้ผลิตสามารถขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ให้กับบริษัทอื่นได้ ไม่จำกัดเฉพาะสองบริษัทเท่านั้น

ทางด้านการบริหารงานจะดึงตัวบุคลากรสำคัญจากทั้งสองบริษัท โดยมี นายวูฟล์กัง กุลลิคค์ ซึ่งปัจจุบันรับหน้าที่ดูแลด้านกลยุทธ์การจัดซื้อจัดจ้างของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ในขณะที่ นายชองค์ เลอร์โฟล ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนคุณภาพและลูกค้าสัมพันธ์ของ PSA Peugeot Citroën จะรับหน้าที่เป็นกรรมการบริหารของบริษัทใหม่

ทั้งนี้ การร่วมมือดังกล่าวในนาม บริษัท BMW Peugeot Citroën Electrification ถ้าได้รับการอนุมัติโดยองค์กรที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลด้านการแข่งขันทางธุรกิจ คาดว่าน่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 และสามารถผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์เพื่อใช้ในรถยนต์ของทั้งสองบริษัทภายในปี 2557

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป และ PSA Peugeot Citroën ได้สร้างความสำเร็จบนโครงการความร่วมมือในการพัฒนาเครื่องยนต์มาแล้ว ด้วยจำนวนยอดผลิตรวมกว่า 1.8 ล้านเครื่อง ในช่วงปี 2549-2553 และล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา ทั้งสองบริษัทได้ต่อยอดความร่วมมือในการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบรุ่นต่อไปภายใต้มาตรฐาน EU6 ซึ่งจะถูกนำมาใช้ในรถยนต์มินิ เปอโยต์ และซีตรอง ในรุ่นต่างๆ ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น