ข่าวในประเทศ - โตโยต้า เตรียมฉลองใหญ่ครบรอบ 50 ปีในไทย ผุดสโลแกน “อนาคตสังคมไทย ความภูมิใจของเรา” เดินหน้ารุกกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เน้นกิจกรรมหลัก 4 ด้านทั้งความปลอดภัยบนถนน,สิ่งแวดล้อม,การศึกษา และคุณภาพชีวิต
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของ ซากิชิ โตโยดะ ผู้ก่อตั้งธุรกิจรถยนต์ โตโยต้า เมื่อกว่า 70 ปีที่ผ่านมา ที่เน้นการร่วมส่งเสริมพัฒนาการของประเทศควบคู่ไปกับพัฒนาการของบริษัท ทำให้ตลอดระยะเวลากว่า 47 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โตโยต้า มุ่งเน้นในการดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสังคมไทย
“บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เริ่มดำเนินกิจการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในปี พ.ศ.2505 ตลอดระยะเวลากว่า 47 ปี ได้ยึดมั่นปณิธานในการเจริญเติบโตเคียงคู่สังคมไทย ความพยายามในการมุ่งมั่นตอบแทนสังคมนับเป็นภารกิจสำคัญอย่างหนึ่ง ดังเช่นคำขวัญที่ว่า โตโยต้า ภูมิใจที่ได้เติบโตร่วมกับสังคมไทย”
สำหรับกิจกรรมเพื่อสังคมจะเน้น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่
1) ส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน ภายใต้โครงการ “ถนนสีขาว” เริ่มดำเนินโครงการ ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2531 โดยได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 22 ปี เพื่อมุ่งส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับกฎและวินัยจราจร และสร้างความตระหนักให้ผู้ใช้รถ ใช้ถนนมีจิตสำนึก และมีน้ำใจ อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ทั้งนี้ยังได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อจัดตั้ง “ศูนย์สอนขับรถและพัฒนาศักยภาพผู้ขับรถยนต์” ในปี พ.ศ.2552 และในปีเดียวกันยังได้รับรางวัล “Prime Minister Road Safety Award” ทางด้านองค์กรที่มีผลงานดีเด่นเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน จาก ฯพณฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยเป็นรางวัลที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โตโยต้า เป็นบริษัทรถยนต์รายแรกที่ได้รับรางวัลนี้ เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
2) ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ “ป่านิเวศในโรงงาน” (Eco-Forest) เมื่อปี พ.ศ.2551 ภายใต้ความร่วมมือจากอาสาสมัคร อาทิ ผู้บริหารระดับสูง ตัวแทนหน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน ผู้แทนจำหน่าย บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน บริษัทในเครือ ชุมชนใกล้เคียง สื่อมวลชน พนักงานบริษัทและครอบครัวกว่า 10,000 คน ร่วมปลูกป่านิเวศน์กว่า 100,000 ต้น บนพื้นที่ 30 ไร่ภายในบริเวณโรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ และได้ขยายโครงการสู่บริษัทในเครือ ผู้ผลิตชิ้นส่วน และผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ
3) ส่งเสริมการศึกษาและถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่สังคมไทย โดยนอกจากการสนับสนุนทุน การศึกษาให้กับนักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 ยังได้ให้การสนับสนุนคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมอบห้องปฏิบัติการวิศวกรรมยานยนต์ พร้อมพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน มอบเครื่องยนต์เพื่อเป็นสื่อการสอน
รวมถึงจัดผู้บริหารเข้าไปเป็นอาจารย์ถ่ายทอดความรู้ และยังมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีของโตโยต้า ผ่านโครงการ T-TEP หรือ Toyota Technical Education Program เพื่อสร้างบุคลากรทางด้านยานยนต์ โดยในปี พ.ศ.2533 ได้ร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน “ช่างเทคนิคยานยนต์ทั่วไป” (General T-TEP) และ “ช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์” (BP-T-TEP)
ต่อมาในปี พ.ศ.2550 ได้ขยายความร่วมมือไปสู่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อพัฒนาหลักสูตร “ช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์” (BP-T-TEP) และล่าสุดในปีนี้ได้ขยายความร่วมมือเพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาหลักสูตร “ช่างซ่อมบำรุง” (General T-TEP)
4) ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของชุมชน ภายใต้การดำเนินงานของ มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 ในวาระครบรอบ 30 ปี ของการดำเนินกิจการในประเทศไทย ด้วยเงินทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 30 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2546 โดยนำดอกผลที่ได้รับจากทุนจดทะเบียน มาใช้ในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลากว่า 17 ปี ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษา ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งให้การสนับสนุนองค์กรสาธารณกุศล ในการดำเนินกิจกรรมอันเป็นสาธารณะประโยชน์ให้กับสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทห่างไกล
นอกจากนี้ยังได้สนองกระแสพระราชดำรัสในการก่อตั้ง “โรงสีข้าวรัชมงคล” ในปี พ.ศ. 2542 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ดำเนินกิจการภายใต้วัตถุประสงค์หลัก ได้แก่ ช่วยเหลือเกษตรกรด้วยวิธีการการรับซื้อข้าวเปลือกในราคาที่เป็นธรรม - ช่วยเหลือผู้บริโภคด้วยการขายข้าวสารในราคาที่เหมาะสม - และดำเนินกิจการโดยมิได้หวังผลกำไรทางธุรกิจเป็นสำคัญ อันเป็นการน้อมนำแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” มาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ทานาดะ กล่าวว่า โตโยต้า ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนานถึงกว่า 47 ปี นับว่าเป็นการดำเนินธุรกิจนอกประเทศญี่ปุ่นยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากในประเทศสหรัฐอเมริกา การที่ โตโยต้า มีพัฒนาการอันยั่งยืนดังเช่นทุกวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนอย่างดียิ่งของลูกค้าชาวไทย ที่ได้ให้ความไว้วางใจ และเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในวิถีชีวิตตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โตโยต้า ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านด้วยความจริงใจ พร้อมให้คำมั่นสัญญาในการมุ่งมั่นรับผิดชอบต่อการสร้างสรรค์สังคมไทย ตามวิถีแห่งโตโยต้า ตลอดไป
ในโอกาสที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กำลังจะครบรอบการดำเนินงาน 50 ปีในปี พ.ศ.2555 โตโยต้า จะให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมส่งเสริมสังคม และกิจกรรม CSR มากยิ่งขึ้น โดยเน้นการมีส่วนร่วมตั้งแต่พนักงานภายในองค์กร เครือข่ายธุรกิจ และบริษัทในเครือ พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้า ชุมชน และสังคม ดังสโลแกนใหม่ล่าสุด “อนาคตสังคมไทย ความภูมิใจของเรา
“ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” แจกบัตรเข้างานมอเตอร์โชว์ 2010 ฟรี!...เดินทางมารับด้วยตนเองที่ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน บ้านพระอาทิตย์ (ถนนพระอาทิตย์) หนึ่งท่านได้ 4 ใบ สอบถามรายละเอียด 0-2629 4488 กด 0
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของ ซากิชิ โตโยดะ ผู้ก่อตั้งธุรกิจรถยนต์ โตโยต้า เมื่อกว่า 70 ปีที่ผ่านมา ที่เน้นการร่วมส่งเสริมพัฒนาการของประเทศควบคู่ไปกับพัฒนาการของบริษัท ทำให้ตลอดระยะเวลากว่า 47 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โตโยต้า มุ่งเน้นในการดำเนินกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสังคมไทย
“บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เริ่มดำเนินกิจการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในปี พ.ศ.2505 ตลอดระยะเวลากว่า 47 ปี ได้ยึดมั่นปณิธานในการเจริญเติบโตเคียงคู่สังคมไทย ความพยายามในการมุ่งมั่นตอบแทนสังคมนับเป็นภารกิจสำคัญอย่างหนึ่ง ดังเช่นคำขวัญที่ว่า โตโยต้า ภูมิใจที่ได้เติบโตร่วมกับสังคมไทย”
สำหรับกิจกรรมเพื่อสังคมจะเน้น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่
1) ส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนน ภายใต้โครงการ “ถนนสีขาว” เริ่มดำเนินโครงการ ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2531 โดยได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 22 ปี เพื่อมุ่งส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับกฎและวินัยจราจร และสร้างความตระหนักให้ผู้ใช้รถ ใช้ถนนมีจิตสำนึก และมีน้ำใจ อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ทั้งนี้ยังได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อจัดตั้ง “ศูนย์สอนขับรถและพัฒนาศักยภาพผู้ขับรถยนต์” ในปี พ.ศ.2552 และในปีเดียวกันยังได้รับรางวัล “Prime Minister Road Safety Award” ทางด้านองค์กรที่มีผลงานดีเด่นเกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน จาก ฯพณฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยเป็นรางวัลที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โตโยต้า เป็นบริษัทรถยนต์รายแรกที่ได้รับรางวัลนี้ เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจจริงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
2) ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ “ป่านิเวศในโรงงาน” (Eco-Forest) เมื่อปี พ.ศ.2551 ภายใต้ความร่วมมือจากอาสาสมัคร อาทิ ผู้บริหารระดับสูง ตัวแทนหน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน ผู้แทนจำหน่าย บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน บริษัทในเครือ ชุมชนใกล้เคียง สื่อมวลชน พนักงานบริษัทและครอบครัวกว่า 10,000 คน ร่วมปลูกป่านิเวศน์กว่า 100,000 ต้น บนพื้นที่ 30 ไร่ภายในบริเวณโรงงานโตโยต้า บ้านโพธิ์ และได้ขยายโครงการสู่บริษัทในเครือ ผู้ผลิตชิ้นส่วน และผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ
3) ส่งเสริมการศึกษาและถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่สังคมไทย โดยนอกจากการสนับสนุนทุน การศึกษาให้กับนักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 ยังได้ให้การสนับสนุนคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมอบห้องปฏิบัติการวิศวกรรมยานยนต์ พร้อมพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน มอบเครื่องยนต์เพื่อเป็นสื่อการสอน
รวมถึงจัดผู้บริหารเข้าไปเป็นอาจารย์ถ่ายทอดความรู้ และยังมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีของโตโยต้า ผ่านโครงการ T-TEP หรือ Toyota Technical Education Program เพื่อสร้างบุคลากรทางด้านยานยนต์ โดยในปี พ.ศ.2533 ได้ร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน “ช่างเทคนิคยานยนต์ทั่วไป” (General T-TEP) และ “ช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์” (BP-T-TEP)
ต่อมาในปี พ.ศ.2550 ได้ขยายความร่วมมือไปสู่ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อพัฒนาหลักสูตร “ช่างซ่อมตัวถังและสีรถยนต์” (BP-T-TEP) และล่าสุดในปีนี้ได้ขยายความร่วมมือเพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาหลักสูตร “ช่างซ่อมบำรุง” (General T-TEP)
4) ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของชุมชน ภายใต้การดำเนินงานของ มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 ในวาระครบรอบ 30 ปี ของการดำเนินกิจการในประเทศไทย ด้วยเงินทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 30 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2546 โดยนำดอกผลที่ได้รับจากทุนจดทะเบียน มาใช้ในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลากว่า 17 ปี ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษา ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งให้การสนับสนุนองค์กรสาธารณกุศล ในการดำเนินกิจกรรมอันเป็นสาธารณะประโยชน์ให้กับสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทห่างไกล
นอกจากนี้ยังได้สนองกระแสพระราชดำรัสในการก่อตั้ง “โรงสีข้าวรัชมงคล” ในปี พ.ศ. 2542 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ดำเนินกิจการภายใต้วัตถุประสงค์หลัก ได้แก่ ช่วยเหลือเกษตรกรด้วยวิธีการการรับซื้อข้าวเปลือกในราคาที่เป็นธรรม - ช่วยเหลือผู้บริโภคด้วยการขายข้าวสารในราคาที่เหมาะสม - และดำเนินกิจการโดยมิได้หวังผลกำไรทางธุรกิจเป็นสำคัญ อันเป็นการน้อมนำแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” มาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ทานาดะ กล่าวว่า โตโยต้า ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนานถึงกว่า 47 ปี นับว่าเป็นการดำเนินธุรกิจนอกประเทศญี่ปุ่นยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากในประเทศสหรัฐอเมริกา การที่ โตโยต้า มีพัฒนาการอันยั่งยืนดังเช่นทุกวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนอย่างดียิ่งของลูกค้าชาวไทย ที่ได้ให้ความไว้วางใจ และเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในวิถีชีวิตตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โตโยต้า ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านด้วยความจริงใจ พร้อมให้คำมั่นสัญญาในการมุ่งมั่นรับผิดชอบต่อการสร้างสรรค์สังคมไทย ตามวิถีแห่งโตโยต้า ตลอดไป
ในโอกาสที่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย กำลังจะครบรอบการดำเนินงาน 50 ปีในปี พ.ศ.2555 โตโยต้า จะให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมส่งเสริมสังคม และกิจกรรม CSR มากยิ่งขึ้น โดยเน้นการมีส่วนร่วมตั้งแต่พนักงานภายในองค์กร เครือข่ายธุรกิจ และบริษัทในเครือ พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของลูกค้า ชุมชน และสังคม ดังสโลแกนใหม่ล่าสุด “อนาคตสังคมไทย ความภูมิใจของเรา
“ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” แจกบัตรเข้างานมอเตอร์โชว์ 2010 ฟรี!...เดินทางมารับด้วยตนเองที่ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน บ้านพระอาทิตย์ (ถนนพระอาทิตย์) หนึ่งท่านได้ 4 ใบ สอบถามรายละเอียด 0-2629 4488 กด 0
