ข่าวในประเทศ - น้องใหม่ "เอ็คคอทินท์" รุกตลาดฟิล์มติดรถยนต์มั่นใจยอดขายปีนี้เข้าเป้า 50 ล้านชี้กลยุทธ์ให้ความรู้ตัวแทนจำหน่ายเริ่มเห็นผลหลังลูกค้ารถป้ายแดงต่อรองโชว์รูมขอติดตั้งฟิล์ม เชื่อเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น พร้อมรุกตลาดโออีเอ็มเต็มรูปแบบ สิ้นปีขอส่วนแบ่งตลาดโตอีกเท่าตัว
นายตัน ยู ไช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็คคอทินท์ จำกัด ผู้จำหน่ายฟิล์มกรองแสงเอ็คคอทินท์ เปิดเผยว่า ด้วยแรงบวกจากการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ในช่วงปลายปี 2552 และการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจ เราเชื่อมั่นว่าตลาดรถยนต์ในประเทศจะเติบโตตามลำดับ คาดว่าจะมียอดขาย 600,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 9% ในส่วนของประเทศไทย ฟิล์มกรองแสงเอ็คคอทินท์ ได้เข้ามาในตลาดของฟิล์มที่ติดตั้งตามอาคาร คอนโดมีเนียมและโรงแรม รวมถึงการติดฟิล์มรถยนต์ ซึ่งทำตลาดมานานกว่า 5 ปีแล้ว โดยการแข่งขันในตลาดประเทศไทยนั้นมีการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่ยังมีการขยายตัวของตลาดฟิล์มกรองแสงอย่างต่อเนื่อง
"ปีนี้ตลาดรถยนต์ส่วนช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้นทำให้บริษัทเริ่มทำตลาดฟิล์มกรองแสง จริงๆเราเริ่มเปิดตัวสินค้าไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาตามโชว์รูมรถยนต์โตโยต้าและฮอนด้าประมาณ 30 สาขา และภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 80 สาขา สำหรับส่วนแบ่งตลาดนั้นปีที่ผ่านมาเราอยู่ที่ 3 % และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มเป็น 8 % เนื่องจากการทำแผนประชาสัมพันธ์ให้ตัวแทนจำหน่ายได้เข้าใจถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ทำให้ภายในสิ้นปีนี้เราจะยอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท "
ทางด้าน นายวันชนะ หิรัญแพทย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอ็คคอทินท์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากการวางจำหน่ายตามโชว์รูมที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น ขณะนี้ทางบริษัทยังได้เตรียมทำตลาดโออีเอ็ม (OEM)เต็มรูปแบบโดยอยู่ในช่วงติดต่อกับทางค่ายรถยนต์ต่างๆในประเทศไทย อาทิ โตโยต้า
"ส่วนด้านของรถยนต์ มีการเจริญเติบโตเพิ่มมากขี้นกว่าปีที่แล้ว ทำให้ธุรกิจการติดตั้งฟิล์มกรองแสง มีการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยยอดขายของเอ็คคอทินท์ในปีที่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท ส่วนในปี 2553 นั้นตั้งเป้าหมายยอดขายเฉพาะในส่วนของฟิล์มรถยนต์ ประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน โดยเจาะกลุ่มโออีเเอ็มในโรงงาน ของโตโยต้าและโปรตอน (รถนำเข้าจากมาเลเซีย) ขณะนี้อยู่ในขั้นเจรจา ซึ่งเชื่อว่าในไตรมาส 3 และไตรมาสที่ 4 ของปีเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศไทยจะดีขึ้น จะทำให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย "
จุดเด่นของฟิล์มเอ็คคอทินท์นั้นจะเป็นฟิล์มใสอัจฉริยะ ที่เรียกว่า “SMART FILM” ซึ่งจะสามารถสะท้อนรังสีอันตรายได้มากในขณะที่ยังคงความสว่างภายในรถและอาคารได้สูงสุดเมื่อเทียบกับฟิล์มทั่วไป โดยกระบวนการผลิตฟิล์ม จะเลือกใช้แผ่นPolyyethylene (PET)ที่ใสที่สุด ผนึกด้วยโลหะหลายชนิดซ้อนกันหลายชั้น ที่เรียกว่า “Multi –Layer“ Sputtering (มัลติเลเยอร์สบัทเตอร์ริ่ง) ซึ่งทำให้สามารถแยกความถี่ของคลื่นรังสีได้ดีขึ้นกว่าเดิม
สำหรับฟิล์มกรองแสงเอ็คคอทินท์มีการทำตลาดทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันคือ เอ็คคอทินท์ ไฮบริด ซีริ่ส์ (Ecotint Hybrid series) ราคาเริ่มต้นที่ 3000 - 4000 และรุ่นเรย์แบริเออร์ (RayBarrier) ที่ผลิตโดยบริษัท ซูมิโมโต ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 15000 - 30000 บาท