xs
xsm
sm
md
lg

เผยลงทุนอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตปี 53 ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -เผยแนวโน้มการลงทุนด้านอสังหาฯภูเก็ต ปี 53 ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลก-การท่องเที่ยว ขณะที่การลงทุนทางด้านคอนโดมิเนียมยังได้รับการตอบรับสูง

นายไพทูรย์ เลิศไกร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ตในปี 2553 ว่า แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตนั้นคิดว่ายังคงไปได้ แต่ไม่หวือหวาเหมือนกับที่ผ่านมา โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดิน และบ้านจัดสรร ซึ่งมีสาเหตุมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจน รวมไปถึงเรื่องของการปรับราคาที่ดินเนื่องจากภูเก็ตมีที่ดินจำกัด แม้จะยังมีการเสนอขายแต่หาผู้ซื้อลำบากโดยเฉพาะที่ดินแปลงขนาดใหญ่เพราะราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ยังมีการขยายตัวออกไปนอกเมือง

โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ถลาง เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐที่จะเกิดขึ้น เช่น ศูนย์ประชุมนานาชาติ เป็นต้น ประกอบกับการเติบโตของพื้นที่บริเวณตัวเมืองภูเก็ต พื้นที่ป่าตองและกมลาค่อนข้างจะแออัด ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในเรื่องของคอนโดมิเนียมมากกว่า ซึ่งแนวโน้มเรื่องของคอนโดมิเนียมนั้นยังมีการลงทุนจำนวนมาก และยังได้รับความนิยมจากลูกค้าเนื่องจากราคาไม่สูงมากนัก สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายทั้งคนไทยและต่างในระดับราคาที่แตกต่างกันไป

นายไพฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า ในช่วงต้นปี 52 การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ตค่อนข้างชะลอตัวอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจโลก และปัญหาการเมืองภายในประเทศ แต่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีเริ่มที่จะดีขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนคอนโดมีเนียมเนื่องจากสามารถขายให้กับชาวต่างชาติได้ถึง 49%

ขณะนี้มีโครงการขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการยื่นเรื่องประมาณ 2-3 โครงการ จำนวนโครงการละประมาณ 200-300 ยูนิต ส่วนการลงทุนโครงการบ้านจัดสรรในปี 2552 นั้นมีบ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องของที่ดินซึ่งมีราคาแพง และทำเลที่ตั้งส่วนใหญ่จะอยู่นอกตัวเมือง โดยมีประมาณ 3-4 โครงการเท่านั้น และเท่าที่ทราบมีอีกประมาณ 2-3 โครงการที่อยู่ระหว่างการขอความเห็นชอบในการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม

นายไพฑูรย์ ยังได้กล่าวถึงการจัดเก็บรายได้จากค่าธรรมเนียมต่างๆ ของสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ว่า ในปีงบประมาณ 2552 สามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียมได้ประมาณ 871 ล้านบาท ซึ่งลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีงบ 2551 ซึ่งจัดเก็บได้ 1,635 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการลดค่าธรรมเนียมตามนโยบายรัฐบาล แต่จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวเชื่อว่าการลงทุนและการซื้อขายน่าจะดีขึ้นตามลำดับ

ขณะที่นายธนันท์ ตัณฑ์ไพบูลย์ นายกสมาคมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในปี 2553 ว่า คงต้องขึ้นกับสภาพเศรษฐกิจ เพราะเศรษฐกิจภูเก็ตขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวเป็นหลัก หากท่องเที่ยวดีก็จะทำให้ธุรกิจอื่นๆ รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ดีตามไปด้วย อย่างไรก็ตามจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมีเนียมใจกลางเมืองขนาดพื้นที่ 20-30 ตารางเมตร จำนวนประมาณ 500 กว่ายูนิต ราคาเริ่มต้นที่ยูนิตละประมาณ 1 ล้านบาทต้นๆ มียอดจองประมาณ 60-70% ทำให้เชื่อได้ว่าตลาดคอนโดมีเนียมยังสามารถที่จะไปได้แต่ต้องมีระดับราคาไม่สูงนัก อาจเป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

โดยเฉพาะกลุ่มที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่าหรือเก็งกำไร จากเดิมที่เคยซื้อบ้านจัดสรรที่มีระดับราคาประมาณ 1 ล้านบาทต้นๆ ก็หันมาซื้อห้องชุดหรือคอนโดมีเนียมแทน เนื่องจากราคาไม่แตกต่างกันมากนัก และไม่ต้องยุ่งยากในการดูแลบำรุงรักษามากนัก ส่วนของบ้านจัดสรรนั้นแม้จะยังคงจะมีการเคลื่อนไหวบ้างแต่จะไม่หวือหวามากนัก โดยเฉพาะบ้านที่มีระดับราคาตั้ง 5 ล้านบาทขึ้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น