ASTVผู้จัดการรายวัน-ปีใหม่ปีนี้คึกคัก คาดเงินสะพัด 8 หมื่นล้านบาท โต 5.3% หลังคนกลับมาใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เหตุได้แรงบวกจากเศรษฐกิจไตรมาส 4 ที่ดีขึ้น ท่องเที่ยว สินค้าฟุ้มเฟือยขยับตามเศรษฐกิจ
นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความคิดเห็นประเด็นเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ยอดการใช้จ่ายปีนี้จะคึกคักมากและมีเม็ดเงินสะพัดสูงถึง 80,581 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนถึง 5.3% โดยแยกเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศ 38,592 ล้านบาท การท่องเที่ยวในต่างประเทศ 17,582 ล้านบาท และใช้เพื่อกิจกรรมสำหรับปีใหม่ 24,407 ล้านบาท แยกเป็นเลี้ยงสังสรรค์ 6,468 ล้านบาท ทำบุญ 7,103 ล้านบาท ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 7,981 ล้านบาท ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย 1,586 ล้านบาท และซื้อสินค้าคงทน 1,269 ล้านบาท
สำหรับพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินเฉลี่ยต่อคน จะใช้เพื่อการท่องเที่ยว 9,725 บาท ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องประดับ ทองคำ 4,646 บาท ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าคงทน 3,326 บาท จัดสังสรรค์เลี้ยงปีใหม่ 3,051 บาท ดูหนัง เที่ยวสถานบันเทิง 2,364 บาท ซื้อสุรา 1,778 บาท เสื้อผ้ารองเท้า 1,0944 บาท และทำบุญบริจาค 997 บาท ขณะที่ของขวัญยอดนิยมยังเป็นของรับประทาน รองลงมาเป็นกระเช้าผลไม้
กระเช้าของขวัญ เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ การ์ดอวยพร เช็กของขวัญ เสื้อผ้า
ส่วนการเดินทางฉลองปีใหม่ ประชาชนกว่า 54.7% มีแผนเดินทางไปจังหวัดอื่น เพื่อฉลองเคาท์ดาวน์และกลับเยี่ยมบ้าน มีเพียง 45.3% ที่อยู่ฉลองในจังหวัดตัวเอง จังหวัดที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา และกรุงเทพฯ ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวที่นิยมยังเป็น ทะเล ภูเขา น้ำตก โบราณสถาน ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถส่วนตัว เฉลี่ยอยู่คนละ 4 วัน
และใช้เงินสำหรับท่องเที่ยวในประเทศเฉลี่ยคนละ 6,658 บาท เพิ่มจากปีก่อน 5,736 บาท ส่วนการท่องเที่ยวต่างประเทศปีนี้จะใช่จ่ายเงินมากถึง 46,012 บาท เพิ่มจากที่แล้วที่ 33,000 บาท และนิยมเดินทางออกต่างประเทศเพิ่มจาก 1.9% เป็น 7.1% โดยมีที่หมายสำคัญคือ ยุโรป และเอเชีย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า แม้แนวโน้มจีดีพีปีนี้จะติดลบ 3.1% แต่เชื่อว่าช่วงเทศกาลปีใหม่คนจะกล้ากลับมาใช้จ่ายเงิน เพราะได้รับแรงบวกจากเศรษฐกิจไตรมาส 4 ที่คาดว่าฟื้นตัวบวก 1.5-2% โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่มีรายได้จากขายสินค้าได้ราคาดีขึ้น รวมถึงภาคการส่งออก การท่องเที่ยวก็ฟื้นตัวด้วย
ทำให้คนกล้ากลับมาใช้สอย และแบ่งรายได้มาซื้อสินค้าคงทน รถยนต์ คอนโดมีเนียม มอเตอร์ไซค์ รวมถึงท่องเที่ยวเพิ่ม อย่างไรก็ตาม แม้เม็ดเงินใช้จ่ายจะเพิ่ม แต่ส่วนมากยังมาจากราคาสินค้าที่แพง ไม่ได้มาจากปริมาณที่เพิ่ม
ส่วนสิ่งที่ประชาชนกังวลช่วงเทศกาลปีใหม่ ยังเป็นเรื่องอุบัติ เหตุตามท้องถนน คดีอาชญากรรม ปัญหาการจราจร การล่วงละเมิดทางเพศ และการขึ้นราคาของสินค้า ขณะที่คำอวยพรต้องการให้ในหลวงมีพระพลานามัยแข็งแรง ให้คนไทยสามัคคี รายได้เพิ่ม เศรษฐกิจดี และภาคใต้สงบสุข ส่วนการคาดหวังแก้ปัญหาของรัฐบาล ให้เน้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เสถียรภาพการเมือง และปัญหาสังคม
นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความคิดเห็นประเด็นเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ยอดการใช้จ่ายปีนี้จะคึกคักมากและมีเม็ดเงินสะพัดสูงถึง 80,581 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนถึง 5.3% โดยแยกเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในประเทศ 38,592 ล้านบาท การท่องเที่ยวในต่างประเทศ 17,582 ล้านบาท และใช้เพื่อกิจกรรมสำหรับปีใหม่ 24,407 ล้านบาท แยกเป็นเลี้ยงสังสรรค์ 6,468 ล้านบาท ทำบุญ 7,103 ล้านบาท ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 7,981 ล้านบาท ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย 1,586 ล้านบาท และซื้อสินค้าคงทน 1,269 ล้านบาท
สำหรับพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินเฉลี่ยต่อคน จะใช้เพื่อการท่องเที่ยว 9,725 บาท ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องประดับ ทองคำ 4,646 บาท ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าคงทน 3,326 บาท จัดสังสรรค์เลี้ยงปีใหม่ 3,051 บาท ดูหนัง เที่ยวสถานบันเทิง 2,364 บาท ซื้อสุรา 1,778 บาท เสื้อผ้ารองเท้า 1,0944 บาท และทำบุญบริจาค 997 บาท ขณะที่ของขวัญยอดนิยมยังเป็นของรับประทาน รองลงมาเป็นกระเช้าผลไม้
กระเช้าของขวัญ เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ การ์ดอวยพร เช็กของขวัญ เสื้อผ้า
ส่วนการเดินทางฉลองปีใหม่ ประชาชนกว่า 54.7% มีแผนเดินทางไปจังหวัดอื่น เพื่อฉลองเคาท์ดาวน์และกลับเยี่ยมบ้าน มีเพียง 45.3% ที่อยู่ฉลองในจังหวัดตัวเอง จังหวัดที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา และกรุงเทพฯ ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวที่นิยมยังเป็น ทะเล ภูเขา น้ำตก โบราณสถาน ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถส่วนตัว เฉลี่ยอยู่คนละ 4 วัน
และใช้เงินสำหรับท่องเที่ยวในประเทศเฉลี่ยคนละ 6,658 บาท เพิ่มจากปีก่อน 5,736 บาท ส่วนการท่องเที่ยวต่างประเทศปีนี้จะใช่จ่ายเงินมากถึง 46,012 บาท เพิ่มจากที่แล้วที่ 33,000 บาท และนิยมเดินทางออกต่างประเทศเพิ่มจาก 1.9% เป็น 7.1% โดยมีที่หมายสำคัญคือ ยุโรป และเอเชีย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า แม้แนวโน้มจีดีพีปีนี้จะติดลบ 3.1% แต่เชื่อว่าช่วงเทศกาลปีใหม่คนจะกล้ากลับมาใช้จ่ายเงิน เพราะได้รับแรงบวกจากเศรษฐกิจไตรมาส 4 ที่คาดว่าฟื้นตัวบวก 1.5-2% โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่มีรายได้จากขายสินค้าได้ราคาดีขึ้น รวมถึงภาคการส่งออก การท่องเที่ยวก็ฟื้นตัวด้วย
ทำให้คนกล้ากลับมาใช้สอย และแบ่งรายได้มาซื้อสินค้าคงทน รถยนต์ คอนโดมีเนียม มอเตอร์ไซค์ รวมถึงท่องเที่ยวเพิ่ม อย่างไรก็ตาม แม้เม็ดเงินใช้จ่ายจะเพิ่ม แต่ส่วนมากยังมาจากราคาสินค้าที่แพง ไม่ได้มาจากปริมาณที่เพิ่ม
ส่วนสิ่งที่ประชาชนกังวลช่วงเทศกาลปีใหม่ ยังเป็นเรื่องอุบัติ เหตุตามท้องถนน คดีอาชญากรรม ปัญหาการจราจร การล่วงละเมิดทางเพศ และการขึ้นราคาของสินค้า ขณะที่คำอวยพรต้องการให้ในหลวงมีพระพลานามัยแข็งแรง ให้คนไทยสามัคคี รายได้เพิ่ม เศรษฐกิจดี และภาคใต้สงบสุข ส่วนการคาดหวังแก้ปัญหาของรัฐบาล ให้เน้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เสถียรภาพการเมือง และปัญหาสังคม