xs
xsm
sm
md
lg

ความเชื่อมั่นคนไทยเด้งยกแผง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ดัชนีความเชื่อมั่นพ.ย. เด้งยกแผง ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมสูงสุดรอบ 13 เดือน คาดปีใหม่กำลังซื้อคึกคัก ทั้งบ้าน รถยนต์ ท่องเที่ยว สดใส มั่นใจครึ่งปีหลังกำลังซื้อฟื้นแน่ แต่ห่วงการเมือง มาบตาพุด เศรษฐกิจโลก หากแรงฉุดดัชนีดิ่งต่อ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพ.ย.2552 จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ 2,242 คนว่า ดัชนีทุกรายการปรับขึ้นอีกครั้ง หลังจากเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา มีดัชนีบางรายการปรับตัวลดลง โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเท่ากับ 76.5 เพิ่มจากเดือนต.ค.ที่ 75.4 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปัจจุบัน 63.8 เพิ่มจาก 63.3 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต 79.5 เพิ่มจาก 78.2 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเท่ากับ 69.1 เพิ่มจาก 68.0 ซึ่งถือเป็นการเพิ่มสูงสุดในรอบ 13 เดือน ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำ 67.8 เพิ่มจาก 66.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต 92.6 เพิ่มจาก 91.2
ปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีเป็นบวกมาจากการที่ผู้บริโภคมีความหวังว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากดัชนีที่เกี่ยวข้องกับอนาคตปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 6-7 เดือนติดต่อกัน และยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ปี 2552 ที่ฟื้นตัวขึ้นเหลือติดลบเพียง 2.8% รวมถึงการไม่เกิดความรุนแรงในการชุมนุมการเมือง และราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ปรับเพิ่ม ก็ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค
ส่วนปัจจัยลบที่กระทบต่อความเชื่อมั่นในเดือนพ.ย.ยังมาจากความวุ่นวายทางการเมือง การตัดสินคดี 76 โครงการมาบตาพุด ค่าครองชีพสูง และผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกทั้งการลดค่าเงินด่องของเวียดนาม ที่อาจกระทบต่อการส่งออกไทย รวมถึงการเกิดปัญหาการชำระหนี้ของกลุ่มดูไบ เวิลด์
“แม้ดัชนีจะเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่ส่งสัญญาณว่าความเชื่อมั่นจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน ผู้บริโภคยังกังวล และยังระมัดระวังการใช้จ่ายอยู่ เนื่องจากภาคประชาชนยังไม่รับรู้ถึงสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นในปัจจุบัน แต่การใช้จ่ายช่วงปีใหม่น่าจะคึกคักกว่าปีที่แล้ว เห็นได้จากดัชนีความเห็นเกี่ยวกับสินค้าคงทน บ้าน รถยนต์คันใหม่ รวมถึงการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 3 จุด ทำให้การใช้จ่าย ซื้อสินค้า ของขวัญน่าจะคึกคัก”นายธนวรรธน์กล่าว
ทั้งนี้ ผลสำรวจภาวการณ์ใช้จ่ายประชาชน เห็นว่าการซื้อรถยนต์ ซื้อบ้าน การท่องเที่ยว และลงทุนทำธุรกิจมีการปรับตัวดีขึ้น และเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือนที่ผลสำรวจภาวะการณ์สังคมด้านความสุขในการดำรงชีวิตในอนาคตปรับตัวเกิน 100 อยู่ระดับ 100.9 และความสุขในปัจจุบันสูงขึ้นในรอบ 14 เดือนมาอยู่ระดับ 94.4 แต่ก็มีความวิตกเพิ่มขึ้นต่อปัญหาค่าครองชีพที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ปัญหาคอร์รัปชั่นมากขึ้น และการเมืองไม่แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขณะนี้ยังทรงตัวในระดับต่ำกว่าปกติอยู่ และต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ โดยมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ ความขัดแย้งทางการเมือง ราคาน้ำมัน การระงับโครงการมาบตาพุด และความไม่แน่นอนในภาวะเศรษฐกิจโลกว่าจะฟื้นตัวได้ยั่งยืนหรือไม่ หากปัจจัยเหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบรุนแรงจนมาหักล้าง คาดว่าแนวโน้มความเชื่อมั่นต่อจากนี้มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีหน้าเป็นต้นไป และจะฟื้นเข้าสู่ภาวะปกติได้ในกลางปี เดือน พ.ค.-มิ.ย.2553 และหลังจากนั้นการบริโภคภายในจะสามารถเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในของประเทศได้
กำลังโหลดความคิดเห็น