xs
xsm
sm
md
lg

เอเอเอสฯไม่หวั่นวันชี้ชะตา !ยกทัพรถ‘จากัวร์-ปอร์เช่’ลุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ข่าวในประเทศ - ตลาดรถหรูร้อนแรง! แม้การเมือง-เศรษฐกิจอาจจะปั่นป่วนหนักก็ตาม ค่าย “เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส” เดินหน้ารุกเต็มที่ ล่าสุดเปิดตัวรถหรู “จากัวร์ เอ็กซ์เจ” โฉมใหม่สู่ตลาดไทย เป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ชนิดไม่หวั่นวันชี้ชะตา “26 ก.พ.” ที่จะมีขึ้นในอีก 3 วันข้างหน้า มั่นใจกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อปึ้ก โดยชูจุดเด่นล่อใจด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ติดตั้งมาให้ครบครัน ลูกค้าสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ หวังท้าชนท็อปคลาสของคู่แข่ง “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส” และ “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์7” เคาะราคา 3.76-3.91 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 12-13 ล้านบาท

ขณะอีกแบรนด์ในเครือ “ปอร์เช่” เตรียมยกทัพล้วงกระเป๋าเศรษฐีไทย นำเข้าสปอร์ตซีดาน “ปอร์เชพานาเมร่า” เครื่องยนต์ วี6 ใหม่ เสริมทัพพี่ใหญ่ที่ส่งลงทำตลาดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่หากใครชื่นชอบสไตล์สปอร์ตแท้ไม่ผิดหวังกับสายพันธุ์ “911 เทอร์โบ” รหัสใหม่ “เอส” ที่เพิ่มม้าเข้าไปในคอกอีก 30 ตัว เป็น 530 แรงม้า จากนั้นช่วงครึ่งปีหลังเล็งนำเข้า “ปอร์เช่ คาเยนน์” ใหม่เขย่าตลาดเอสยูวีหรูอีกระลอก

ไม่สนปัญหาการเมือง หรือเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เพียงก้าวแรกของปีเสือโหย ค่ายรถหรูก็เปิดศึกฟัดเดือด! เมื่อสองยักษ์ใหญ่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” และ “บีเอ็มดับเบิลยู” เดินหน้าลุยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ปั้นยอดขายทันที เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อพร้อมอยู่แล้ว ขอเพียงให้มีสินค้าหรือแคมเปญถูกใจ พร้อมที่จะถอยรถออกมาทันที ทำให้หลายค่ายรถหรูเตรียมส่งหมัดเด็ด ออกมาล่วงกระเป๋าบรรดาเศรษฐีไทยเช่นกัน โดยล่าสุด “จากัวร์” รถหรูจากแดนผู้ดี ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ระดับท็อปคลาสสู่ตลาด ก่อนวันชี้ชะตา “26 ก.พ.” หรือวันตัดสินคดียึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” เพียงแค่ 3 วันเท่านั้น ขณะที่ “ปอร์เช่” แบรนด์ในกลุ่มเอเอเอสฯ ด้วยกัน ได้เตรียมส่งรถใหม่บุกตลาดไทยปีนี้อีกหลายรุ่นเช่นกัน

“เราได้นำโฉมใหม่ของ จากัวร์ เอ็กซ์เจ (Jaguar XJ) เข้ามาให้ลูกค้าได้มีโอกาสสัมผัส เพื่อสร้างประสบการณ์ที่พิเศษสุด โดยไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคที่เปิดตัว ซึ่งวันนี้มีลูกค้าสั่งจองรถมาแล้ว 30-40 คัน ส่วนการส่งมอบรถล็อตแรกอยู่ที่ประมาณเดือนพฤษภาคมปีนี้”

อนุรักษ์ อินทรภูวศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอเอส ออโตเซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถหรูยี่ห้อ จากัวร์, ปอร์เช่ และเบนท์ลี่ย์ในประเทศไทย เปิดเผยและว่า เอ็กซ์เจโฉมใหม่ที่นำเข้ามาเต็มไปด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ใหม่ล่าสุด และยังได้สั่งอุปกรณ์มาตรฐานมาแบบครบถ้วน ลูกค้าไม่จำเป็นต้องสั่งเพิ่มเติมอีก

ชัดเจนถึงความโดดเด่นของ จากัวร์ เอ็กซ์เจ โฉมใหม่ ที่ทางกลุ่มเอเอเอสฯ นำเข้ามา ซึ่งลูกค้าจะได้รับรถที่นำเข้าจากผู้แทนจำหน่ายโดยตรง จึงมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานได้ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่ครบครัน ไม่เหมือนกับรถที่ผู้นำเข้าอิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ตนำเข้ามา เพื่อที่จะหั่นราคาลงมาถล่มตัวแทนจำหน่าย แต่สุดท้ายลูกค้าต้องเจอกับปัญหาอีกสารพัดตามมา

จากัวร์ เอ็กซ์เจ ใหม่ เป็นคู่ปรับสำคัญของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส ที่เพิ่งปรับโฉมและแนะนำสู่ตลาดไทยเมื่อเดือนที่ผ่านมา รวมถึงบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 และออดี้ เอดี้ โดยเอ็กซ์เจใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์ 5.0 ลิตร วี8 ให้กำลังสูงสุด 385 แรงม้า ตัวถังเป็นอลูมิเนียมโมโนค็อกที่เบาและทนทาน ทำให้เอ็กซ์เจใหม่มีน้ำหนักเพียง 1,755 กก. ถือได้ว่าเบาที่สุดในรถระดับเดียวกัน จึงช่วยในเรื่องของสมรรถนะ ลดการใช้เชื้อเพลิงและลดการคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ส่วนการตกแต่งจะมาในแบบ Portfolio ลูกค้าสามารถเลือกการตกแต่งภายในได้เองตามสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสีของเบาะนั่งหนังแท้แบบ Softgrain ที่จะมาพร้อมการเดินตะเข็บด้ายและกุ๊นขอบสีเดียวกับเบาะหรือต่างสีก็ได้ รวมไปถึง Upper Facia และโทนสีภายใน วัสดุหุ้มหลังคาแบบหนังกลับ 3 สี ลายไม้หรือลายอลูมิเนียมสำหรับการตกแต่งภายใน 6 แบบ ส่วนภายนอกก็มีสีตัวถังให้เลือกถึง 14 สี ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากกว่า 250 รูปแบบการตกแต่ง

เอ็กซ์เจใหมยังติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัยหลากหลาย เช่น หน้าปัทม์แบบ Virtual Instrument จอ Touch Screen แบบ Dual View ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถมองเห็นหน้าจอได้คนละมุมมองในเวลาเดียวกัน หลังคากระจกแบบ Panoramic Glass Roof พร้อมม่านบังแดดแยกอิสระหน้าหลัง

สำหรับราคา จากัวร์ เอ็กซ์เจ ใหม่ มีให้เลือก 2 รุ่นตัวถัง โดยเป็นแบบมาตรฐานราคา 376,000 เหรียญสหรัฐ และรุ่นฐานล้อยาว 391,000 เหรียญสหรัฐ หรือเอ็กซ์เจใหม่มีราคาประมาณกว่า 12-13 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ลูกค้าให้ความสนใจจองแล้วหลายราย และเชื่อว่าเอ็กซ์เจใหม่จะช่วยผลักดันให้ยอดขายจากัวร์ในประเทศไทยปีนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 60 คัน จากปีที่ผ่านมาทำได้ 35 คัน

ขณะที่ “ปอร์เช่” แบรนด์ในกลุ่มเอเอเอสฯ เช่นเดียวกัน ปีนี้เตรียมเดินหน้ารุกตลาดต่อเนื่อง เพื่อบรรลุเป้าหมายขายกว่า 70 คัน หลังจากเมื่อช่วงปลายปีได้มีการเปิดตัวสปอร์ตซีดาน “ปอร์เช่ พานาเมร่า” (Porsche Panamera) และก็ได้รับการตอบรับดีพอสมควร ทำให้ปีนี้เตรียมเสริมทัพอีกระลอก โดยอีกประมาณ 2-3 เดือนข้างหน้า จะมีการเปิดตัวรุ่นเล็กของพานาเมร่า หรือรุ่นเครื่องยนต์วี6 สู่ตลาดไทย ซึ่งรถรุ่นนี้มีกำหนดเปิดตัวเป็นทางการครั้งแรก ที่งานปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ 2010 ช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ จากนั้นจะถูกส่งทำตลาดที่อังกฤษในเดือนมิถุนายน และทยอยสู่ตลาดโลกรวมถึงประเทศไทยในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
ปอร์เช่ พานาเมร่า เครื่องยนต์ วี6 ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งได้นำมาใช้กับเอสยูวีหรูรุ่นคาเยนน์ในการปรับโฉมที่ผ่านมา โดยมีขนาด 3.6 ลิตร DFI (Direct Fuel Injection) ให้กำลังสูงถึง 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร โดยสนนราคาอยู่ที่ 61,461 และ 66,929 ยูโร แต่ในเมืองไทยคงต้องรอวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ต่ำกว่าพานาเมร่าพี่ใหญ่ที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน

อีกรุ่นที่เอเอเอสฯ จะนำเข้ามาทำตลาดในปีนี้ เห็นจะเป็น “ปอร์เช่ 911 เทอร์โบ เอส” (Porsche 911 Turbo S) ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับสายพันธ์ 911 เทอร์โบในตลาด โดยเติมรหัส “เอส” เข้าไป พร้อมกับเพิ่มม้าเข้าไปในคอกอีก 30 ตัว ให้กับเครื่องยนต์ 6 สูบนอน 3.8 ลิตร ส่งผลให้เทอร์โบคู่แบบ VTG จากเดิมที่มีกำลังอยู่ 500 แรงม้า ขยับมาเป็น 530 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 71.3 กก.-ม.
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีกำลังเพิ่มขึ้น แต่ทางปอร์เช่การันตีว่าอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงยังเหมือนเดิม หรืออยู่ที่ 11.4 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 8.7 กิโลเมตรต่อลิตร สำหรับการใช้งานแบบเฉลี่ยทั้งในเมืองและนอกเมือง

ไม่เพียงเท่านี้ในช่วงครึ่งปีหลัง ปอร์เช่ในประเทศไทยยังเดินหน้าลุยอย่างต่อเนื่อง โดยเล็งที่จะนำเข้า “ปอร์เช่ คาเยนน์” โฉมใหม่ มาให้ผู้ที่ชื่นชอบความอเนกประสงค์แบบหรูหราได้ควักกระเป๋าอีกด้วย แต่ในส่วนรายละเอียดของคาเยนน์ใหม่ยังไม่มีข้อมูล เนื่องจากยังไม่มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการจากบริษัทแม่ ทราบเพียงแต่ว่าจะเป็นรถรุ่นใหม่เท่านั้น...

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร?... หรือการเมืองไทยจะผันผวนร้อนแรงแค่ไหน?... เศรษฐกิจจะฟื้นเร็วหรือไม่?... ค่ายเอเอเอสฯ พร้อมสู้ศึกตลาดรถหรูปีเสือโหยอย่างเต็มที่ เห็นได้จากการเปิดตัวและแผนนำเข้ารถรุ่นใหม่ของแบรนด์ในเครือตลอดทั้งปี
กำลังโหลดความคิดเห็น