แม้จะผ่านวิกฤตอย่างเฉียดฉิว แต่ก็ต้องยอมรับในความสามารถของ “ฟอร์ด” ที่ฝ่าพิษเศรษฐกิจแฮมเบเกอร์มาได้ ไม่ต้องล้มทั้งยืนเหมือนกับค่ายรถเพื่อนร่วมชาติในกลุ่มบิ๊กทรีด้วยกัน และจากนี้ไปจะเป็นการก้าวเดินใหม่อย่างมั่นคงของฟอร์ด ภายใต้แผนกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้ฟอร์ดกลับมาสู่ความเป็นหนึ่งอีกครั้ง
“กลยุทธ์การทำงานใหม่ภายใต้แนวคิด ONE FORD ของเรา จะทำให้ฟอร์ดกลับมาสู่ความเป็นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ยอดเยี่ยม สร้างธุริกจของฟอร์ดให้แข็งแกร่ง และดีที่สุดในโลก”
นั่นเป็นคำยืนยันของ “อลัน มูลัลลี” ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฟอร์ด ได้กล่าวในงานเลี้ยงต้อนรับสื่อมวลชนจากภาคพื้นเอเชียและแอฟริกา รวมถึงออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งได้รับเชิญให้ไปรับฟังแผนธุรกิจใหม่ของฟอร์ด และยลโฉม “ฟอร์ด โฟกัส” ใหม่ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานดีทรอยต์มอเตอร์โชว์ 2010
ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ฟอร์ดได้มีการกล่าวถึงกลยุทธ์ ONE FORD อยู่เสมอ และมูลัลลีตลอดจนพนักงานของฟอร์ดทุกคนดูจะเชื่อมั่นกับกลยุทธ์นี้เป็นอย่างมาก ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้และเข้าใจแนวทางการทำงานดังกล่าว มันมีรูปธรรมที่ชัดเจนเช่นไร?
“ONE FORD คือ... ONE TEAM, ONE PLAN และ ONE GOAL ซึ่งเป็นการรวมความเชี่ยวชาญอันสุดยอดของฟอร์ดทั้งหมดทั่วโลก ให้เป็นหนึ่งและไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นทีมบุคลากร แผนธุรกิจ และเป้าหมายสู่ความเป็นหนึ่ง”
เป็นคำอธิบายของ “เดอร์ริค คูแซค” รองประธานกลุ่มผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และกล่าวว่า… “ภายใต้ปรัชญาการทำงานแบบ ONE FORD เราได้ดึงศักยภาพของทีมที่มีความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลก ทั้งในการออกแบบและการพัฒนารถยนต์สำหรับทุกตลาดทั่วโลก และสามารถส่งมอบรถระดับโลกรุ่นต่างๆ ไปยังลูกค้าของเราได้ โดยมอบรถยนต์ที่ออกแบบน่าตื่นเต้น และเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ และเทคโนโลยีระดับสูงกว่าความคาดหมายให้กับลูกค้า”
คูแซคยังบอกว่า แนวทางการทำงานใหม่นี้ ยังได้ทำลายกำแพงการทำงานของแต่ละภูมิภาค ที่ก่อนหน้านี้เคยก่อให้เกิดมาตรฐานด้านวิศวกรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งบ่อยครั้งเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการออกแบบรถ และส่วนประกอบต่างๆ เพิ่มเติมโดยไม่จำเป็น
“ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์แรกภายใต้กลยุทธ์การทำงาน ONE FORD ของเรา ซึ่งต้องการมอบรถยนต์คุณภาพสูง ที่รวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี มาบรรจุไว้ให้แก่ลูกค้าทั่วโลก” อลัน มูลัลลี ประธานและซีอีโอฟอร์ดกล่าว
“ประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังรถยนต์นั่งระดับโลกใหม่ของเรา จะทำให้ลูกค้ารถฟอร์ด โฟกัส สามารถเป็นเจ้าของสินค้าที่ราคาไม่แพง แต่เพียบพร้อมด้วยคุณภาพ ความประหยัดน้ำมัน ความปลอดภัย รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เหนือความคาดหมาย”
แล้วทำไม? ฟอร์ดจึงเลือกเปิดตัว “ฟอร์ด โฟกัส” ใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์แรกภายใต้แนวคิด ONE FORD
เรื่องนี้ “โจ เฮนริชส์” ประธานฟอร์ดภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกาคนใหม่ ได้อธิบายว่าตลาดรถขนาดเล็กกำลังมีการเติบโตทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มซับคอมแพ็กต์(B-Segment) หรือคอมแพ็กต์(C-Segment) โดยตัวเลขยอดขายรถกลุ่มนี้ ในปี 2002 มีประมาณ 23 ล้านคัน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 38 ล้านคันในปี 2012
“ฟอร์ดคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ประกอบด้วยกลุ่มบี และซี เซกเม้นท์ จะมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ของยอดขายในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก”
ทั้งนี้ในสหรัฐอเมริการถเล็กจะเพิ่ม 25% ในปี 2012 หรือเป็น 3.8 ล้านคัน ซึ่งในส่วนของฟอร์ดจากเดิมมียอดขายเป็นกระบะและเอสยูวีมีสัดส่วนเป็น 70% แต่จะปรับเป็นรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง และครอสโอเวอร์ 60% ที่เหลืออีก 40% เป็นรถกระบะ ในส่วนของยุโรปซีคาร์ หรือคอมแพ็กต์คาร์มีอิทธิพลมาก จากสัดส่วนยอดขายในระดับสูงถึง 30% โดยรถที่จัดอยู่ในกลุ่มคอมแพ็คต์ของยุโรป มีความหลากหลายเป็นอย่างมาก และในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา ตลาดรถยนต์คอมแพ็กต์ยังคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ของยอดขายรถยนต์นั่งทั้งหมด
จากการประเมินและวิเคราะห์ของฟอร์ด จึงไม่แปลกที่ฟอร์ดจะนำเสนอ “โฟกัส” ใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์แรกภายใต้แนวคิด ONE FORD ซึ่งจะมีการทยอยทำตลาด ตั้งแต่ต้นปี 2011 เป็นต้นไป
โดยฟอร์ดคาดว่ากำลังการผลิตรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คต์ทั่วโลกของบริษัท จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จากการผลิตประมาณ 1 ล้านคันในปี 2008 สู่จำนวน 2 ล้านคัน ภายในปี 2012 นอกจากนี้ฟอร์ดยังคาดว่าจะจำหน่ายโฟกัสใหม่ในประเทศต่างๆ ถึง 122 ประเทศทั่วโลก
“โฟกัสใหม่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรถยนต์คอมแพ็กต์รุ่นแรกๆ ที่ฟอร์ดจะผลิตขึ้น บริษัทมีแผนกลยุทธ์ที่จะสร้างผลกำไรจากทั่วโลกให้เติบโตยิ่งขึ้น จากการผลิตรถในเซกเม้นท์นี้ โดยยืนอยู่บนหลักของการสร้างแพลตฟอร์ม ที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการผลิตสินค้าที่มีความหลากหลาย”
จากความคาดหวังสูงยิ่งของฟอร์ด ทำให้โฟกัสใหม่ได้รับการพัฒนาขึ้น จากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของฟอร์ด และความต้องการของลูกค้าจากทั่วโลกมาไว้ด้วยกัน
“การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ และตรงกับความคาดหวังของลูกค้าทั่วโลก คือกุญแจสำคัญของแนวคิด ONE FORD ภายใต้การนำของอลัน มูลัลลี่ ประธานและซีอีโอของฟอร์ด ซึ่งหัวใจหลักของกลยุทธ์นี้อยู่ที่การใช้ประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฟอร์ด”คูแซคกล่าว
จากผลการวิจัยลูกค้าจากทวีปอเมริกาไปจนถึงประเทศจีน ย้ำให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวในทิศทางที่ถูกต้องของฟอร์ด ในการปฏิรูปการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไปสู่การผลิตรถยนต์ระดับโลก จากที่เคยแบ่งตามภูมิภาค ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกทั่วไป ยกตัวอย่างเช่นระหว่างการทำวิจัยเกี่ยวกับฟอร์ด โฟกัส รุ่นใหม่ ลูกค้าจากทั้ง 3 ภูมิภาคหลักของโลก ต่างชื่นชอบการออกแบบภายใต้แนวคิดแบบเคเนติก ดีไซน์ (kinetic design) และความชอบรูปแบบตัวถังในแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน ยังมีให้เห็นน้อยลงในปัจจุบัน ทำให้ความจำเป็นในการผลิตสินค้าที่แตกต่างกัน สำหรับแต่ละภูมิภาคลดลง และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแผนการผลิตสินค้าชั้นนำในระดับสากลอย่างแท้จริง
“ฟอร์ด โฟกัส รุ่นใหม่ จึงเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโลกอย่างแท้จริง โดยจะวางจำหน่ายในทุกประเทศทั่วโลก และมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก โดยใช้ชิ้นส่วนร่วมกันมากถึง 80%”
จากการปฏิรูปการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ทำให้ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ได้รับการพัฒนาและออกแบบจากทีมงานของฟอร์ดทั่วโลก โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ศูนย์การออกแบบและพัฒนารถขนาดเล็กและกลางของฟอร์ดในยุโรป ที่เขตเมอร์เคนิชใกล้กับเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี ขณะที่ระบบส่งกำลังได้รับการพัมนาจากศูนย์ปฏิบัติงานด้านเทคนิคของฟอร์ด เมืองดันตัน ประเทศอังกฤษ ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ และระบบส่งกำลังจากศูนย์วิศวกรรมยานยนต์ของฟอร์ในเมืองเดียร์บอน รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา
ที่สำคัญรถยนต์รุ่นใหม่จำนวนถึง 10 รุ่น จะได้รับการผลิตขึ้นโดยใช้โครงสร้างตัวถังของรถยนต์ขนาดคอมแพ็กต์ใหม่เดียว แทนการผลิตในปัจจุบันที่ใช้ถึง 3 แพลตฟอร์มสำหรับการผลิตในแต่ละภูมิภาค โดยแพลตฟอร์ดังกล่าวจะเริ่มใช้ใน ฟอร์ด โฟกัส รุ่นใหม่ และฟอร์ด ซี-แมกซ์ ซึ่งได้เปิดตัวในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009 และจะเริ่มทำตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2010
ส่วนข้อมูลรายละเอียด โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ฟอร์ดได้นำมาใส่ไว้ในรถรุ่นต่างๆ จากนี้ไป โดยได้เริ่มต้นที่ “ฟอร์ด โฟกัส” นั้น “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” จะขอนำเสนอในคราวต่อไป...
แต่ทั้งหมดล้วนเป็นไปตามปรัชญาการทำงาน ภายใต้แนวคิด… “ONE FORD” ของประธานและซีอีโอฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ซึ่งจะเป็นลายแทงเส้นทาง “สู่ความเป็นหนึ่งของฟอร์ด” นับจากนี้ไป?!
“กลยุทธ์การทำงานใหม่ภายใต้แนวคิด ONE FORD ของเรา จะทำให้ฟอร์ดกลับมาสู่ความเป็นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ยอดเยี่ยม สร้างธุริกจของฟอร์ดให้แข็งแกร่ง และดีที่สุดในโลก”
นั่นเป็นคำยืนยันของ “อลัน มูลัลลี” ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฟอร์ด ได้กล่าวในงานเลี้ยงต้อนรับสื่อมวลชนจากภาคพื้นเอเชียและแอฟริกา รวมถึงออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งได้รับเชิญให้ไปรับฟังแผนธุรกิจใหม่ของฟอร์ด และยลโฉม “ฟอร์ด โฟกัส” ใหม่ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานดีทรอยต์มอเตอร์โชว์ 2010
ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ฟอร์ดได้มีการกล่าวถึงกลยุทธ์ ONE FORD อยู่เสมอ และมูลัลลีตลอดจนพนักงานของฟอร์ดทุกคนดูจะเชื่อมั่นกับกลยุทธ์นี้เป็นอย่างมาก ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้และเข้าใจแนวทางการทำงานดังกล่าว มันมีรูปธรรมที่ชัดเจนเช่นไร?
“ONE FORD คือ... ONE TEAM, ONE PLAN และ ONE GOAL ซึ่งเป็นการรวมความเชี่ยวชาญอันสุดยอดของฟอร์ดทั้งหมดทั่วโลก ให้เป็นหนึ่งและไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นทีมบุคลากร แผนธุรกิจ และเป้าหมายสู่ความเป็นหนึ่ง”
เป็นคำอธิบายของ “เดอร์ริค คูแซค” รองประธานกลุ่มผู้บริหารฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และกล่าวว่า… “ภายใต้ปรัชญาการทำงานแบบ ONE FORD เราได้ดึงศักยภาพของทีมที่มีความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลก ทั้งในการออกแบบและการพัฒนารถยนต์สำหรับทุกตลาดทั่วโลก และสามารถส่งมอบรถระดับโลกรุ่นต่างๆ ไปยังลูกค้าของเราได้ โดยมอบรถยนต์ที่ออกแบบน่าตื่นเต้น และเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ และเทคโนโลยีระดับสูงกว่าความคาดหมายให้กับลูกค้า”
คูแซคยังบอกว่า แนวทางการทำงานใหม่นี้ ยังได้ทำลายกำแพงการทำงานของแต่ละภูมิภาค ที่ก่อนหน้านี้เคยก่อให้เกิดมาตรฐานด้านวิศวกรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งบ่อยครั้งเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการออกแบบรถ และส่วนประกอบต่างๆ เพิ่มเติมโดยไม่จำเป็น
“ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์แรกภายใต้กลยุทธ์การทำงาน ONE FORD ของเรา ซึ่งต้องการมอบรถยนต์คุณภาพสูง ที่รวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี มาบรรจุไว้ให้แก่ลูกค้าทั่วโลก” อลัน มูลัลลี ประธานและซีอีโอฟอร์ดกล่าว
“ประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังรถยนต์นั่งระดับโลกใหม่ของเรา จะทำให้ลูกค้ารถฟอร์ด โฟกัส สามารถเป็นเจ้าของสินค้าที่ราคาไม่แพง แต่เพียบพร้อมด้วยคุณภาพ ความประหยัดน้ำมัน ความปลอดภัย รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เหนือความคาดหมาย”
แล้วทำไม? ฟอร์ดจึงเลือกเปิดตัว “ฟอร์ด โฟกัส” ใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์แรกภายใต้แนวคิด ONE FORD
เรื่องนี้ “โจ เฮนริชส์” ประธานฟอร์ดภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกาคนใหม่ ได้อธิบายว่าตลาดรถขนาดเล็กกำลังมีการเติบโตทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มซับคอมแพ็กต์(B-Segment) หรือคอมแพ็กต์(C-Segment) โดยตัวเลขยอดขายรถกลุ่มนี้ ในปี 2002 มีประมาณ 23 ล้านคัน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 38 ล้านคันในปี 2012
“ฟอร์ดคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ประกอบด้วยกลุ่มบี และซี เซกเม้นท์ จะมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 50% ของยอดขายในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก”
ทั้งนี้ในสหรัฐอเมริการถเล็กจะเพิ่ม 25% ในปี 2012 หรือเป็น 3.8 ล้านคัน ซึ่งในส่วนของฟอร์ดจากเดิมมียอดขายเป็นกระบะและเอสยูวีมีสัดส่วนเป็น 70% แต่จะปรับเป็นรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง และครอสโอเวอร์ 60% ที่เหลืออีก 40% เป็นรถกระบะ ในส่วนของยุโรปซีคาร์ หรือคอมแพ็กต์คาร์มีอิทธิพลมาก จากสัดส่วนยอดขายในระดับสูงถึง 30% โดยรถที่จัดอยู่ในกลุ่มคอมแพ็คต์ของยุโรป มีความหลากหลายเป็นอย่างมาก และในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา ตลาดรถยนต์คอมแพ็กต์ยังคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ของยอดขายรถยนต์นั่งทั้งหมด
จากการประเมินและวิเคราะห์ของฟอร์ด จึงไม่แปลกที่ฟอร์ดจะนำเสนอ “โฟกัส” ใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์แรกภายใต้แนวคิด ONE FORD ซึ่งจะมีการทยอยทำตลาด ตั้งแต่ต้นปี 2011 เป็นต้นไป
โดยฟอร์ดคาดว่ากำลังการผลิตรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็คต์ทั่วโลกของบริษัท จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จากการผลิตประมาณ 1 ล้านคันในปี 2008 สู่จำนวน 2 ล้านคัน ภายในปี 2012 นอกจากนี้ฟอร์ดยังคาดว่าจะจำหน่ายโฟกัสใหม่ในประเทศต่างๆ ถึง 122 ประเทศทั่วโลก
“โฟกัสใหม่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรถยนต์คอมแพ็กต์รุ่นแรกๆ ที่ฟอร์ดจะผลิตขึ้น บริษัทมีแผนกลยุทธ์ที่จะสร้างผลกำไรจากทั่วโลกให้เติบโตยิ่งขึ้น จากการผลิตรถในเซกเม้นท์นี้ โดยยืนอยู่บนหลักของการสร้างแพลตฟอร์ม ที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการผลิตสินค้าที่มีความหลากหลาย”
จากความคาดหวังสูงยิ่งของฟอร์ด ทำให้โฟกัสใหม่ได้รับการพัฒนาขึ้น จากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของฟอร์ด และความต้องการของลูกค้าจากทั่วโลกมาไว้ด้วยกัน
“การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ และตรงกับความคาดหวังของลูกค้าทั่วโลก คือกุญแจสำคัญของแนวคิด ONE FORD ภายใต้การนำของอลัน มูลัลลี่ ประธานและซีอีโอของฟอร์ด ซึ่งหัวใจหลักของกลยุทธ์นี้อยู่ที่การใช้ประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฟอร์ด”คูแซคกล่าว
จากผลการวิจัยลูกค้าจากทวีปอเมริกาไปจนถึงประเทศจีน ย้ำให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวในทิศทางที่ถูกต้องของฟอร์ด ในการปฏิรูปการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไปสู่การผลิตรถยนต์ระดับโลก จากที่เคยแบ่งตามภูมิภาค ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกทั่วไป ยกตัวอย่างเช่นระหว่างการทำวิจัยเกี่ยวกับฟอร์ด โฟกัส รุ่นใหม่ ลูกค้าจากทั้ง 3 ภูมิภาคหลักของโลก ต่างชื่นชอบการออกแบบภายใต้แนวคิดแบบเคเนติก ดีไซน์ (kinetic design) และความชอบรูปแบบตัวถังในแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน ยังมีให้เห็นน้อยลงในปัจจุบัน ทำให้ความจำเป็นในการผลิตสินค้าที่แตกต่างกัน สำหรับแต่ละภูมิภาคลดลง และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแผนการผลิตสินค้าชั้นนำในระดับสากลอย่างแท้จริง
“ฟอร์ด โฟกัส รุ่นใหม่ จึงเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโลกอย่างแท้จริง โดยจะวางจำหน่ายในทุกประเทศทั่วโลก และมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก โดยใช้ชิ้นส่วนร่วมกันมากถึง 80%”
จากการปฏิรูปการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ทำให้ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ได้รับการพัฒนาและออกแบบจากทีมงานของฟอร์ดทั่วโลก โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ศูนย์การออกแบบและพัฒนารถขนาดเล็กและกลางของฟอร์ดในยุโรป ที่เขตเมอร์เคนิชใกล้กับเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี ขณะที่ระบบส่งกำลังได้รับการพัมนาจากศูนย์ปฏิบัติงานด้านเทคนิคของฟอร์ด เมืองดันตัน ประเทศอังกฤษ ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยียานยนต์ และระบบส่งกำลังจากศูนย์วิศวกรรมยานยนต์ของฟอร์ในเมืองเดียร์บอน รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา
ที่สำคัญรถยนต์รุ่นใหม่จำนวนถึง 10 รุ่น จะได้รับการผลิตขึ้นโดยใช้โครงสร้างตัวถังของรถยนต์ขนาดคอมแพ็กต์ใหม่เดียว แทนการผลิตในปัจจุบันที่ใช้ถึง 3 แพลตฟอร์มสำหรับการผลิตในแต่ละภูมิภาค โดยแพลตฟอร์ดังกล่าวจะเริ่มใช้ใน ฟอร์ด โฟกัส รุ่นใหม่ และฟอร์ด ซี-แมกซ์ ซึ่งได้เปิดตัวในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009 และจะเริ่มทำตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2010
ส่วนข้อมูลรายละเอียด โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ฟอร์ดได้นำมาใส่ไว้ในรถรุ่นต่างๆ จากนี้ไป โดยได้เริ่มต้นที่ “ฟอร์ด โฟกัส” นั้น “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” จะขอนำเสนอในคราวต่อไป...
แต่ทั้งหมดล้วนเป็นไปตามปรัชญาการทำงาน ภายใต้แนวคิด… “ONE FORD” ของประธานและซีอีโอฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ซึ่งจะเป็นลายแทงเส้นทาง “สู่ความเป็นหนึ่งของฟอร์ด” นับจากนี้ไป?!