หรู กะทัดรัด เกิดมาเพื่อกลุ่มลูกค้าหลักอย่างสาวๆ วัยทำงาน และแน่นอนมาเพื่อสยบความร้อนแรงในตลาดของมินิ’ นี่คือนิยามของ A1 ซิตี้คาร์รุ่นใหม่ล่าสุดของค่ายออดี้ ที่ถูกเผยโฉมออกมาให้เห็นกันอย่างเต็มตาแล้ว หลังจากเพียรพยายามปล่อยวีดีโอและข่าวการพัฒนาออกมาเป็นซีรีส์ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
โปรเจ็กต์นี้มีจุดเริ่มต้นในปี 2007 เมื่อออดี้นำต้นแบบ 3 ประตูที่ชื่อเมโทรโปรเจ็กต์ ควอตโตรออกมาเปิดตัว จากนั้นก็มีผลผลิตตามมาอย่างต่อเนื่องเริ่มจากต้นแบบเวอร์ชันที่ 2 ในงานไลป์ซิก มอเตอร์โชว์ ที่ประเทศเยอรมนีในเดือนเมษายน 2008 และปิดท้ายกับต้นแบบทรง 5 ประตูในชื่อ A1 Sportback ที่งานปารีส มอเตอร์โชว์ ปลายปีเดียวกัน
รถยนต์รุ่นนี้ถูกพัฒนาบนพื้นตัวถังรุ่น PQ25 ในกลุ่มเดียวกับโฟล์คสวาเกน โปโล และเซียท อิบิซ่า ดังนั้นการจะบอกว่าเป็นมินิคาร์เห็นทีจะไม่ถูกต้องเต็มร้อยนัก เพราะรถยนต์เหล่านั้นถือว่าเป็น B-Car หรือซับคอมแพ็กต์ที่มีขายอยู่ในยุโรป ขณะที่ตัวถังของ A1 เองก็อยู่ใกล้เคียงกับรถยนต์ในกลุ่มนี้ ด้วยตัวเลขความยาวในระดับ 3,950 มิลลิเมตร กว้าง 1,740 มิลลิเมตร สูง 1,420 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,470 มิลลิเมตร
ขณะที่ตัวถังมีขายในช่วงแรกเฉพาะ 3 ประตู ส่วน 5 ประตูจะมีตามมาหรือไม่นั้น ออดี้ยังไม่มีคำตอบให้ แต่ถ้าดูตามหน้าเสื่อ กระแสคำว่า Sportback ของออดี้กำลังมาแรง ไม่แน่อาจจะมีผลิตขายในชื่อ A1 Sportback เหมือนกับต้นแบบ หรือเผลอๆ อาจจะใช้สวมชื่อ A2 แทนไปเลยก็ได้ เพราะมินิแวนรุ่นนี้เลิกขายไปแล้วในปี 2005 หลังทำตลาดมาตั้งแต่ปี 1999 และเป็นรถยนต์ไซส์เล็กรุ่นแรกของออดี้ที่ใช้โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียม หรือ ASF
4 ทางเลือกของเครื่องยนต์มีให้สัมผัสในแบบแรงหรือประหยัดแต่ที่แน่ๆ พกเทอร์โบมาทุกเครื่องยนต์ เริ่มจากเบนซินในตระกูล TFSI 4 สูบ 1,200 ซีซีรุ่นใหม่มีกำลังสูงสุด 86 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 16.3 กก.-ม. ตามด้วย 1,400 ซีซี 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 20.4 กก.-ม. ส่วนเทอร์โบดีเซลมีแบบเดียว 1,600 ซีซีแต่ให้เลือก 2 ระดับกำลัง คือ 90 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 23.4 กก.-ม. และ 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม.
ในรุ่น 1,200 ซีซีจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 12.4 วินาที และความเร็วปลาย 179 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วน 1,400 ซีซี หรูขึ้นมาหน่อย คบกับเกียร์ Dual Clutch รุ่น S Tronic แบบ 7 จังหวะ หรือไม่ก็ธรรมดา 6 จังหวะมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 9.1 วินาที และ 9.2 วินาที (ตามลำดับ) และความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่ากัน
ส่วนเทอร์โบดีเซลใช้เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะเช่นกัน อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 12.2 และ 10.8 วินาที และความเร็วปลาย 179 และ 187 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ตามลำดับ)
ไลน์การผลิตของ A1 จะอยู่ที่ประเทศเบลเยี่ยม และที่น่าสนใจคือ ด้วยการที่ออดี้วางรถยนต์รุ่นนี้ให้เป็น Entry- Level สำหรับแบรนด์ตัวเอง ก็เลยตั้งราคากระชากใจพอสมควร มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 16,000 ยูโร หรือ 800,000 บาท ถูกกว่ารถยนต์ที่มีขนากตัวถังใหญ่กว่าอย่างโตโยต้า ออริสรุ่นเครื่องยนต์ต่ำสุด 1,330 ซีซีเพียง 400 ยูโร หรือ 20,000 บาทเท่านั้น
โปรเจ็กต์นี้มีจุดเริ่มต้นในปี 2007 เมื่อออดี้นำต้นแบบ 3 ประตูที่ชื่อเมโทรโปรเจ็กต์ ควอตโตรออกมาเปิดตัว จากนั้นก็มีผลผลิตตามมาอย่างต่อเนื่องเริ่มจากต้นแบบเวอร์ชันที่ 2 ในงานไลป์ซิก มอเตอร์โชว์ ที่ประเทศเยอรมนีในเดือนเมษายน 2008 และปิดท้ายกับต้นแบบทรง 5 ประตูในชื่อ A1 Sportback ที่งานปารีส มอเตอร์โชว์ ปลายปีเดียวกัน
รถยนต์รุ่นนี้ถูกพัฒนาบนพื้นตัวถังรุ่น PQ25 ในกลุ่มเดียวกับโฟล์คสวาเกน โปโล และเซียท อิบิซ่า ดังนั้นการจะบอกว่าเป็นมินิคาร์เห็นทีจะไม่ถูกต้องเต็มร้อยนัก เพราะรถยนต์เหล่านั้นถือว่าเป็น B-Car หรือซับคอมแพ็กต์ที่มีขายอยู่ในยุโรป ขณะที่ตัวถังของ A1 เองก็อยู่ใกล้เคียงกับรถยนต์ในกลุ่มนี้ ด้วยตัวเลขความยาวในระดับ 3,950 มิลลิเมตร กว้าง 1,740 มิลลิเมตร สูง 1,420 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,470 มิลลิเมตร
ขณะที่ตัวถังมีขายในช่วงแรกเฉพาะ 3 ประตู ส่วน 5 ประตูจะมีตามมาหรือไม่นั้น ออดี้ยังไม่มีคำตอบให้ แต่ถ้าดูตามหน้าเสื่อ กระแสคำว่า Sportback ของออดี้กำลังมาแรง ไม่แน่อาจจะมีผลิตขายในชื่อ A1 Sportback เหมือนกับต้นแบบ หรือเผลอๆ อาจจะใช้สวมชื่อ A2 แทนไปเลยก็ได้ เพราะมินิแวนรุ่นนี้เลิกขายไปแล้วในปี 2005 หลังทำตลาดมาตั้งแต่ปี 1999 และเป็นรถยนต์ไซส์เล็กรุ่นแรกของออดี้ที่ใช้โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียม หรือ ASF
4 ทางเลือกของเครื่องยนต์มีให้สัมผัสในแบบแรงหรือประหยัดแต่ที่แน่ๆ พกเทอร์โบมาทุกเครื่องยนต์ เริ่มจากเบนซินในตระกูล TFSI 4 สูบ 1,200 ซีซีรุ่นใหม่มีกำลังสูงสุด 86 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 16.3 กก.-ม. ตามด้วย 1,400 ซีซี 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 20.4 กก.-ม. ส่วนเทอร์โบดีเซลมีแบบเดียว 1,600 ซีซีแต่ให้เลือก 2 ระดับกำลัง คือ 90 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 23.4 กก.-ม. และ 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม.
ในรุ่น 1,200 ซีซีจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 12.4 วินาที และความเร็วปลาย 179 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วน 1,400 ซีซี หรูขึ้นมาหน่อย คบกับเกียร์ Dual Clutch รุ่น S Tronic แบบ 7 จังหวะ หรือไม่ก็ธรรมดา 6 จังหวะมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 9.1 วินาที และ 9.2 วินาที (ตามลำดับ) และความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่ากัน
ส่วนเทอร์โบดีเซลใช้เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะเช่นกัน อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 12.2 และ 10.8 วินาที และความเร็วปลาย 179 และ 187 กิโลเมตร/ชั่วโมง (ตามลำดับ)
ไลน์การผลิตของ A1 จะอยู่ที่ประเทศเบลเยี่ยม และที่น่าสนใจคือ ด้วยการที่ออดี้วางรถยนต์รุ่นนี้ให้เป็น Entry- Level สำหรับแบรนด์ตัวเอง ก็เลยตั้งราคากระชากใจพอสมควร มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 16,000 ยูโร หรือ 800,000 บาท ถูกกว่ารถยนต์ที่มีขนากตัวถังใหญ่กว่าอย่างโตโยต้า ออริสรุ่นเครื่องยนต์ต่ำสุด 1,330 ซีซีเพียง 400 ยูโร หรือ 20,000 บาทเท่านั้น
