ในที่สุดบ้านเราได้สาวสวยอีกคนมาประดับวงการขาอ่อน สาวสวยที่ว่าคือ อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ หรือ "น้องโจอี้" “นางสาวไทย ประจำปี 2552” ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ทอแสงงามแห่งจิตใจ" เวทีนี้มิเพียงเธอคว้ามงกฎนางสาวไทยมาครองเท่านั้น โจอี้ ยังได้ตำแหน่งเพิ่มอีก 4 ตำแหน่งพ่วงมาด้วย ไม่ว่าจะเป็น รางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน , Miss Healthy , นางงามบุคลิกภาพและMiss Princess ..ถึงบรรทัดนี้จึงไม่อาจปฏิเสธว่าความสวยของเธอชนะใจกรรมการชนิดขาดลอย
เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อเธอสามารถคว้าตำแหน่งมาครอบครองถึง 5 ตำแหน่ง ฉะนั้นรางวัลที่โจอี้ได้รับรวมแล้วกว่า 6 ล้านบาท และหนึ่งในรางวัลนั่นคือ “รถอีซูซุ มิว-เซเว่น” ซึ่งเธอเพิ่งจะไปถอยมาขับสด ๆ ร้อน ๆ และ...ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง ไม่พลาดกระทบไหล่คนสวยอยู่แล้ว
น้องโจอี้บอกกับเราอย่างตื่นเต้นว่าหลังจากรับตำแหน่งชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมาก เธอต้องพบปะกับคนจำนวนมากแต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่แปลก- ใหม่
ส่วนรถอีซูซุ มิว-เซเว่น นั้นเธอบอกว่า "เห็นครั้งแรกรู้สึกว่ารถคันใหญ่แต่พอได้ขับ ขับง่ายมาก ทัศนวิสัยดีมาก คิดว่าคุณพ่อ คุณแม่เห็นคงจะชอบ และเมื่อเข้าไปนั่ง นั่งสบายทั้งข้างหน้า-ข้างหลัง กว้างขวาง สามารถขับพาครอบครัวไปเที่ยวได้สบาย ถ้าต่อไปต้องใช้รถคันนี้คงจะดีเพราะมีพื้นที่ใส่ของแยะ แต่ที่โจอี้ชอบเป็นพิเศษตรงที่ว่าเราเป็นคนตัวสูง ขายาว พอมานั่งแล้วไม่เมื่อยเลย สบาย ”
เธอเล่าต่อว่าเริ่มขับรถมาตั้งแต่อายุ 15 ปี เพราะที่บ้านทำสวนส้มอยู่ จังหวัดสระบุรี เลยทำให้ต้องหัดขับรถไว้เพื่อจะช่วยคุณพ่อ คุณแม่ได้ แต่เมื่อถามถึงรถในฝันของสาวสวยระดับประเทศ หลายคนคิดว่าน่าจะเป็นรถหรูหรา แต่เธอกลับบอกว่ารถเป็นแค่สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างหนึ่งในชีวิตเท่านั้นควรจะเลือกรถที่เหมาะสมกับตัวเองมากกว่า
"ตอนนี้เป็นยุคของเศรษฐกิจพอเพียงค่ะ โจอี้คิดว่ารถยนต์ไม่ใช่สิ่งที่ฟุ่มเฟือยเสมอไป เราควรจะซื้อเพราะความจำเป็นและประโยชน์ใช้สอยมากกว่าอย่างอื่น อีกอย่างคือต้องดูที่ความเหมาะสมในเรื่องของราคาและความคุ้มค่าประกอบด้วย ส่วนตัวของโจอี้เองก็ไม่มีรถในฝันหรือรถที่อยากได้เพราะเท่าที่มีอยู่ 1 คัน ก็พอใช้แล้วสำหรับครอบครัว ส่วนอีกคันที่ได้จากการประกวดก็ถือว่าเป็นรถคันที่สองของบ้านและคงใช้ตามโอกาส"
ส่วนเรื่องการขับขี่รถระหว่างหญิงและชาย ซึ่งโจอี้เธอบอกว่า “ผู้ชายส่วนมากอาจคิดว่าผู้หญิงขับรถช้า ไม่มีความชำนาญ แต่ความเป็นจริงผู้หญิงมีความระมัดระวังในการขับรถมากกว่าแถมยังละเอียดอ่อนมากกว่าด้วย ขณะที่ผู้ชายจะเน้นความเร็วกันเป็นส่วนใหญ่ ประมาท ไม่ค่อยคำนึงถึงความปลอดภัยจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต”
"โจอี้อยากให้ทุกคนปฎิบัติตามกฎจราจรไม่ว่าจะหญิงหรือชาย โดยเฉพาะเมาไม่ขับและขับไม่โทรค่ะ อยากให้ทางรัฐบาลปรับปรุงเรื่องสัญญาณไฟจราจรให้มีอยู่ทุกแยก และปรับปรุงพื้นถนนให้ดีกว่านี้เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ"
ด้านหัวใจเธอบอกว่าตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องอื่นๆขอเว้นวรรคไปก่อน แต่เมื่อถามถึงสเปกหนุ่ม เธอบอกว่าต้อง
ขาว ตี๋ สูง นิสัยเข้ากันได้ อย่างเช่นนักร้องหนุ่ม “นิชคุณ” ที่เธอแอบกระซิบมาว่า "เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ มีความสามารถ ทั้งร้องเพลง-เต้น แถมยังไปโด่งดังถึงต่างประเทศ พูดได้หลายภาษา ที่สำคัญเวลายิ้มเขาดูจริงใจค่ะ"
อนาคตน้องโจอี้บอกว่าอยากทำงานในด้านที่เรียนมาคือการทำประโยชน์เพื่อสังคมด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นเด็ก สตรี คนชรา (ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 3 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ส่วนงานวงการบันเทิงถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองทำดู......
เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อเธอสามารถคว้าตำแหน่งมาครอบครองถึง 5 ตำแหน่ง ฉะนั้นรางวัลที่โจอี้ได้รับรวมแล้วกว่า 6 ล้านบาท และหนึ่งในรางวัลนั่นคือ “รถอีซูซุ มิว-เซเว่น” ซึ่งเธอเพิ่งจะไปถอยมาขับสด ๆ ร้อน ๆ และ...ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง ไม่พลาดกระทบไหล่คนสวยอยู่แล้ว
น้องโจอี้บอกกับเราอย่างตื่นเต้นว่าหลังจากรับตำแหน่งชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมาก เธอต้องพบปะกับคนจำนวนมากแต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่แปลก- ใหม่
ส่วนรถอีซูซุ มิว-เซเว่น นั้นเธอบอกว่า "เห็นครั้งแรกรู้สึกว่ารถคันใหญ่แต่พอได้ขับ ขับง่ายมาก ทัศนวิสัยดีมาก คิดว่าคุณพ่อ คุณแม่เห็นคงจะชอบ และเมื่อเข้าไปนั่ง นั่งสบายทั้งข้างหน้า-ข้างหลัง กว้างขวาง สามารถขับพาครอบครัวไปเที่ยวได้สบาย ถ้าต่อไปต้องใช้รถคันนี้คงจะดีเพราะมีพื้นที่ใส่ของแยะ แต่ที่โจอี้ชอบเป็นพิเศษตรงที่ว่าเราเป็นคนตัวสูง ขายาว พอมานั่งแล้วไม่เมื่อยเลย สบาย ”
เธอเล่าต่อว่าเริ่มขับรถมาตั้งแต่อายุ 15 ปี เพราะที่บ้านทำสวนส้มอยู่ จังหวัดสระบุรี เลยทำให้ต้องหัดขับรถไว้เพื่อจะช่วยคุณพ่อ คุณแม่ได้ แต่เมื่อถามถึงรถในฝันของสาวสวยระดับประเทศ หลายคนคิดว่าน่าจะเป็นรถหรูหรา แต่เธอกลับบอกว่ารถเป็นแค่สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างหนึ่งในชีวิตเท่านั้นควรจะเลือกรถที่เหมาะสมกับตัวเองมากกว่า
"ตอนนี้เป็นยุคของเศรษฐกิจพอเพียงค่ะ โจอี้คิดว่ารถยนต์ไม่ใช่สิ่งที่ฟุ่มเฟือยเสมอไป เราควรจะซื้อเพราะความจำเป็นและประโยชน์ใช้สอยมากกว่าอย่างอื่น อีกอย่างคือต้องดูที่ความเหมาะสมในเรื่องของราคาและความคุ้มค่าประกอบด้วย ส่วนตัวของโจอี้เองก็ไม่มีรถในฝันหรือรถที่อยากได้เพราะเท่าที่มีอยู่ 1 คัน ก็พอใช้แล้วสำหรับครอบครัว ส่วนอีกคันที่ได้จากการประกวดก็ถือว่าเป็นรถคันที่สองของบ้านและคงใช้ตามโอกาส"
ส่วนเรื่องการขับขี่รถระหว่างหญิงและชาย ซึ่งโจอี้เธอบอกว่า “ผู้ชายส่วนมากอาจคิดว่าผู้หญิงขับรถช้า ไม่มีความชำนาญ แต่ความเป็นจริงผู้หญิงมีความระมัดระวังในการขับรถมากกว่าแถมยังละเอียดอ่อนมากกว่าด้วย ขณะที่ผู้ชายจะเน้นความเร็วกันเป็นส่วนใหญ่ ประมาท ไม่ค่อยคำนึงถึงความปลอดภัยจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต”
"โจอี้อยากให้ทุกคนปฎิบัติตามกฎจราจรไม่ว่าจะหญิงหรือชาย โดยเฉพาะเมาไม่ขับและขับไม่โทรค่ะ อยากให้ทางรัฐบาลปรับปรุงเรื่องสัญญาณไฟจราจรให้มีอยู่ทุกแยก และปรับปรุงพื้นถนนให้ดีกว่านี้เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ"
ด้านหัวใจเธอบอกว่าตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องอื่นๆขอเว้นวรรคไปก่อน แต่เมื่อถามถึงสเปกหนุ่ม เธอบอกว่าต้อง
ขาว ตี๋ สูง นิสัยเข้ากันได้ อย่างเช่นนักร้องหนุ่ม “นิชคุณ” ที่เธอแอบกระซิบมาว่า "เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ มีความสามารถ ทั้งร้องเพลง-เต้น แถมยังไปโด่งดังถึงต่างประเทศ พูดได้หลายภาษา ที่สำคัญเวลายิ้มเขาดูจริงใจค่ะ"
อนาคตน้องโจอี้บอกว่าอยากทำงานในด้านที่เรียนมาคือการทำประโยชน์เพื่อสังคมด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นเด็ก สตรี คนชรา (ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 3 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ส่วนงานวงการบันเทิงถ้ามีโอกาสก็อยากจะลองทำดู......