เมื่อวิถีการดำเนินชีวิตเปลี่ยน อาหารการกินก็เปลี่ยนตามไปด้วย ซึ่งแน่นอนว่าอาหารที่ยั่วน้ำลายใครหลายๆ คนในปัจจุบันนี้นั้นคงไม่อาจยืนยันได้เลยว่าทุกอย่างจะให้ประโยชน์เท่ากัน อีกทั้งหากกินมากสิ่งที่ตามมาคือความอ้วนที่จะคอยสร้างความกังวลให้กับผู้คนทุกเพศ ทุกวัย
ทว่า ความอ้วนที่เกิดขึ้นนั้นตัวการสำคัญคงหนีไม่พ้นอาหารการกินที่เน้นไขมัน และแป้งเป็นหลัก ซึ่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายนั้น นพ.ต่อศักดิ์ โหระวงศ์ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล โชคชัย 4 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันภาวะของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับไขมัน เป็นภาวะที่ทางการแพทย์กลัวมาก เพราะมีอัตราภาวะแทรกซ้อนต่างๆ สูง
ที่น่ากลัวมากที่สุด คือ เรื่องของโรคหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเพราะไขมันไปเกาะตามเส้นเลือด ที่จะขึ้นไปเลี้ยงหัวใจ จึงทำให้หัวใจขาดเลือดส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ ยังรวมไปถึงการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดสมอง ทำให้เลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก
นพ.ต่อศักดิ์ ให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า หลายคนอาจเข้าใจว่าโรคเหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะแต่กับคนอ้วน แต่ความจริงนั้นคนผอมก็มีความเสี่ยงจากโอกาสที่ไขมันในเลือดจะสูงได้เช่นกัน โดยการที่ไขมันจะไปสะสมอยู่ตามหลอดเลือด เส้นเลือด แต่เนื่องจากบางคนมีระบบการเผาผลาญที่ดี ซึ่งมาจากการออกกำลังกาย บริหารร่างกายอยู่ตลอดเวลาทำให้รูปร่างดูไม่อ้วน แต่ถึงอย่างไรคนอ้วนก็ยังมีโอกาสเสี่ยงมากกว่าคนผอม ทั้งไขมันตามร่างกายก็เป็นตัวบ่งบอก เช่นไขมันตรงหน้าท้อง เป็นตัวบ่งชี้ว่าร่างกายมีไขมันสูง ต้องระมัดระวังไม่ให้อ้วนลงพุง ซึ่งอาจนำพาไปสู่ภาวะเสี่ยงต่างๆ ตามมา
“ช่วงวัยที่มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับไขมันนั้นจะเกิดขึ้นเมื่ออายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นการสะสมมาอย่างยาวนาน แต่ตอนนี้กลับพบอีกว่าในคนที่อายุยังน้อยในช่วงอายุ 30 ปีก็พบโรคนี้เช่นกัน เนื่องจากสิ่งแวดล้อม การบริโภคของคนในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ซึ่งในปัจจุบันผู้คนกินอาหารประเภทแป้ง เน้นอาหารมันๆ มากขึ้น และการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ก็ล้วนแล้วเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดไขมันในเลือดสูง ความดันโรหิตสูง เบาหวานทั้งสิ้น”
ในส่วนของปัจจัยเสี่ยงนั้น นพ.ต่อศักดิ์ แจกแจงว่า อาหารการกินเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุดเนื่องจากอาหารในปัจจุบันจะมีส่วนผสมของแป้ง และไขมันค่อนข้างสูง ยิ่งเป็นขนมขบเคี้ยวที่เด็กๆ ชอบกินด้วยแล้วจะยิ่งเป็นการเริ่มสะสมปริมาณของไขมันมากขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย และการที่ภาวะเร่งรีบในแต่ละวันของผู้คนทำให้ลืมนึกถึงการออกกำลังกาย บวกกับความเครียดจากการทำงาน พักผ่อนน้อย ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไป นี่จึงเป็นปัจจัยที่จะส่งผลให้ไขมันในเลือดสูงได้
“ต้องเริ่มควบคุมการกินตั้งแต่เด็ก ซึ่งผู้ปกครองควรเลือกสิ่งที่มีประโยชน์ให้ลูกๆ กิน ไม่แนะนำให้กินขนมขบเคี้ยว หรือของหวาน อาหารมันมากเกินไป เพราะไม่เช่นนั้นไขมันอาจจะสะสมเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน ไขมันในหลอดเลือดตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วต่อไปในอนาคตก็จะมีโรคแทรกซ้อน และโรคเรื้อรังหลายๆ โรคที่ตามมา ที่สำคัญคือเด็กสมัยนี้ไม่ชอบทำกิจกรรม ออกกำลังกาย แต่เลือกที่จะนั่งอยู่เฉยๆ เล่นเกมหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นเวลานานๆ ทำให้ร่างกายไม่มีโอกาสในการเผาผลาญไขมันต่อไปก็จะหนีความอ้วนไม่พ้น”
สุดท้าย นพ.ต่อศักดิ์ ยังฝากทิ้งท้ายไว้ว่า การป้องกันในเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นนั้นต้องอยู่ที่การควบคุมตัวเองเป็นสำคัญ ต้องมีการหักห้ามใจและเลือกที่จะกินอาหารในส่วนที่มีประโยชน์มากกว่ากินตามที่เห็นว่าน่ากินโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ที่ได้รับ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงบุหรี่ เหล้า ก็จะช่วยได้มาก
นอกจากนี้ ในส่วนของอาหารมื้อเย็นนั้นก็ควรลดปริมาณลงมาเล็กน้อยกินพออิ่ม เพราะอาหารมื้อเย็นเมื่อกินเข้าไปแล้วก็ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ เพราะอยู่ในช่วงที่ร่างกายกำลังพักผ่อน อาจทำให้เกิดไขมันสะสมได้ จึงควรให้ความสำคัญกับอาหารมื้อเช้า มื้อกลางวันที่อยู่ในช่วงที่ต้องใช้พลังงาน แต่ก็ใช่ว่าจะงดมื้อเย็นเสียทีเดียวเพียงแต่ลดปริมาณเท่านั้น และต้องออกกำลังกายควบคู่กันไป ทั้งนี้ ก็ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เกิด ซึ่งเมื่อพบว่าเสี่ยงต่อโรคก็จะได้หาวิธีการป้องกันได้ ซึ่งจะเป็นวิธีการลดปัจจัยเสี่ยงที่ดีที่สุด
ทว่า ความอ้วนที่เกิดขึ้นนั้นตัวการสำคัญคงหนีไม่พ้นอาหารการกินที่เน้นไขมัน และแป้งเป็นหลัก ซึ่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายนั้น นพ.ต่อศักดิ์ โหระวงศ์ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล โชคชัย 4 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันภาวะของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับไขมัน เป็นภาวะที่ทางการแพทย์กลัวมาก เพราะมีอัตราภาวะแทรกซ้อนต่างๆ สูง
ที่น่ากลัวมากที่สุด คือ เรื่องของโรคหัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเพราะไขมันไปเกาะตามเส้นเลือด ที่จะขึ้นไปเลี้ยงหัวใจ จึงทำให้หัวใจขาดเลือดส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ ยังรวมไปถึงการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือดสมอง ทำให้เลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก
นพ.ต่อศักดิ์ ให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า หลายคนอาจเข้าใจว่าโรคเหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะแต่กับคนอ้วน แต่ความจริงนั้นคนผอมก็มีความเสี่ยงจากโอกาสที่ไขมันในเลือดจะสูงได้เช่นกัน โดยการที่ไขมันจะไปสะสมอยู่ตามหลอดเลือด เส้นเลือด แต่เนื่องจากบางคนมีระบบการเผาผลาญที่ดี ซึ่งมาจากการออกกำลังกาย บริหารร่างกายอยู่ตลอดเวลาทำให้รูปร่างดูไม่อ้วน แต่ถึงอย่างไรคนอ้วนก็ยังมีโอกาสเสี่ยงมากกว่าคนผอม ทั้งไขมันตามร่างกายก็เป็นตัวบ่งบอก เช่นไขมันตรงหน้าท้อง เป็นตัวบ่งชี้ว่าร่างกายมีไขมันสูง ต้องระมัดระวังไม่ให้อ้วนลงพุง ซึ่งอาจนำพาไปสู่ภาวะเสี่ยงต่างๆ ตามมา
“ช่วงวัยที่มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับไขมันนั้นจะเกิดขึ้นเมื่ออายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นการสะสมมาอย่างยาวนาน แต่ตอนนี้กลับพบอีกว่าในคนที่อายุยังน้อยในช่วงอายุ 30 ปีก็พบโรคนี้เช่นกัน เนื่องจากสิ่งแวดล้อม การบริโภคของคนในปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ซึ่งในปัจจุบันผู้คนกินอาหารประเภทแป้ง เน้นอาหารมันๆ มากขึ้น และการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ก็ล้วนแล้วเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดไขมันในเลือดสูง ความดันโรหิตสูง เบาหวานทั้งสิ้น”
ในส่วนของปัจจัยเสี่ยงนั้น นพ.ต่อศักดิ์ แจกแจงว่า อาหารการกินเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สุดเนื่องจากอาหารในปัจจุบันจะมีส่วนผสมของแป้ง และไขมันค่อนข้างสูง ยิ่งเป็นขนมขบเคี้ยวที่เด็กๆ ชอบกินด้วยแล้วจะยิ่งเป็นการเริ่มสะสมปริมาณของไขมันมากขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย และการที่ภาวะเร่งรีบในแต่ละวันของผู้คนทำให้ลืมนึกถึงการออกกำลังกาย บวกกับความเครียดจากการทำงาน พักผ่อนน้อย ทำให้ร่างกายไม่ได้รับการเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไป นี่จึงเป็นปัจจัยที่จะส่งผลให้ไขมันในเลือดสูงได้
“ต้องเริ่มควบคุมการกินตั้งแต่เด็ก ซึ่งผู้ปกครองควรเลือกสิ่งที่มีประโยชน์ให้ลูกๆ กิน ไม่แนะนำให้กินขนมขบเคี้ยว หรือของหวาน อาหารมันมากเกินไป เพราะไม่เช่นนั้นไขมันอาจจะสะสมเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน ไขมันในหลอดเลือดตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วต่อไปในอนาคตก็จะมีโรคแทรกซ้อน และโรคเรื้อรังหลายๆ โรคที่ตามมา ที่สำคัญคือเด็กสมัยนี้ไม่ชอบทำกิจกรรม ออกกำลังกาย แต่เลือกที่จะนั่งอยู่เฉยๆ เล่นเกมหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นเวลานานๆ ทำให้ร่างกายไม่มีโอกาสในการเผาผลาญไขมันต่อไปก็จะหนีความอ้วนไม่พ้น”
สุดท้าย นพ.ต่อศักดิ์ ยังฝากทิ้งท้ายไว้ว่า การป้องกันในเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นนั้นต้องอยู่ที่การควบคุมตัวเองเป็นสำคัญ ต้องมีการหักห้ามใจและเลือกที่จะกินอาหารในส่วนที่มีประโยชน์มากกว่ากินตามที่เห็นว่าน่ากินโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ที่ได้รับ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงบุหรี่ เหล้า ก็จะช่วยได้มาก
นอกจากนี้ ในส่วนของอาหารมื้อเย็นนั้นก็ควรลดปริมาณลงมาเล็กน้อยกินพออิ่ม เพราะอาหารมื้อเย็นเมื่อกินเข้าไปแล้วก็ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ เพราะอยู่ในช่วงที่ร่างกายกำลังพักผ่อน อาจทำให้เกิดไขมันสะสมได้ จึงควรให้ความสำคัญกับอาหารมื้อเช้า มื้อกลางวันที่อยู่ในช่วงที่ต้องใช้พลังงาน แต่ก็ใช่ว่าจะงดมื้อเย็นเสียทีเดียวเพียงแต่ลดปริมาณเท่านั้น และต้องออกกำลังกายควบคู่กันไป ทั้งนี้ ก็ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เกิด ซึ่งเมื่อพบว่าเสี่ยงต่อโรคก็จะได้หาวิธีการป้องกันได้ ซึ่งจะเป็นวิธีการลดปัจจัยเสี่ยงที่ดีที่สุด