สวยสุดในสยาม “โจอี้” อรวิภา วางใจคุณแม่สะสมเงินออมและทองคำ

คอลัมน์ เจาะพอร์ตคนดัง

เงินทองเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมาก ต่ออนาคตในภายภาคหน้า ดังนั้นการออมเงินจึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ และยังช่วยปลูกฝังค่านิยมในการออมให้เป็นนิสัยที่จะทำให้เรามีวินัยด้วย นอกจากนี้แล้วในช่วงสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้แล้ว การประหยัดและใช้จ่ายอย่างมีคุณค่าจะทำให้เรามีเงินเก็บมากยิ่งขึ้นด้วย

เช่นเดียว “โจอี้ - อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์” นางสาวไทยคนล่าสุดประจำปี 2552 นอกจากจะสวยอย่างมีคุณค่าแล้ว เธอยังมีวินัยในเรื่องของการออมเงินด้วย และรู้จักคุณค่าของการใช้จ่ายเงินให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

โดยโจอี้ บอกว่า ในช่วงสภาพวะเศรษฐกิจเช่นนี้อยากให้นักลงทุนมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น เพราะความผันผวนยังมีอยู่มาก อีกทั้งถ้านักลงทุนรายใดอยากที่จะลงทุนก็อยากให้เน้นการลงทุนในประเทศมากกว่าที่จะออกไปนอกประเทศ เพราะจะได้เป็นการช่วยกระตุ้นภาคเศรษฐกิจในประเทศให้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้แล้วสิ่งของอะไรที่มีประโยชน์หรือยังสามารถใช้ได้อยู่ก็อยากจะให้นำกลับมาใช้ใหม่ หรือนำมาดัดแปลงให้เกิดประโยชน์ ก็จะทำให้เราประหยัดได้อีกเช่นกัน หรืออาจจะอุดหนุนสินค้าไทยเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมา ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ยังขาดความเป็นชาตินิยม ไม่เหมือนอย่างประเทศเกาหลีที่เขาจะรักในชาติเผยแพร่ความเป็นชาตินิยมของเขาได้เป็นอย่างดี ซึ่งโจอี้ก็อยากให้ประเทศไทยเป็นแบบนี้เช่นกัน

โจอี้ ได้บอกต่ออีกว่า ช่วงปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ค่อยดี เพราะจะเห็นได้จากที่โจอี้ขายของอยู่ที่จตุจักร ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าที่เราขายจะสามารถขายได้แต่มันก็ได้ไม่เต็มที่ ไม่ได้กำไรมากมายนัก แต่ก็สามารถอยู่ได้ แต่ก็ยังขาดสภาพคล่องไม่ค่อยคึกคักเหมือนที่ผ่านมา

“โจอี้เคยขายของอยู่ที่สวนจตุจักร เป็นธุรกิจแบรนด์ “Charmsmonic” (ชาร์มโมนิค) ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะมีทั้งคนไทยและต่างชาติเข้ามาซื้อ ก็สนุกดี ขายได้ แต่ก่อนหน้านี้ที่จะมาขายของพี่ ๆ ที่เคยขายมาก่อนจะบอกว่า จะได้กำไรมากกว่านี้ แต่ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีก็พออยู่ได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้วเนื่องจากว่าเข้ามาประกวดนางสาวไทย และได้รับตำแหน่งก็เลยปิดกิจการไป”

โจอี้ บอกว่าต่ออีกว่า สำหรับเงินรางวัลที่ได้จากการประกวดครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะให้คุณแม่เป็นคนเก็บให้ จะเป็นในรูปแบบของการฝากออมทรัพย์ และซื้อทองคำเก็บสะสมเอาไว้ เพราะมองว่าการซื้อทองคำเก็บไว้ก็เป็นการออมในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ในวันข้างหน้าราคาของทองคำจะเพิ่มจำนวนขึ้น มันก็เป็นการเก็งกำไรได้ นอกจากนี้แล้วก็มีการทำประกันชีวิตไว้ด้วยในรูปแบบของการออมเงิน

“เงินรางวัลได้ก็เยอะพอสมควรเพราะได้มาหลายตำแหน่งนอกจากตำแหน่งนางสาวไทยแล้วยังได้ตำแหน่ง ขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน นางงามบุคลิกภาพ มิสเฮลตี้ และมิสปริ้นเซส อีกด้วย โดยเงินรางวัลดังกล่าวจะให้คุณแม่เก็บไว้ให้และคุณแม่จะแบ่งให้โจอี้ใช้เป็นเดือน ตกเดือนละ 10,000 บาท แต่ใน 10,000 บาทนี้ โจอี้จะแบ่งออกมา 2,000 บาท เพื่อเอาไปฝากประจำไว้อีกทีหนึ่ง และใช้จ่ายเพียงแค่ 8,000 บาทเท่านั้น”

โจอี้ บอกว่า การออมเงินทำให้เราสามารถนึกถึงอนาคตของเราได้ เพราะถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเกิดมีโรคภัยเข้ามามันจะทำให้ชีวิตเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และไม่ต้องเป็นภาระกับลูกหลานต่อไปในอนาคตด้วย นอกจากนี้แล้วมันจะเป็นการสร้างวินัยให้กับเราด้วย

ปัจจุบันโจอี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะสังคมสงเคระห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาเหตุที่เลือกคณะนี้เพราะว่า อยากที่จะช่วยเหลือสังคมไทยให้มากขึ้น ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม เพราะขณะนี้เรียนอยู่ก็ได้เข้าไปช่วยสังคมบ้าง ซึ่งก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี

“การประกวดนางสาวไทย ถือเป็นประสบการณ์อันทรงเกียรติ และจากการที่โจอี้เลือกเรียนคณะสังคมสงเคระห์ ก็เพราะเป็นความตั้งใจส่วนตัวที่อยากจะช่วยเหลือสังคม ซึ่งเมื่อได้เป็นส่วนหนึ่งของ การประกวดนี้ ยิ่งทำให้เราสามารถช่วยเหลือสังคมได้อย่างเป็นประโยชน์มากขึ้น สำหรับตำแหน่งนางสาวไทย ก็ยังคงเป็นความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตอีกด้วย”

///////////////////////////////////////////////////////////////////////
ชื่อ – นามสกุล อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ (โจอี้)
วันเดือนปีเกิด 26 กรกฎาคม 2532
การศึกษา ชั้นปีที่ 3 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลงานปัจจุบัน นางสาวไทยประจำปี 2552