ในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2009 ปลายเดือตุลาคมที่ผ่านมา มีรถยนต์ต้นแบบรุ่นหนึ่งที่ได้รับความสนใจในแง่ของงานดีไซน์ซึ่งสร้างความลงตัวในงานออกแบบ นั่นคือ ไดฮัทสุ บาสเก็ต ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบทั้งในเรื่องการรับลายลมในแบบเปิดประทุน และความอเนกประสงค์ในการบรรทุกสัมภาระด้วยเบาะนั่งด้านหลังซึ่งสามารถพับเก็บได้
ดูจากชื่อรุ่นก็น่าจะพอเข้าใจถึงไอเดียในการออกแบบ เพราะเมื่อดูจากรูปทรงโดยรวมจากทางด้านข้างแล้วต้นแบบรุ่นนี้มีลักษณะคล้ายกับตะกร้าสานที่มีหูหิ้วอยู่ตรงกลาง ซึ่งหลังคาตรงส่วนของผู้ขับและผู้โดยสารเป็นแบบที-บาร์เหมือนกับรถสปอร์ต ซึ่งสามารถเลือกเปิดฝั่งซ้ายหรือขวาก็ได้ ส่วนด้านท้ายเปิดประทุนโล่ง
ขณะที่เสากลางหรือ B-Pillar จะยาวสูงโค้งเป็นโครงดูเหมือนกับมือจับของตะกร้า และแนวคิดการออกแบบนี้คล้ายกับโฟล์คสวาเกน กอล์ฟ เปิดประทุนรุ่นแรกๆ ซึ่งจะช่วยทำหน้าที่เป็นคานนิรภัยป้องกันการกระแทกเวลาที่รถพลิกคว่ำ หรือ Roll-Over ไปในตัวได้ด้วย
ตัวรถอยู่ในไซส์ของเค-คาร์ มีความยาว 3,395 มิลลิเมตร กว้าง 1,475 มิลลิเมตร สูง 1,550 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,490 มิลลิเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ 660 ซีซี ทวินแคม 12 วาล์ว
ประเด็นหลักของตัวรถอยู่ที่ความอเนกประสงค์ของการออกแบบ เพราะสามารถดัดแปลงได้อย่างหลากหลายรูปแบบ คือ เปิดประทุนแบบ 4 ที่นั่งเหมือนกับรถยนต์เปิดประทุนทั่วไป หรือจะปิดประทุนก็มีชุดหลังคาผ้าใบแบบเป็นโครงนำมาสวมได้ หากต้องการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยก็สามารถพับเบาะนั่งหลังลงทั้งหมดก็จะได้พื้นที่บรรทุกเพิ่มขึ้น
หรือถ้าต้องการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดยาว เช่น พรม ก็สามารถพับเบาะนั่งหน้าลงได้ และเช่นเดียวกัน ถ้าอยากแปลงร่างเป็นปิกอัพแบบ 2 ที่นั่งก็สามารถทำได้ เพราะมีระบบกั้นแบ่งตรงกลางห้องโดยสารเตรียมเอาไว้ด้วย ซึ่งจะมีตัวถังพร้อมกระจกบังลมหลังโผล่ขึ้นมาจากทางด้านหลังของเบาะนั่งด้านหน้า
สำหรับวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งห้องโดยสารเน้นความเป็นธรรมชาติ ด้วยผ้าที่มีเส้นใยหยาบเหมือนกับกระสอบ ดูลงตัวและแปลกตาไปอีกแบบ
นับเป็นอีกไอเดียของการออกแบบที่น่าสนใจ และถ้าผลิตออกมาขายคงได้รับความนิยมอย่างแน่นอน
ดูจากชื่อรุ่นก็น่าจะพอเข้าใจถึงไอเดียในการออกแบบ เพราะเมื่อดูจากรูปทรงโดยรวมจากทางด้านข้างแล้วต้นแบบรุ่นนี้มีลักษณะคล้ายกับตะกร้าสานที่มีหูหิ้วอยู่ตรงกลาง ซึ่งหลังคาตรงส่วนของผู้ขับและผู้โดยสารเป็นแบบที-บาร์เหมือนกับรถสปอร์ต ซึ่งสามารถเลือกเปิดฝั่งซ้ายหรือขวาก็ได้ ส่วนด้านท้ายเปิดประทุนโล่ง
ขณะที่เสากลางหรือ B-Pillar จะยาวสูงโค้งเป็นโครงดูเหมือนกับมือจับของตะกร้า และแนวคิดการออกแบบนี้คล้ายกับโฟล์คสวาเกน กอล์ฟ เปิดประทุนรุ่นแรกๆ ซึ่งจะช่วยทำหน้าที่เป็นคานนิรภัยป้องกันการกระแทกเวลาที่รถพลิกคว่ำ หรือ Roll-Over ไปในตัวได้ด้วย
ตัวรถอยู่ในไซส์ของเค-คาร์ มีความยาว 3,395 มิลลิเมตร กว้าง 1,475 มิลลิเมตร สูง 1,550 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,490 มิลลิเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ 660 ซีซี ทวินแคม 12 วาล์ว
ประเด็นหลักของตัวรถอยู่ที่ความอเนกประสงค์ของการออกแบบ เพราะสามารถดัดแปลงได้อย่างหลากหลายรูปแบบ คือ เปิดประทุนแบบ 4 ที่นั่งเหมือนกับรถยนต์เปิดประทุนทั่วไป หรือจะปิดประทุนก็มีชุดหลังคาผ้าใบแบบเป็นโครงนำมาสวมได้ หากต้องการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยก็สามารถพับเบาะนั่งหลังลงทั้งหมดก็จะได้พื้นที่บรรทุกเพิ่มขึ้น
หรือถ้าต้องการบรรทุกสัมภาระที่มีขนาดยาว เช่น พรม ก็สามารถพับเบาะนั่งหน้าลงได้ และเช่นเดียวกัน ถ้าอยากแปลงร่างเป็นปิกอัพแบบ 2 ที่นั่งก็สามารถทำได้ เพราะมีระบบกั้นแบ่งตรงกลางห้องโดยสารเตรียมเอาไว้ด้วย ซึ่งจะมีตัวถังพร้อมกระจกบังลมหลังโผล่ขึ้นมาจากทางด้านหลังของเบาะนั่งด้านหน้า
สำหรับวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งห้องโดยสารเน้นความเป็นธรรมชาติ ด้วยผ้าที่มีเส้นใยหยาบเหมือนกับกระสอบ ดูลงตัวและแปลกตาไปอีกแบบ
นับเป็นอีกไอเดียของการออกแบบที่น่าสนใจ และถ้าผลิตออกมาขายคงได้รับความนิยมอย่างแน่นอน
