หลังจากที่ "ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง" ได้นำเสนอเกี่ยวกับการประกวดการออกแบบรถยนต์ต้นแบบในชื่อ Design Challenge ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในงานแอลเอ มอเตอร์โชว์ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น ในตอนนี้มีการประกาศรายชื่อผู้ที่ชนะรางวัลในปีนี้ออกมาแล้ว และทีมออกแบบของนิสสันสามารถคว้ารางวัลนี้เป็นครั้งแรกของตัวเองได้สำเร็จ
การประกวดในปีนี้มีขึ้นภายใต้หัวข้อ YouthMobile 2030 หรือรถยนต์สำหรับวัยรุ่นในปี 2030 ซึ่งนิสสันนำเสนอไอเดียผ่านทางการออกแบบต้นแบบที่เรียกว่า V2G ซึ่งให้นิยามจากผู้ออกแบบว่าเป็น ‘Eco-Neutral Commuter Car’ หรือรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่มีขนาดกะทัดรัด และชื่อรุ่นก็ย่อมาจากคำว่า Vehicle to Grid
นิสสันบรรยายถึงแนวคิดของตัวเองว่า รถสปอร์ตคันสวยสำหรับปี 2030 ของนิสสันที่เกิดขึ้นภายใต้บริบทตามไอเดียของทีมออกแบบที่ว่า ในปี 2030 ระบบไฟฟ้าจะถูกนำมาใช้กับถนนหลวงทุกสายในสหรัฐอเมริกา และนำไปสู่เครือข่ายเน็ตเวิร์คความเร็วสูง และเพียบพร้อมด้วยประสิทธิภาพที่เรียกกันว่า GRID
ด้วยเหตุนี้ชื่อ V2G ก็เป็นคำย่อมาจากเรื่องนี้ คือ Vehicle-to-Grid ภายใต้รูปแบบของรถสปอร์ตพลังไฟฟ้า ที่มีราคาซึ่งไม่แพงและช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึง ‘GRID’ ของคนทุกระดับ ซึ่งแนวคิดนี้นิสสันบอกว่าประยุกต์มาจากกลยุทธ์ของกลุ่มโทรศัพท์มือถือ ซึ่งพยายามทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวก และมีราคาไม่แพง
ตัวรถรุ่นนี้ได้รับการออกแบบจากไอเดียของบรรดานักออกแบบรุ่นหนุ่มเพื่อสะท้อนถึงความต้องการของวัยรุ่นชาวแอลเออย่างแท้จริง และยังเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับความต้องการของคนในยุคหน้าอย่างลงตัว
‘เหตุผลที่ V2G ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะในปีนี้คือ งานออกแบบของพวกเขาสามารถตอบโจทย์ที่ทางคณะกรรมการตั้งขึ้นมาอย่างชัดเจนและตรงจุดที่สุด’ คณะกรรมการจัดการแข่งขันในครั้งนี้กล่าว
ผลงานการาออกแบบเป็นฝีมือของ Stephen Moneypenny, Ryan Campbell, Satoru Hasegawa, Hanu Yoo และRandy Rodroguez ซึ่งเป็นนักออกแบบรุ่นใหม่ของนิสสันที่ประจำอยู่ในศูนย์ออกแบบในเมืองแอลเอ และผลงานของนิสสันเป็น 1 ใน 6 ผลงานจากทีมออกแบบของบริษัทรถยนต์ที่ส่งเข้าประกวด ซึ่งประกอบไปด้วย ออดี้, จีเอ็ม, มาสด้า, โตโยต้า, ฮอนด้า และนิสสัน
การประกวดในครั้งนี้มีขึ้นเป็นประจำทุกปีนับจากปี 2005 เป็นต้นมา โดยผู้ที่คว้ารางวัลเป็นครั้งแรกคือ ทีมออกแบบของดอดจ์และโฟล์คสวาเกน ส่วนในปี 2006 เกิดการเปลี่ยนแปลงในการจัดงาน ซึ่งจากเดิมแอลเอ มอเตอร์โชว์จะมีขึ้นทุกต้นเดือนมกราคม แต่ในปีนี้นอกจากจะจัดต้นเดือนแล้ว ยังมีการจัดในช่วงปลายปีอีกด้วย เพราะทางผู้จัดต้องการจะเปลี่ยนมาจัดในช่วงทุกต้นเดือนธันวาคมแทน ก็เลยทำให้ในปี 2006 มีการจัดงานแอลเอ 2 ครั้ง และจีเอ็มก็คว้า 2 รางวัลในปีนี้มาครอง ก่อนที่ในปี 2007 จะตกเป็นของโฟล์คสวาเกน และมาสด้าเป็นผู้ชนะเลิศในปี 2008
การประกวดในปีนี้มีขึ้นภายใต้หัวข้อ YouthMobile 2030 หรือรถยนต์สำหรับวัยรุ่นในปี 2030 ซึ่งนิสสันนำเสนอไอเดียผ่านทางการออกแบบต้นแบบที่เรียกว่า V2G ซึ่งให้นิยามจากผู้ออกแบบว่าเป็น ‘Eco-Neutral Commuter Car’ หรือรถยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่มีขนาดกะทัดรัด และชื่อรุ่นก็ย่อมาจากคำว่า Vehicle to Grid
นิสสันบรรยายถึงแนวคิดของตัวเองว่า รถสปอร์ตคันสวยสำหรับปี 2030 ของนิสสันที่เกิดขึ้นภายใต้บริบทตามไอเดียของทีมออกแบบที่ว่า ในปี 2030 ระบบไฟฟ้าจะถูกนำมาใช้กับถนนหลวงทุกสายในสหรัฐอเมริกา และนำไปสู่เครือข่ายเน็ตเวิร์คความเร็วสูง และเพียบพร้อมด้วยประสิทธิภาพที่เรียกกันว่า GRID
ด้วยเหตุนี้ชื่อ V2G ก็เป็นคำย่อมาจากเรื่องนี้ คือ Vehicle-to-Grid ภายใต้รูปแบบของรถสปอร์ตพลังไฟฟ้า ที่มีราคาซึ่งไม่แพงและช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึง ‘GRID’ ของคนทุกระดับ ซึ่งแนวคิดนี้นิสสันบอกว่าประยุกต์มาจากกลยุทธ์ของกลุ่มโทรศัพท์มือถือ ซึ่งพยายามทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวก และมีราคาไม่แพง
ตัวรถรุ่นนี้ได้รับการออกแบบจากไอเดียของบรรดานักออกแบบรุ่นหนุ่มเพื่อสะท้อนถึงความต้องการของวัยรุ่นชาวแอลเออย่างแท้จริง และยังเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับความต้องการของคนในยุคหน้าอย่างลงตัว
‘เหตุผลที่ V2G ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะในปีนี้คือ งานออกแบบของพวกเขาสามารถตอบโจทย์ที่ทางคณะกรรมการตั้งขึ้นมาอย่างชัดเจนและตรงจุดที่สุด’ คณะกรรมการจัดการแข่งขันในครั้งนี้กล่าว
ผลงานการาออกแบบเป็นฝีมือของ Stephen Moneypenny, Ryan Campbell, Satoru Hasegawa, Hanu Yoo และRandy Rodroguez ซึ่งเป็นนักออกแบบรุ่นใหม่ของนิสสันที่ประจำอยู่ในศูนย์ออกแบบในเมืองแอลเอ และผลงานของนิสสันเป็น 1 ใน 6 ผลงานจากทีมออกแบบของบริษัทรถยนต์ที่ส่งเข้าประกวด ซึ่งประกอบไปด้วย ออดี้, จีเอ็ม, มาสด้า, โตโยต้า, ฮอนด้า และนิสสัน
การประกวดในครั้งนี้มีขึ้นเป็นประจำทุกปีนับจากปี 2005 เป็นต้นมา โดยผู้ที่คว้ารางวัลเป็นครั้งแรกคือ ทีมออกแบบของดอดจ์และโฟล์คสวาเกน ส่วนในปี 2006 เกิดการเปลี่ยนแปลงในการจัดงาน ซึ่งจากเดิมแอลเอ มอเตอร์โชว์จะมีขึ้นทุกต้นเดือนมกราคม แต่ในปีนี้นอกจากจะจัดต้นเดือนแล้ว ยังมีการจัดในช่วงปลายปีอีกด้วย เพราะทางผู้จัดต้องการจะเปลี่ยนมาจัดในช่วงทุกต้นเดือนธันวาคมแทน ก็เลยทำให้ในปี 2006 มีการจัดงานแอลเอ 2 ครั้ง และจีเอ็มก็คว้า 2 รางวัลในปีนี้มาครอง ก่อนที่ในปี 2007 จะตกเป็นของโฟล์คสวาเกน และมาสด้าเป็นผู้ชนะเลิศในปี 2008