ถ้ายังจำกันได้ ในปี 2007 รถยนต์ต้นแบบที่ชื่อ UP! ของโฟล์คสวาเกนโด่งดังเอาเรื่อง เพราะต้นแบบรุ่นนี้ถูกกล่าวขวัญว่าผลผลิตของการปัดฝุ่นแนวคิดรถยนต์เพื่อประชาชนอย่างโฟล์คเต่าให้กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง แต่ผ่านมาถึง 2 ปี โปรเจ็กต์ UP! กับการขึ้นไลน์ผลิตจริงก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ออกมาให้ติดตาม จนกระทั่งในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ นอกจากจะมีการแย้มถึงการขึ้นไลน์ผลิตจริงแล้ว โฟล์คสวาเกนยังนำเสนอแนวทางใหม่ของการขับเคลื่อน พร้อมกับพื้นฐานใหม่ของตัวรถ ด้วยการจับเอารุ่น UP! ธรรมดามาแปลงร่างให้เป็น E-UP! ซึ่งตัว E ที่อยู่ข้างหน้าไม่ต้องอธิบายกันให้มากความ ก็พอทราบได้ลางๆ แล้วว่า มันคือรถยนต์พลังไฟฟ้า...ยานยนต์แห่งความหวังในการขับเคลื่อนสำหรับคนยุคหน้า
UP! เป็นรถยนต์ต้นแบบที่ได้รับการออกแบบเป็นฝีมือของวอลเตอร์ เดอ ซิลว่า หัวหน้าทีมออกแบบของโฟล์คสวาเกน กรุ๊ป และเคลาส์ บิสคอฟฟ์ หัวหน้าทีมออกแบบของแบรนด์โฟล์คสวาเกน และเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ UP! ถูกคาดหมายว่าจะเป็นโปรเจ็กต์ในลักษณะเดียวกับโฟล์คเต่าคือ รูปแบบเลย์เอาท์ของตัวรถที่มาในแบบเครื่องยนต์วางด้านท้ายและขับเคลื่อนล้อหลัง
แถมต้นแบบ 2 รุ่นแรกยังใช้เครื่องยนต์บ็อกเซอร์แบบสูบนอนเหมือนกันอีกต่างหาก โดยเวอร์ชันแรกที่เปิดตัวปี 2007 นั้น UP! ถูกผลิตออกมาถึง 3 เวอร์ชัน คือ แฮทช์แบ็ก 3 ประตูที่มีความยาว 3.45 เมตร (แฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์) ตามด้วย 5 ประตูในชื่อ Space UP! ที่ตัวถังถูกขยายความยาวเป็น 3.68 เมตร (โตเกียว มอเตอร์โชว์) และ Space UP! Blue กับตัวถังทรงแวนพร้อมหลังคาที่วางแผงโซลาร์เซลล์เอาไว้ (แอลเอ มอเตอร์โชว์)
สำหรับ E-UP! ใช้ตัวถังของรุ่น 3 ประตูมาเป็นแม่แบบการพัฒนา และออกแบบรายละเอียดภายในห้องโดยสารรูปแบบ 3+1 ซึ่งเบาะหลังสามารถเลือกพับได้อย่างอเนกประสงค์ว่าจะรองรับผู้ขับและผู้โดยสารรวม 4 ที่นั่ง หรือว่าพับเบาะนั่งลง 1 ตัวเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับบรรทุกสัมภาระ และที่สำคัญตัวรถถูกลดความยาวจากรุ่นเดิมซึ่งอยู่ที่ 3.45 เมตรลงมาอยู่ที่ 3.19 เมตรเท่านั้น และแน่นอนว่า โฟล์คสวาเกนยืนยันว่านี่ไม่ใช่ผลงานย้อนยุค แต่เป็นรถยนต์ขนาดเล็กสำหรับครอบครัวรุ่นใหม่ หรือ New Small Family
นอกจากนั้นแนวทางในการพัฒนาตัวรถยังแตกต่างจากแนวคิดดั้งเดิมของต้นแบบรุ่นแรก เพราะว่าโฟล์คสวาเกนตั้งใจให้ E-UP! เป็นรถยนต์ขนาดเล็กรุ่นใหม่ราคาประหยัดเพื่อหวังแทนที่รุ่นลูโป (Lupo) ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นเล็กสุดที่โฟล์คสวาเกนมีขายอยู่ในตลาดตอนนี้ แถมยังปรับเลย์เอาท์ของตัวรถจากเดิมเป็นแบบเครื่องวนต์วางท้ายขับเคลื่อนล้อหลัง มาเป็นแบบเครื่องยนต์วางด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
มอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อนล้อหน้ามีการผลิตกำลังสูงสุดที่ 60 กิโลวัตต์ และถ้าเป็นกำลังที่ถูกส่งออกมาแบบคงที่และต่อเนื่องจะมีตัวเลขสูงสุดที่ 40 กิโลวัตต์ ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ในระดับ 21.4 กก.-ม. พร้อมเกียร์แบบจังหวะเดียว ซึ่งสามารถเลือกตำแหน่งเกียร์ด้วยการบิดปุ่มหมุนจากตำแหน่งเกียร์ว่างว่าจะ ‘เดินหน้า’ หรือ ‘ถอยหลัง’ พร้อมระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบกึ่งอิสระ
ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 1,085 กิโลกรัม สมรรถนะเรื่องการออกตัวช่วง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงอยู่ในระดับที่ดีพอสมควร ใช้เวลา 11.3 วินาที และ 3.5 วินาทีสำหรับอัตราเร่ง 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง และทำความเร็วสูงสุด 135 กิโลเมตร/ชั่วโมง
สำหรับแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไออนมีน้ำหนัก 240 กิโลกรัมและวางอยู่ด้านใต้ของตัวรถโดยมีการปกป้องรอบด้านจากการชน หรือ อยู่ใน Crash-protectedTray มีกำลังขนาด 18 kWh และเมื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าจนเต็มสามารถแล่นทำระยะทางได้ 130 กิโลเมตร
ตัวรถมีโหมด Quick Charge ซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยไฟขนาด 230 โวลต์จนขยับขึ้นมาอยู่ในระดับ 80% หรือแล่นทำระยะทางได้ประมาณ 104 กิโลเมตร แต่ถ้าอยากชาร์จจนเต็มก็ใช้เวลา 5 ชั่วโมง และจากการคำนวณของทีมวิศวกรของโฟล์คสวาเกน E-UP! มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพียง 2 ยูโร หรือ 100 บาทต่อ 100 กิโลเมตร หรือกิโลเมตรละ 1 บาท
ข่าวดีสำหรับแฟนโฟล์คสวาเกนคือ UP! กำลังจะผลิตขายแน่นอน โดยการเปิดตัวรุ่นจำหน่ายจริงจะมีขึ้นในปี 2011 ส่วนรายละเอียดทางเทคนิคโดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ทำตลาดยังไม่มีการเปิดเผย ซึ่งการเปิดตัวของ UP! จะถูกเป็นการลุยตลาดไมโครคาร์ในยุโรปเพื่อปะทะกับโตโยต้า iQ ส่วนรุ่นพลังไฟฟ้ามีขายแน่นอนเช่นกัน แต่จะต้องรอไปอีกสักระยะ เพราะการเริ่มทำตลาดจะมีขึ้นในปี 2013 โน่น