xs
xsm
sm
md
lg

ฮอนด้า...The Power of Green

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัญหาเรื่องโลกร้อนและวิกฤตด้านพลังงานที่คนทั่วโลกจะต้องเผชิญหน้า คือ สิ่งที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ โดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์ แน่นอนว่าทางฮอนด้า มอเตอร์ภายใต้ประธานใหม่อย่าง Takanobu Ito ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ย้ำชัดถึงแนวทางและแนวนโยบายในการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของฮอนด้า ซึ่งนอกจากจะต้องสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแล้ว ที่ขาดไม่ได้คือ การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีความทันสมัย

ตรงนี้สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนบนพื้นที่ของฮอนด้าในงาน “โตเกียว มอเตอร์โชว์ 2009” ครั้งที่ 41 โดยผลผลิตที่นำขึ้นแท่นโชว์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนใหญ่ คือ ส่วนของ “ไฮบริด” ซึ่งฮอนด้าถือเป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตรถยนต์ที่ให้ความสนใจเทคโนโลยีตั้งแต่ยุคแรกด้วยการผลิตรุ่นอินไซท์ออกมาในปี 1999 หรือตามหลังการเปิดตัวของโตโยต้า พริอุสซึ่งถือว่าเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกที่มีการผลิตขายในเชิงพาณิชย์เพียง 2 ปีเท่านั้น
ตอนนี้ยังเป็นต้นแบบ แต่ก็ใกล้เคียงการผลิตขายจริงแล้ว โดยฮอนด้าเผยว่า CR-Z จะขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องยนต์ 1,500 ซีซีและส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
นอกจากซีวิค ไฮบริดและอินไซท์ใหม่แล้ว ฮอนด้ายังเตรียมเสนอทางเลือกใหม่ด้วยรถสปอร์ตรุ่น CR-Z พร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด 1,500 ซีซีกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะในการช่วยเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ และสปอร์ตรุ่นนี้เตรียมขายเดือนกุมภาพันธ์ 2010 ก่อนที่จะมีฟิต/แจ๊ซ ไฮบริดตามออกมาช่วงปลายปีเดียวกัน และอีกโปรเจ็กต์ปริศนาที่ฮอนด้ายังไม่เปิดเผย แต่บอกว่าจะเป็นซีดานไฮบริดระดับพรีเมียม ซึ่งเปิดตัวหลังฟิต/แจ๊ซ ไฮบริด

ตามด้วยรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง หรือ Fuel Cell อย่าง FCX Clarity ซึ่งฮอนด้าเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวที่สนใจในการพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงซึ่งใช้ไฮโดรเจนในการสร้างกระแสไฟฟ้าเพื่อส่งให้มอเตอร์ไฟฟ้าใช้ขับเคลื่อนอย่างจริงจัง ขณะที่คู่ปรับอย่างโตโยต้านับจากรุ่น FCHV ที่เปิดตัวในปี 2002 พร้อมกับ FCX รุ่นแรกของฮอนด้าแล้ว ความเคลื่อนไหวในตลาดส่วนนี้กลับเงียบหายไปเลย เพราะมุ่งความสนใจไปกับไฮบริดทั้งแบบธรรมดา และแบบเสียบปลั๊กหรือ PHEV

แม้ดูตามเนื้อผ้าแล้ว การขยายตัวในวงกว้างจนเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะต้องพึ่งพากับการขยายตัวของระบบสาธารณูปโภคอย่างสถานีบริการเติมไฮโดรเจนออกมารองรับกับการใช้งานแล้ว แต่ฮอนด้าก็ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่านี่คือ เทคโนโลยีระดับสูงซึ่งมีความยากในการวิจัยและพัฒนา และถ้าฮอนด้าสามารถก้าวข้ามอุปสรรคสำคัญตรงนี้ไปได้แล้ว การขยับลงมาสู่เทคโนโลยีอย่างรถยนต์พลังไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กตามครัวเรือนเหมือนกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ผลผลิตจากแนวคิด Hello ของฮอนด้า ประกอบไปด้วยรถยนต์ สกู๊ตเตอร์ และมอเตอร์ไซค์ซึ่งใช้พลังไฟฟ้าขับเคลื่อน
และตรงนี้เชื่อมโยงเข้ากับอีกส่วนของผลผลิต ซึ่งเป็นรถยนต์พลังไฟฟ้า หรือ EV ที่อาศัยการเติมพลังงานผ่านทางการเสียบปลั๊กไฟบ้าน โดยทางฮอนด้าก็ยังไม่ได้มองข้ามถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด และส่งผ่านแนวคิดในการพัฒนาออกมาด้วยคอนเซ็ปต์ โปรเจ็กต์ที่เรียกว่าHELLO หรือ Honda Electric Mobility Loop
ฮอนด้า EV-N ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า และมาพร้อมกับหน้าตาน่ารักซึ่งได้รับอิทธิผลจากรถยนต์รุ่น 600N
ผลผลิตทั้งหมดประกอบไปด้วยรถยนต์นั่งทรงกล่องในชื่อ EV-N ซึ่งได้รับอิทธิพลในการออกแบบมาจากรถยนต์รุ่น 600N ตามด้วย EV Monpal สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสำหรับผู้สูงอายุ และ EV-Cub มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดเป็นผลผลิตในยุคหน้าเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องของการขับเคลื่อนด้วยพลังสะอาด และไม่มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่บรรยากาศ โดยอาศัยการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยการเสียบปลั๊กชาร์จกระแสไฟฟ้าจากไฟบ้าน

อย่างไรก็ตาม ฮอนด้าก็ยังมีสีสันและผลผลิตใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากรถยนต์พลังงานทางเลือกรุ่นใหม่ๆ เริ่มจากมินิแวนต้นแบบทรงสุดล้ำในชื่อสกายเด็ค ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นรุ่นเปลี่ยนโฉมของโอดิสซีส์ ตามด้วยการนำซีวิค ไทป์ อาร์ สเปกยุโรป ตัวถังแฮทช์แบ็ก 3 ประตูเข้ามาขายในญี่ป่นโดยมีชื่อต่อท้ายว่า Type R Euro และจะเริ่มขายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ฮอนด้าจัดการส่งซีวิค ไทป์ อาร์ 3 ประตูเวอร์ชันยุโรปเข้ามาขายในบ้านตัวเองด้วยชื่อ Type R Euro
ฮอนด้าส่งทางเลือกใหม่ในตลาดมินิแวนด้วยโฉมใหม่ของสเต็ปแวกอนในชื่อสปาดา พร้อมดึงบรรดาพี่น้องอุลตร้าแมนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์
ฮอนด้า สกายเด็ค ต้นแบบมินิแวนที่ว่ากันว่าจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นรุ่นเปลี่ยนโฉมของโอดิสซีส์
ที่ขาดไม่ได้คือ สเต็ปแวกอน มินิแวน ทรงกล่องที่แชร์พื้นฐานร่วมกับซีวิค ซึ่งรุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวเป็นเจนเนอเรชันที่ 4 แล้ว และทำตลาดทั้งรุ่นปกติ และรุ่นแต่งสวยในชื่อสปาดา (Spada)

พร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ SOHC 2,000 ซีซี 150 แรงม้าและเกียร์ CVT พร้อมกับดึงบรรดาพลพรรคอุลตร้าแมนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการโฆษณาที่ญี่ปุ่น และบ้านเรา รถยนต์รุ่นนี้ถือว่าฮิตพอสมควรในหมู่คนใช้รถชาวไทย แต่ทั้งหมดเป็นการนำเข้าผ่านทางผู้นำเข้ารายย่อย หรือเกรย์มาร์เก็ต
กำลังโหลดความคิดเห็น