ข่าวในประเทศ - ค่าย “เอฟบี” ปลื้มยอดขายแบตเตอรี่ทดแทนพุ่ง 20% ช่วยตลาดโออีเอ็มที่ลดลง 35-40% ได้พอสมควร ขณะที่ภาพรวมตลาดวูบ เผยปีหน้าตลาดฟื้น แต่คงใช้เวลา 3 ปี จึงจะดีดกลับเท่าเดิม มั่นใจรายได้พุ่ง 15-20% ทั้งจากสัญญาณเศรษฐกิจ ผู้ผลิตรถยนต์ และส่งแบตเตอรี่ใหม่ “โกลด์ เอสเอ็มเอฟ” สู่ตลาด
นายอธิธร จิตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟูรูกาวาเทรดดิ้ง จำกัด ผู้จำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อ “เอฟบี” เปิดเผยว่า ตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ไทยในช่วงปีนี้ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะแบตเตอรี่ประเภทส่งให้กับโรงงานประกอบรถยนต์ หรือโออีเอ็ม(OEM) ที่ลดลงตามอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ 35-40% แต่บริษัทฯ เห็นสัญญาณดังกล่าวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จึงปรับตัวรับมือได้ระดับหนึ่ง

“สิ่งที่ เอฟบีเห็นช่องทางพอจะรักษายอดขายไว้ได้ คือ ตลาดแบตเตอรี่ทดแทน หรืออาร์อีเอ็ม(REM) จึงได้เน้นรุกตลาดผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เจาะเข้าหาตัวแทนขาย และผู้บริโภคโดยตรง รวมถึงการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยล่าสุดได้เปิดตัวแบตเตอรี่ โกลด์ เอสเอ็มเอฟสู่ตลาด จนส่งผลให้ยอดขายแบตเตอรี่ทดแทนของเอฟบี เติบโตกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ช่วยทดแทนแบตเตอรี่โออีเอ็มที่ลดลงได้ แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม”
สำหรับภาพรวมของตลาดแบตเตอรี่ไทย คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ประมาณกว่า 4.6 ล้านลูก แบ่งเป็นแบตเตอรี่ประเภททดแทน 3.7 ล้านลูก แบตเตอรี่โออีเอ็ม 9.7 แสนลูก ซึ่งหากเทียบกับปี 2551 ที่ผ่านมาลดลง จากยอดขายทั้งหมดกว่า 5 ล้านลูก แบ่งเป็นแบตเตอรี่ทดแทน 3.9 ล้านลูก และแบตเตอรี่โออีเอ็ม 1.14 ล้านลูก
“ปีหน้าคาดว่าตลาดจะกลับมาเป็นบวก เมื่อเทียบกับยอดขายปีนี้ จากทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว และโดยเฉพาะตลาดแบตเตอรี่โออีเอ็ม ที่มีสัญญาณจากผู้ผลิตรถยนต์ดีขึ้น แต่จะตลาดจะกลับมาเท่ากับปี 2551 คงต้องใช้เวลา 2-3 ปี ซึ่งในส่วนของเอฟบีคาดว่าจะมีรายได้ในปีหน้าเพิ่มขึ้น 15-20% เพราะเราเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่โออีเอ็มอันดับ 1 ในไทย”
ส่วนทิศทางตลาดแบตเตอรี่ไทยในปีหน้า คาดว่าจะมีการแข่งขันสูงมาก แต่การที่เอฟบีแบตเตอรี่จะสามารถแข่งขันได้ ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสม่ำเสมอ และซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค ซึ่งล่าสุดได้แนะนำแบตเตอรี่แบบไม่เติมน้ำกลั่นรุ่นใหม่ “เอฟบี โกลด์ เอสเอ็มเอฟ”(FB Gold SMF) สู่ตลาด โดยมีจุดเด่นเรื่องโครงกริดชนิด CAE และเทคโนโลยีฝา 2 ชั้น เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ FB Super Gold ที่พิสูจน์ความทนทานให้เห็นแล้ว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีแตกต่างเพียงตะกั่วที่เป็น C7 ขณะที่รุ่นซูเปอร์โกลด์เป็นแบบ C21 เท่านั้น ส่วนราคาของโกล์ด เอสเอ็มเอฟอยู่ที่กว่า 1-3 พันบาทแล้วแต่ละรุ่น ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 3-4 พันลูกต่อเดือน
นายอธิธร จิตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟูรูกาวาเทรดดิ้ง จำกัด ผู้จำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อ “เอฟบี” เปิดเผยว่า ตลาดแบตเตอรี่รถยนต์ไทยในช่วงปีนี้ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะแบตเตอรี่ประเภทส่งให้กับโรงงานประกอบรถยนต์ หรือโออีเอ็ม(OEM) ที่ลดลงตามอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ 35-40% แต่บริษัทฯ เห็นสัญญาณดังกล่าวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จึงปรับตัวรับมือได้ระดับหนึ่ง
“สิ่งที่ เอฟบีเห็นช่องทางพอจะรักษายอดขายไว้ได้ คือ ตลาดแบตเตอรี่ทดแทน หรืออาร์อีเอ็ม(REM) จึงได้เน้นรุกตลาดผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เจาะเข้าหาตัวแทนขาย และผู้บริโภคโดยตรง รวมถึงการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยล่าสุดได้เปิดตัวแบตเตอรี่ โกลด์ เอสเอ็มเอฟสู่ตลาด จนส่งผลให้ยอดขายแบตเตอรี่ทดแทนของเอฟบี เติบโตกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ช่วยทดแทนแบตเตอรี่โออีเอ็มที่ลดลงได้ แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม”
สำหรับภาพรวมของตลาดแบตเตอรี่ไทย คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ประมาณกว่า 4.6 ล้านลูก แบ่งเป็นแบตเตอรี่ประเภททดแทน 3.7 ล้านลูก แบตเตอรี่โออีเอ็ม 9.7 แสนลูก ซึ่งหากเทียบกับปี 2551 ที่ผ่านมาลดลง จากยอดขายทั้งหมดกว่า 5 ล้านลูก แบ่งเป็นแบตเตอรี่ทดแทน 3.9 ล้านลูก และแบตเตอรี่โออีเอ็ม 1.14 ล้านลูก
“ปีหน้าคาดว่าตลาดจะกลับมาเป็นบวก เมื่อเทียบกับยอดขายปีนี้ จากทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว และโดยเฉพาะตลาดแบตเตอรี่โออีเอ็ม ที่มีสัญญาณจากผู้ผลิตรถยนต์ดีขึ้น แต่จะตลาดจะกลับมาเท่ากับปี 2551 คงต้องใช้เวลา 2-3 ปี ซึ่งในส่วนของเอฟบีคาดว่าจะมีรายได้ในปีหน้าเพิ่มขึ้น 15-20% เพราะเราเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่โออีเอ็มอันดับ 1 ในไทย”
ส่วนทิศทางตลาดแบตเตอรี่ไทยในปีหน้า คาดว่าจะมีการแข่งขันสูงมาก แต่การที่เอฟบีแบตเตอรี่จะสามารถแข่งขันได้ ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสม่ำเสมอ และซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค ซึ่งล่าสุดได้แนะนำแบตเตอรี่แบบไม่เติมน้ำกลั่นรุ่นใหม่ “เอฟบี โกลด์ เอสเอ็มเอฟ”(FB Gold SMF) สู่ตลาด โดยมีจุดเด่นเรื่องโครงกริดชนิด CAE และเทคโนโลยีฝา 2 ชั้น เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ FB Super Gold ที่พิสูจน์ความทนทานให้เห็นแล้ว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีแตกต่างเพียงตะกั่วที่เป็น C7 ขณะที่รุ่นซูเปอร์โกลด์เป็นแบบ C21 เท่านั้น ส่วนราคาของโกล์ด เอสเอ็มเอฟอยู่ที่กว่า 1-3 พันบาทแล้วแต่ละรุ่น ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 3-4 พันลูกต่อเดือน