ข่าวในประเทศ – ตลาดรถยนต์ซบ ส่งผู้ประกอบการแบตเตอรี่เหี่ยว ด้านยีเอส หันรุกตลาดทดแทนขายตรงผู้บริโภค เสริมโปรดักต์ใหม่ 2 รุ่น เพิ่มดีลเลอร์เป็น 300 แห่งทั่วประเทศ พร้อมงบการตลาด 80 ล้านบาทปั้นยอด ตั้งเป้า 3 ปี ครองส่วนแบ่งเกิน 40%
ประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการ บริษัท สยามยีเอส แบตเตอรี่ จำกัด และบริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ “ยีเอส แบตเตอรี่” เปิดเผยว่า จากความซบเซาของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก รวมถึงบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในไทย ส่งผลโดยตรงกับยอดขายแบตเตอรี่ในตลาดผู้ผลิตโรงงาน หรือโออีเอ็ม(OEM) ที่ปรับตัวลดลง จึงทำให้ปีนี้บริษัทต้องหันมารุกตลาดทดแทนหรือ อาร์อีเอ็ม (REM)มากขึ้น โดยเฉพาะพวกรถยนต์นั่ง ด้วยการเพิ่มสินค้าใหม่ รวมถึงการขยายดีลเลอร์ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย
“เราคาดว่า 5 เดือนแรกของปี 2552 ยอดขายแบตเตอรี่ในตลาดโออีเอ็ม จะตกไปถึง 40-50% ดังนั้นจึงเน้นการขยายตลาดแบตเตอรี่ทดแทนมากขึ้น ซึ่งกลางปีนี้เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ D-Tech (Dry-MF Technology) แบตเตอรี่แบบไม่ต้องบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งาน(Maintenance Free) ขณะเดียวกันยังได้ออกแบตเตอรี่รุ่นใหม่ “N70Z High Plus” ด้วยการเพิ่มแผ่นธาตุให้ใหญ่กว่ามาตรฐาน เพื่ออายุการใช้งานที่นานขึ้น รวมทั้งให้กำลังการจ่ายที่สูงขึ้น”
อย่างไรก็ตามจากปีก่อนที่ยอดขายรวมยีเอสจะแบ่งเป็นตลาดอาร์อีเอ็ม-โออีเอ็ม-ส่งออก ในสัดส่วน60-25-15 เปอร์เซ็นตามลำดับ แต่ผ่านมา 4-5 เดือน สัดส่วนได้เปลี่ยนเป็น 70-15-15 เปอร์เซ็นตามลำดับ และคาดว่าถึงสิ้นปีจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกเนื่องจากตลาดโออีเอ็ม ยังไม่สามารถประเมินได้
ด้านงบการตลาดปีนี้บริษัทเตรียมไว้ 80 ล้านบาท โดยจะเน้นกิจกรรมที่เข้าถึงทุกช่องทางการจำหน่าย พร้อมส่งเสริมการดูแลรักษาแบตเตอรี่และเครื่องยนต์ อาทิ กิจกรรมตรวจเช็คแบตเตอรี ฟรี! ในช่วงเทศกาลต่างๆ หรือโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของ “ยีเอส” ขณะเดียวกันยังจะเพิ่มร้านจำหน่ายจาก 250 แห่ง เป็น 300 แห่งทั่วประเทศอีกด้วย
นายประกาสิทธิ์ กล่าวว่าจากทุกแผนงานปีนี้จะส่งผลให้บริษัท มีผลประกอบการถึง 6,800 ล้านบาท ลดลงจากปี 2551 ประมาณ 12% เมื่อเทียบกับปี 2551 (7,780 ล้านบาท) ทั้งนี้บริษัทยังตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศจาก 35% เป็น 40% เพื่อครองความเป็นผู้นำต่อไป
ประกาสิทธิ์ พรประภา กรรมการ บริษัท สยามยีเอส แบตเตอรี่ จำกัด และบริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ “ยีเอส แบตเตอรี่” เปิดเผยว่า จากความซบเซาของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก รวมถึงบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในไทย ส่งผลโดยตรงกับยอดขายแบตเตอรี่ในตลาดผู้ผลิตโรงงาน หรือโออีเอ็ม(OEM) ที่ปรับตัวลดลง จึงทำให้ปีนี้บริษัทต้องหันมารุกตลาดทดแทนหรือ อาร์อีเอ็ม (REM)มากขึ้น โดยเฉพาะพวกรถยนต์นั่ง ด้วยการเพิ่มสินค้าใหม่ รวมถึงการขยายดีลเลอร์ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย
“เราคาดว่า 5 เดือนแรกของปี 2552 ยอดขายแบตเตอรี่ในตลาดโออีเอ็ม จะตกไปถึง 40-50% ดังนั้นจึงเน้นการขยายตลาดแบตเตอรี่ทดแทนมากขึ้น ซึ่งกลางปีนี้เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ D-Tech (Dry-MF Technology) แบตเตอรี่แบบไม่ต้องบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งาน(Maintenance Free) ขณะเดียวกันยังได้ออกแบตเตอรี่รุ่นใหม่ “N70Z High Plus” ด้วยการเพิ่มแผ่นธาตุให้ใหญ่กว่ามาตรฐาน เพื่ออายุการใช้งานที่นานขึ้น รวมทั้งให้กำลังการจ่ายที่สูงขึ้น”
อย่างไรก็ตามจากปีก่อนที่ยอดขายรวมยีเอสจะแบ่งเป็นตลาดอาร์อีเอ็ม-โออีเอ็ม-ส่งออก ในสัดส่วน60-25-15 เปอร์เซ็นตามลำดับ แต่ผ่านมา 4-5 เดือน สัดส่วนได้เปลี่ยนเป็น 70-15-15 เปอร์เซ็นตามลำดับ และคาดว่าถึงสิ้นปีจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกเนื่องจากตลาดโออีเอ็ม ยังไม่สามารถประเมินได้
ด้านงบการตลาดปีนี้บริษัทเตรียมไว้ 80 ล้านบาท โดยจะเน้นกิจกรรมที่เข้าถึงทุกช่องทางการจำหน่าย พร้อมส่งเสริมการดูแลรักษาแบตเตอรี่และเครื่องยนต์ อาทิ กิจกรรมตรวจเช็คแบตเตอรี ฟรี! ในช่วงเทศกาลต่างๆ หรือโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของ “ยีเอส” ขณะเดียวกันยังจะเพิ่มร้านจำหน่ายจาก 250 แห่ง เป็น 300 แห่งทั่วประเทศอีกด้วย
นายประกาสิทธิ์ กล่าวว่าจากทุกแผนงานปีนี้จะส่งผลให้บริษัท มีผลประกอบการถึง 6,800 ล้านบาท ลดลงจากปี 2551 ประมาณ 12% เมื่อเทียบกับปี 2551 (7,780 ล้านบาท) ทั้งนี้บริษัทยังตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี จะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศจาก 35% เป็น 40% เพื่อครองความเป็นผู้นำต่อไป