ข่าวในประเทศ - ค่ายตรา 4 ห่วง “ออดี้” เร่งหวนกลับมาลุยสังเวียงรถหรู ประกาศรุกตลาดเต็มรูปแบบ ทั้งกิจกรรมส่งเสริมการขาย และเปิดตัวสินค้าใหม่ครอบคลุม เริ่มตั้งแต่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 ต้นเดือนธ.ค.นี้เป็นต้นไป กับรุ่นท็อปคลาส “ออดี้ เอ8” เวอร์ชั่นพิเศษ ราคากว่า 7 ล้านบาท พร้อมเจรจาขอควงสปอร์ตคูเป้ “ออดี้ เอ5” มากระชากใจแฟนพันธุ์แรง แต่หากนำเข้ามาไม่ทันต้นปีหน้าได้เจอแน่ ส่วนรุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะรถออดี้ที่ติดตั้งเทคโนโลยีอันโด่งดัง ไม่ว่าจะเป็นระบบ Quattro หรือรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล “ออดี้ เอ4” ที่ปีหน้าจะเรียงหน้าเข้ามาให้เลือกหลากหลายรุ่น รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ในการทำตลาดรุ่นเล็ก “ออดี้ เอ3” ในอนาคต และนอกจากนี้ยังเตรียมรับการบุกตลาด โดยทุ่มงบตั้งสำนักงานแห่งใหม่ “ออดี้ เทอร์มินอล” เพื่อใช้เป็นโชว์รูม-ศูนย์บริกาต้นแบบทั่วประเทศ หลังจากต้องแยกขาดจากโฟล์คาสวาเกน คาดสรุปเครือข่ายออดี้โฉมใหม่จบภายในสิ้นปีนี้
การทำตลาดของรถยนต์ “ออดี้” ในไทย ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ค่อนข้างไม่ต่อเนื่อง และลูกค้าไม่มั่นใจต่อแบรนด์พอสมควร จากข่าวคราวการเข้ามาทำตลาดของบริษัทแม่ออดี้ เอจี จากนั้นก็ยังมีเรื่องของการปรับโครงสร้างภายในของกลุ่มยนตรกิจ ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ออดี้ในไทย จนต้องโยกไปอยู่ในโครงสร้างใหม่ ภายใต้ชื่อ “ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น” แต่เพียงแค่ปีเดียวต้องเปลี่ยนแปลงอีก ล่าสุดยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น ได้มีปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่อีกครั้ง โดย “วิเชียร ลีนุตพงษ์” ได้แยกนำรถยนต์บางยี่ห้อออกไปบริหาร ปล่อยให้ “สรวิศ ลีนุตพงษ์” เป็นผู้กุมบังเหียนยนตรกิจฯ และดูแลการทำตลาดออดี้ต่อไป ณ วันนี้ รถยนต์แบรนด์หรูตรา 4 ห่วง จึงเริ่มมีความชัดเจนและกลับมารุกตลาดอีกครั้ง
“แม้ที่ผ่านมาจะมีเหตุการณ์หลายอย่าง แต่ออดี้ในไทยยังคงได้รับการสนับสนุนจาก ออดี้ เอจี ดังจะเห็นได้จากราคารถออดี้ไม่ได้สูงกว่าคู่แข่งแต่อย่างใด แม้จะเป็นรถยนต์นำเข้า(CBU)สำเร็จรูป ไม่ได้ประกอบในประเทศ(CKD) เหมือนคู่แข่งก็ตาม และนับจากนี้ไปออดี้จะมีการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมและแนะนำรถรุ่นใหม่สู่ตลาด”
กิตติ มาไพศาลสิน กรรมการบริหาร บริษัท เยอรมัน มอเตอร์เวิร์ค จำกัด ในเครือกลุ่มยนตรกิจคอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงทิศทางรถยนต์ออดี้ในไทย และบอกว่า ยิ่งปีนี้แบรนด์ออดี้มีอายุครบ 100 ปี ทางออดี้ เอจี จึงให้ความสำคัญมากที่จะผลักดันสู่ความเป็นผู้นำรถยนต์พรีเมียมทั่วโลก ซึ่งผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้สูงกว่าเป้าที่วางไว้ คาดว่าถึงสิ้นปีจะบรรลุเป้าหมาย 9 แสนคันทั่วโลกแน่นอน ขณะที่ในไทยก็เชื่อว่าจะเติบโตจากปีที่ผ่านไม่ต่ำกว่า 20%
ทั้งนี้ในการฉลองความสำเร็จ 100 ปีในประเทศไทย บริษัทฯ ได้ร่วมร่วมกับออดี้ เอจี จัดงาน “Audi 100 years Celebration” ระหว่างวันที่ 6-15 พฤศจิกายนนี้ ณ ฮอลล์ ออฟ มิเรอร์ สยามพารากอน เพื่อมอบความสิทธิพิเศษให้กับผู้ชื่นชอบรถยนต์ออดี้ทุกรุ่น ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 พฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อรถยนต์ ออดี้ ทีที คูเป้(TT Coupe) ราคา 4.698 ล้านบาท ที่ได้รับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 48 เดือน และออดี้ เอ4 (A4) ราคาพิเศษ 2.89 ล้านบาท แถมฟรีอุปกรณ์ 4 รายการ มูลค่ากว่า 2 แสนบาท
กิตติยังบอกว่า ในการจัดงานฉลอง 100 ปีแบรนด์ออดี้ นอกจากมีกิจกรรมหลากหลายและจัดต่อเนื่องแล้ว ยังมีเป้าหมายเผยแพร่ข่าวสารให้ผู้บริโภคชาวไทย ได้รับทราบประวัติศาสตร์ของแบรนด์พรีเมี่ยมของออดี้ที่มายาวนาน และได้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของออดี้ อาทิ Quattro ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา, เทคโนโลยี TFSI และ TDI รวมถึงเทคโนโลยีตัวถังอลูมิเนียม Audi Space Frame
“ที่ผ่านมาเราอาจจะไม่ได้นำนวัตกรรมเหล่านี้ มาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รู้จัก และสัมผัสถึงสมรรถนะที่ดีของเทคโนโลยีเหล่านี้มากนัก แต่จากนี้ไปเราจะนำเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ Quattro หรือรถเครื่องยนต์ดีเซล ที่ปัจจุบันมีเพียงรุ่นเอ6(A6) ทำตลาดในไทย และเรากำลังพิจารณานำออดี้ เอ4 เครื่องยนต์ดีเซลเข้ามาทำตลาดเสริมอีกรุ่น โดยจะเริ่มเห็นรถยนต์ที่ติดตั้งนวัตกรรมเหล่านี้ ถูกนำเข้ามาทำตลาดในไทยอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป”
กิตติกล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะนำเข้ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ มามากขึ้น โดยมีเป้าหมายต้องการเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกเซกเม้นท์ จากปัจจุบันที่มีรถยนต์ซีดาน ออดี้ เอ4 และเอ6 ทำตลาด รวมถึงรถสปอร์ตทีที คูเป้ และรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี ออดี้ คิว5(Q5) และคิว7(Q7)
“ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 ต้นเดือนธันวาคมนี้ จะมีการแนะนำรถ ออดี้ เอ8 2.8 เอฟเอสไอ(A8 2.8 FSI) ซึ่งเป็นรถรุ่นท็อปคลาสของออดี้ เข้ามาทำตลาดในไทย และเป็นรถรุ่นพิเศษที่มีฐานล้อยาว หรือ Long Wheel Base เพิ่มเสริมรุ่นหลักๆ ในปัจจุบัน โดยคาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณกว่า 7 ล้านบาท และอีกรุ่นเป็นรถสปอร์ตคูเป้ ออดี้ เอ5 คูเป้ 2.0 ทีเอฟเอสไอ ควอตโตร(A5 Coupe 2.0 TFSI Quattro) ที่พยายามจะเจรจานำเข้ามาเปิดตัวในงานนี้ แต่หากไม่ทันก็จะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้าแน่นอน”
สำหรับรถยนต์ออดี้ เอ8 2.8 เอฟเอสไอ รุ่นพิเศษ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบ วี6 สูบ ขนาด 2773 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8 วินาที นับเป็นหรูหราที่สุดของออดี้ และมีตัวถังเป็นอลูมิเนียม หรือ Audi Space Frame จึงมีน้ำหนักเบาทำให้สมรรถนะการขับขี่ตอบสนองได้ดี และประหยัดน้ำมันกว่าคู่แข่ง
ในส่วนของรถยนต์โมเดลใหม่อื่นๆ กิตติบอกว่ากำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการทำตลาด ออดี้ เอ3(A3) ซึ่งเป็นรถขนาดเล็กอยู่ เพราะที่ผ่านมามีรถยนต์แบรนด์หรูพยายามจะเปิดตลาดนี้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จต้องเลิกไป ดังนั้นจึงกำลังศึกษาอยู่ว่าเป็นเพราะตลาดไม่ยอมรับ หรือตัวผลิตภัณฑ์ไม่ตอบสนองผู้บริโภค
ด้านการเตรียมความพร้อมอื่นๆ เพื่อรองรับการรุกตลาดเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้ ออดี้จึงได้เปิดเว็บไซต์ www.audi.co.th เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบข้อมูลของรถรุ่นต่างๆ ที่ทำตลาดในไทย รวมถึงการย้ายสำนักงานจากถนนสุรวงศ์ ไปยังศูนย์บัญชาการแห่งใหม่ บนซอยเทียมร่วมมิตร ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงอาคาร ในการใช้สำนักงานใหญ่ ตลอดจนเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการต้นแบบของออดี้ทั่วประเทศ มีชื่อเรียกว่า ออดี้ เทอร์มินอล(Audi Terminal) คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปีหน้า
ส่วนเครือข่ายการขายของออดี้ทั่วประเทศ กำลังมีการปรับเปลี่ยนใหม่หมดเช่นกัน เพราะเดิมออดี้จะใช้โชว์รูมและศูนย์บริการร่วมกับโฟล์กสวาเกน แต่เมื่อมีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ในกลุ่มยนตรกิจ ทำให้ต้องแยกการดำเนินงานออกจากกันชัดเจน ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถสรุปจำนวนเครือข่ายใหม่ของออดี้ได้ภายในสิ้นปีนี้
นับเป็นการหวนมารุกตลาดเต็มรูปแบบอีกครั้ง แม้ว่าจะเริ่มเห็นชัดเจนในปีหน้าเป็นต้นไปก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ทำให้แฟนพันธุ์แท้ แบรนด์รถหรูตรา 4 ห่วง มีความเชื่อมั่นมากขึ้น และก็หวังว่าจะไม่เกิดอาการสะดุดซ้ำซากก็แล้วกัน...
การทำตลาดของรถยนต์ “ออดี้” ในไทย ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ค่อนข้างไม่ต่อเนื่อง และลูกค้าไม่มั่นใจต่อแบรนด์พอสมควร จากข่าวคราวการเข้ามาทำตลาดของบริษัทแม่ออดี้ เอจี จากนั้นก็ยังมีเรื่องของการปรับโครงสร้างภายในของกลุ่มยนตรกิจ ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ออดี้ในไทย จนต้องโยกไปอยู่ในโครงสร้างใหม่ ภายใต้ชื่อ “ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น” แต่เพียงแค่ปีเดียวต้องเปลี่ยนแปลงอีก ล่าสุดยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น ได้มีปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่อีกครั้ง โดย “วิเชียร ลีนุตพงษ์” ได้แยกนำรถยนต์บางยี่ห้อออกไปบริหาร ปล่อยให้ “สรวิศ ลีนุตพงษ์” เป็นผู้กุมบังเหียนยนตรกิจฯ และดูแลการทำตลาดออดี้ต่อไป ณ วันนี้ รถยนต์แบรนด์หรูตรา 4 ห่วง จึงเริ่มมีความชัดเจนและกลับมารุกตลาดอีกครั้ง
“แม้ที่ผ่านมาจะมีเหตุการณ์หลายอย่าง แต่ออดี้ในไทยยังคงได้รับการสนับสนุนจาก ออดี้ เอจี ดังจะเห็นได้จากราคารถออดี้ไม่ได้สูงกว่าคู่แข่งแต่อย่างใด แม้จะเป็นรถยนต์นำเข้า(CBU)สำเร็จรูป ไม่ได้ประกอบในประเทศ(CKD) เหมือนคู่แข่งก็ตาม และนับจากนี้ไปออดี้จะมีการรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมและแนะนำรถรุ่นใหม่สู่ตลาด”
กิตติ มาไพศาลสิน กรรมการบริหาร บริษัท เยอรมัน มอเตอร์เวิร์ค จำกัด ในเครือกลุ่มยนตรกิจคอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงทิศทางรถยนต์ออดี้ในไทย และบอกว่า ยิ่งปีนี้แบรนด์ออดี้มีอายุครบ 100 ปี ทางออดี้ เอจี จึงให้ความสำคัญมากที่จะผลักดันสู่ความเป็นผู้นำรถยนต์พรีเมียมทั่วโลก ซึ่งผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้สูงกว่าเป้าที่วางไว้ คาดว่าถึงสิ้นปีจะบรรลุเป้าหมาย 9 แสนคันทั่วโลกแน่นอน ขณะที่ในไทยก็เชื่อว่าจะเติบโตจากปีที่ผ่านไม่ต่ำกว่า 20%
ทั้งนี้ในการฉลองความสำเร็จ 100 ปีในประเทศไทย บริษัทฯ ได้ร่วมร่วมกับออดี้ เอจี จัดงาน “Audi 100 years Celebration” ระหว่างวันที่ 6-15 พฤศจิกายนนี้ ณ ฮอลล์ ออฟ มิเรอร์ สยามพารากอน เพื่อมอบความสิทธิพิเศษให้กับผู้ชื่นชอบรถยนต์ออดี้ทุกรุ่น ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 พฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อรถยนต์ ออดี้ ทีที คูเป้(TT Coupe) ราคา 4.698 ล้านบาท ที่ได้รับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 48 เดือน และออดี้ เอ4 (A4) ราคาพิเศษ 2.89 ล้านบาท แถมฟรีอุปกรณ์ 4 รายการ มูลค่ากว่า 2 แสนบาท
กิตติยังบอกว่า ในการจัดงานฉลอง 100 ปีแบรนด์ออดี้ นอกจากมีกิจกรรมหลากหลายและจัดต่อเนื่องแล้ว ยังมีเป้าหมายเผยแพร่ข่าวสารให้ผู้บริโภคชาวไทย ได้รับทราบประวัติศาสตร์ของแบรนด์พรีเมี่ยมของออดี้ที่มายาวนาน และได้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของออดี้ อาทิ Quattro ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา, เทคโนโลยี TFSI และ TDI รวมถึงเทคโนโลยีตัวถังอลูมิเนียม Audi Space Frame
“ที่ผ่านมาเราอาจจะไม่ได้นำนวัตกรรมเหล่านี้ มาให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รู้จัก และสัมผัสถึงสมรรถนะที่ดีของเทคโนโลยีเหล่านี้มากนัก แต่จากนี้ไปเราจะนำเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ Quattro หรือรถเครื่องยนต์ดีเซล ที่ปัจจุบันมีเพียงรุ่นเอ6(A6) ทำตลาดในไทย และเรากำลังพิจารณานำออดี้ เอ4 เครื่องยนต์ดีเซลเข้ามาทำตลาดเสริมอีกรุ่น โดยจะเริ่มเห็นรถยนต์ที่ติดตั้งนวัตกรรมเหล่านี้ ถูกนำเข้ามาทำตลาดในไทยอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป”
กิตติกล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะนำเข้ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ มามากขึ้น โดยมีเป้าหมายต้องการเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกเซกเม้นท์ จากปัจจุบันที่มีรถยนต์ซีดาน ออดี้ เอ4 และเอ6 ทำตลาด รวมถึงรถสปอร์ตทีที คูเป้ และรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี ออดี้ คิว5(Q5) และคิว7(Q7)
“ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 ต้นเดือนธันวาคมนี้ จะมีการแนะนำรถ ออดี้ เอ8 2.8 เอฟเอสไอ(A8 2.8 FSI) ซึ่งเป็นรถรุ่นท็อปคลาสของออดี้ เข้ามาทำตลาดในไทย และเป็นรถรุ่นพิเศษที่มีฐานล้อยาว หรือ Long Wheel Base เพิ่มเสริมรุ่นหลักๆ ในปัจจุบัน โดยคาดว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณกว่า 7 ล้านบาท และอีกรุ่นเป็นรถสปอร์ตคูเป้ ออดี้ เอ5 คูเป้ 2.0 ทีเอฟเอสไอ ควอตโตร(A5 Coupe 2.0 TFSI Quattro) ที่พยายามจะเจรจานำเข้ามาเปิดตัวในงานนี้ แต่หากไม่ทันก็จะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้าแน่นอน”
สำหรับรถยนต์ออดี้ เอ8 2.8 เอฟเอสไอ รุ่นพิเศษ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบ วี6 สูบ ขนาด 2773 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8 วินาที นับเป็นหรูหราที่สุดของออดี้ และมีตัวถังเป็นอลูมิเนียม หรือ Audi Space Frame จึงมีน้ำหนักเบาทำให้สมรรถนะการขับขี่ตอบสนองได้ดี และประหยัดน้ำมันกว่าคู่แข่ง
ในส่วนของรถยนต์โมเดลใหม่อื่นๆ กิตติบอกว่ากำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการทำตลาด ออดี้ เอ3(A3) ซึ่งเป็นรถขนาดเล็กอยู่ เพราะที่ผ่านมามีรถยนต์แบรนด์หรูพยายามจะเปิดตลาดนี้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จต้องเลิกไป ดังนั้นจึงกำลังศึกษาอยู่ว่าเป็นเพราะตลาดไม่ยอมรับ หรือตัวผลิตภัณฑ์ไม่ตอบสนองผู้บริโภค
ด้านการเตรียมความพร้อมอื่นๆ เพื่อรองรับการรุกตลาดเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้ ออดี้จึงได้เปิดเว็บไซต์ www.audi.co.th เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบข้อมูลของรถรุ่นต่างๆ ที่ทำตลาดในไทย รวมถึงการย้ายสำนักงานจากถนนสุรวงศ์ ไปยังศูนย์บัญชาการแห่งใหม่ บนซอยเทียมร่วมมิตร ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงอาคาร ในการใช้สำนักงานใหญ่ ตลอดจนเป็นโชว์รูมและศูนย์บริการต้นแบบของออดี้ทั่วประเทศ มีชื่อเรียกว่า ออดี้ เทอร์มินอล(Audi Terminal) คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปีหน้า
ส่วนเครือข่ายการขายของออดี้ทั่วประเทศ กำลังมีการปรับเปลี่ยนใหม่หมดเช่นกัน เพราะเดิมออดี้จะใช้โชว์รูมและศูนย์บริการร่วมกับโฟล์กสวาเกน แต่เมื่อมีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ในกลุ่มยนตรกิจ ทำให้ต้องแยกการดำเนินงานออกจากกันชัดเจน ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถสรุปจำนวนเครือข่ายใหม่ของออดี้ได้ภายในสิ้นปีนี้
นับเป็นการหวนมารุกตลาดเต็มรูปแบบอีกครั้ง แม้ว่าจะเริ่มเห็นชัดเจนในปีหน้าเป็นต้นไปก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ทำให้แฟนพันธุ์แท้ แบรนด์รถหรูตรา 4 ห่วง มีความเชื่อมั่นมากขึ้น และก็หวังว่าจะไม่เกิดอาการสะดุดซ้ำซากก็แล้วกัน...