มาสด้า2 เปิดตัวสู่ตลาดโลกครั้งแรกเมื่อปี 1996 ก่อนจะเปลี่ยนมาสู่เจนเนอเรชั่น 2 ในปี 2002 ซึ่งเป็นการพัฒนารถภายใต้แนวคิด ZOOM-ZOOM จากนั้นก็เข้าสู่เจนเนอเรชั่นที่ 3 เมื่อปี 2007 และกวาดรางวัลชนะเลิศมาแล้วมากมายจากทั่วโลก
สำหรับมาสด้า2 ที่ผลิตในประเทศไทย และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ถือเป็นการไมเนอร์เชนจ์ครั้งแรก ของโมเดลเจนเนอเรชั่นที่ 3 และจะเปิดตัวขายโฉมใหม่นี้ในไทยเป็นแห่งแรกของโลก (รุ่นแฮทช์แบ็กจะเปิดตัวก่อน และรุ่นซีดาน 4 ประตูจะเปิดตัวตามในช่วงต้นปีหน้า จากรายงานข่าวราคาจะเท่ากันทั้งสองแบบ โดยอยู่ที่ประมาณ 5.3-6.8 แสนบาท)
นั่นคือความเป็นมาของ “มาสด้า2” หรือ “เดมิโอ” ในญี่ปุ่น จากการบอกเล่าของ “เรียวอิจิ คิชิโมโตะ” ผู้จัดการโครงการมาสด้า2 บริษัท มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และเขากล่าวว่า... “มาสด้า2 มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนหนุ่มสาวอายุไม่เกินกว่า 30 ปี ที่มีความเป็นตัวของตัวเอง และทันสมัย”
เมื่อกลุ่มเป้าหมายเป็นหนุ่มสาวรุ่นใหม่ ทีนี้มาดูการออกแบบมาสด้า2 ว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร?
“อิคูโอะ มาเอดะ” ผู้จัดการทั่วฝ่ายออกแบบของ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น บอกว่า... “มาสด้า อาร์เอ็กซ์8 เปรียบเสมือนเป็นลูกของผม เพราะได้ดูแลควบคุมการออกแบบโดยตรง”
นั่นย่อมหมายความว่า “มาสด้า2” น่าจะเป็นหลาน หรือเหลนของมาเอดะ เพราะได้รับการออกแบบจากการนำจุดเด่นของ อาร์เอ็กซ์-8 เอ็มเอ็กซ์-5 และมาสด้า3 มาเข้าไว้ในร่างของมาสด้า2 ที่แฝงไปด้วย Sport DNA ผ่านการออกแบบจากทีมงานของเขา โดยเฉพาะ “อาคิระ ทามาทานิ” หัวหน้าทีมออกแบบมาสด้า2 ลูกศิษย์ที่ร่วมหัวจมท้ายกับมาเอดะมาถึง 20 ปีในมาสด้า
“เราเริ่มจากการศึกษาตลาดก่อน โดยสำรวจจากประเทศตะวันออก และยุโรป ซึ่งพบว่าชาวญี่ปุ่นจะชอบรถยนต์ที่รูปทรงกลมๆ แต่ยุโรปจะเน้นความเป็นสปอร์ตมากกว่า ฉะนั้นเราจะต้องนำความแตกต่างกันนี้ มาผสมผสานให้ลงตัว ซึ่งก็เป็นดังเช่นมาสด้า2 ปัจจุบัน”
พร้อมกันนี้เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน ทางมาสด้าได้ทำการเผยโฉม “มาสด้า2 ใหม่” ทั้งรุ่นแฮทช์แบ็ก และซีดาน 4 ประตู กับบุคคลภายนอกเป็นครั้งแรก เพียงแต่ดูได้แค่ตาและสัมผัสเท่านั้น เพราะทางมาสด้าได้ยึดกล้อง และอุปกรณ์ที่บันทึกภาพของสื่อมวลชนจากทั้ง 3 ประเทศไว้หมด
แต่เพียงแค่ผ่านสายตาก็ต้องบอกว่า มาสด้า2 มีรูปลักษณ์ได้รับอิทธพลมาจาก มาสด้า3 โฉมใหม่ล่าสุด หรือรุ่นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่ปัจจุบันเปิดตัวทำตลาดอยู่ในต่างประเทศไปแล้ว (ในไทยยังเป็นเจนเนอเรชั่นแรก) มาแบบเต็มๆ
โดยคิชิโมโตะบอกเล่าถึงจุดโดดเด่นของมาสด้า2 ว่า เป็นรถเล็กที่ใส่ความสปอร์ตเข้าไป แต่ประหยัดเชื้อเพลิง และมีความปลอดภัย โดยได้มีการปรับปรุงช่วงล่าง ระบบเบรก และพวงมาลัยให้มีสมรรถนะดีขึ้น ขณะที่เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 103 แรงม้า ก็ปรับระบบทำงานให้สมรรถนะกำลังไหลรื่นกว่ารุ่นเดิม
“หากเทียบกับคู่แข่งจะดีกว่าชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องสมรรถนะการขับขี่ ทำให้รู้สึกสนุกและขับง่าย มั่นคง ตอบสนองการขับขี่ได้ดี และปลอดภัย ขณะที่อุปกรณ์ความสะดวกสบายต่างๆ ก็มีครบครัน และถูกออกแบบไว้อย่างทันสมัย ไม่ว่าจะแผงคอนโซล พวงมาลัย และคอนโซลกลาง ที่มีเส้นสายกลมมนดูสปอร์ตมาก”
จากการสำรวจความต้องการลูกค้า และนำมาออกแบบพัฒนาให้ลงตัว ทำให้มาสด้าคาดหวังความสำเร็จในการเปิดตัว “มาสด้า2” ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีไทยเป็นหัวใจสำคัญนี้มาก
ดังเช่นที่นากามิเนได้กล่าวไว้...
“มาสด้า2 เป็นรถยนต์ที่ไม่เพียงโดดเด่นท้าทาย ยังผ่านการฟังเสียงของผู้บริโภค ทำให้สามารถสร้างอารมณ์ร่วมกับผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี มั่นใจมากว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค เพราะทั้งรูปลักษณ์การออกแบบและสมรรถนะ เชื่อมั่นว่าเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดทุกด้าน ซึ่งหากลูกค้าได้ลองขับแล้วจะรู้สึกเป็นเช่นนั้นจริงๆ”
...ทีนี้ก็เหลือเพียงระยะเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์!!