ข่าวต่างประเทศ - ฟอร์ด มอเตอร์ โชว์ความมั่นคงของฐานะทางการเงิน ลงทุนอีก 490 ล้านเหรียญสหรัฐในประเทศจีน สร้างโรงงนผลิตรถเพิ่ม 150,000 คัน หลังเพิ่งลงทุนในอินเดียไป 500 ล้านเหรียญเมื่อวันก่อน หวังดันยอดผลิตรวมของฟอร์ดในจีนกลายเป็น 600,000 คันต่อปี กำหนดโรงงานใหม่สร้างแล้วเสร็จปี 2555 พร้อมเผยโฟกัสโฉมใหม่มาแน่ปีหน้า
อลัน มูลัลลี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เปิดเผย่วา การลงทุนมูลค่า 490 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.64 หมื่นล้านบาท) แสดงให้เห็นถึงพัฒนการก้าวสำคัญของฟอร์ดในการเดินหน้ากลยุทธ์ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา เบื้องต้น โรงงานแห่งใหม่จะมีกำลังการผลิต 150,000 คันต่อปี ส่งผลให้ศักยภาพการผลิตรถยนต์โดยรวมต่อปีของ บริษัท ฉางอัน ฟอร์ด มาสด้า ออโตโมบิล (ซีเอฟเอ็มเอ)เพิ่มขึ้นเป็น 600,000 คันในพ.ศ. 2555 เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์ภายใต้แบรนด์ฟอร์ดที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีน
"เรามุ่งมั่นที่จะผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์ฟอร์ดทุกรุ่นทั่วโลกให้เป็นรถที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ทั้งด้านคุณภาพ การประหยัดน้ำมัน ความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้เป็นรถที่ลูกค้าของเราเห็นคุณค่าและต้องการที่จะขับ ซึ่งการประกาศการสร้างโรงงานแห่งใหม่ในวันนี้ เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าขยายการดำเนินธุรกิจของเราในประเทศจีน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภคชาวจีนที่มีต่อรถยนต์และบริการของฟอร์ด"
สำหรับโรงงานแห่งใหม่จะเป็นโรงงานแห่งที่สองของฟอร์ดตั้งอยู่ที่เมืองจุงกิง และเป็นแห่งที่สามในประเทศจีน ภายใต้บริษัทร่วมทุนซีเอฟเอ็มเอ โดยจะตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมใหม่ นิว นอร์ธ โซน ในเมืองจุงกิง ซึ่งโรงงานจะมีความยืดหยุ่นในการผลิตสูง ติดตั้งเครื่องจักรระบบอัตโนมัติใช้เทคโนโลยีทันสมัยใหม่ล่าสุด และปฏิบัติงานภายใต้ระบบและกระบวนการผลิตรถยนต์ของฟอร์ด โรงงานแห่งนี้จะเริ่มต้นผลิตรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส เจเนอเรชั่นใหม่ ในพ.ศ. 2555 โดยมีศักยภาพในการผลิตรถยนต์ได้หลากหลายประเภทในอนาคต
ทั้งนี้ รถฟอร์ด โฟกัส เจเนอเรชั่นใหม่ มีแผนจะเปิดตัวครั้งแรกเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 ในงาน นอร์ธ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่แนล ออโต้ โชว์ จะเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นใหม่ของบริษัท ซึ่งจะใช้แพลทฟอร์มมาตรฐานเดียวกันในทุกภูมิภาคทั่วโลกและคาดว่าจะสามารถทำยอดขายรวมทั่วโลกได้มากกว่า 2 ล้านคันต่อปีภายในพ.ศ. 2555
อย่างไรก็ตาม แพลทฟอร์มการผลิตรถยนต์นั่งขนาดกลางระดับโลกรุ่นใหม่นี้จะนำมาใช้ผลิตรถยนต์ถึง 10 รุ่น เพื่อเติมเต็มความต้องการอันหลากหลายต่อรถยนต์นั่งขนาดกลางจากทั่วโลก โดยปัจจุบัน ตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนราว 28 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมทั่วโลก ภายในพ.ศ. 2556
อลัน มูลัลลี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เปิดเผย่วา การลงทุนมูลค่า 490 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.64 หมื่นล้านบาท) แสดงให้เห็นถึงพัฒนการก้าวสำคัญของฟอร์ดในการเดินหน้ากลยุทธ์ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและแอฟริกา เบื้องต้น โรงงานแห่งใหม่จะมีกำลังการผลิต 150,000 คันต่อปี ส่งผลให้ศักยภาพการผลิตรถยนต์โดยรวมต่อปีของ บริษัท ฉางอัน ฟอร์ด มาสด้า ออโตโมบิล (ซีเอฟเอ็มเอ)เพิ่มขึ้นเป็น 600,000 คันในพ.ศ. 2555 เพื่อรองรับความต้องการรถยนต์ภายใต้แบรนด์ฟอร์ดที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีน
"เรามุ่งมั่นที่จะผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์ฟอร์ดทุกรุ่นทั่วโลกให้เป็นรถที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ทั้งด้านคุณภาพ การประหยัดน้ำมัน ความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้เป็นรถที่ลูกค้าของเราเห็นคุณค่าและต้องการที่จะขับ ซึ่งการประกาศการสร้างโรงงานแห่งใหม่ในวันนี้ เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าขยายการดำเนินธุรกิจของเราในประเทศจีน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภคชาวจีนที่มีต่อรถยนต์และบริการของฟอร์ด"
สำหรับโรงงานแห่งใหม่จะเป็นโรงงานแห่งที่สองของฟอร์ดตั้งอยู่ที่เมืองจุงกิง และเป็นแห่งที่สามในประเทศจีน ภายใต้บริษัทร่วมทุนซีเอฟเอ็มเอ โดยจะตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมใหม่ นิว นอร์ธ โซน ในเมืองจุงกิง ซึ่งโรงงานจะมีความยืดหยุ่นในการผลิตสูง ติดตั้งเครื่องจักรระบบอัตโนมัติใช้เทคโนโลยีทันสมัยใหม่ล่าสุด และปฏิบัติงานภายใต้ระบบและกระบวนการผลิตรถยนต์ของฟอร์ด โรงงานแห่งนี้จะเริ่มต้นผลิตรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส เจเนอเรชั่นใหม่ ในพ.ศ. 2555 โดยมีศักยภาพในการผลิตรถยนต์ได้หลากหลายประเภทในอนาคต
ทั้งนี้ รถฟอร์ด โฟกัส เจเนอเรชั่นใหม่ มีแผนจะเปิดตัวครั้งแรกเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 ในงาน นอร์ธ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่แนล ออโต้ โชว์ จะเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นใหม่ของบริษัท ซึ่งจะใช้แพลทฟอร์มมาตรฐานเดียวกันในทุกภูมิภาคทั่วโลกและคาดว่าจะสามารถทำยอดขายรวมทั่วโลกได้มากกว่า 2 ล้านคันต่อปีภายในพ.ศ. 2555
อย่างไรก็ตาม แพลทฟอร์มการผลิตรถยนต์นั่งขนาดกลางระดับโลกรุ่นใหม่นี้จะนำมาใช้ผลิตรถยนต์ถึง 10 รุ่น เพื่อเติมเต็มความต้องการอันหลากหลายต่อรถยนต์นั่งขนาดกลางจากทั่วโลก โดยปัจจุบัน ตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลางเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนราว 28 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวมทั่วโลก ภายในพ.ศ. 2556