มาร์คัส โกรนโฮล์ม ควบ "ฟอร์ด เฟียสต้า" คว้าอันดับ 2 ในการแข่งขันแรลลี่ ครอส รายการ ไพคส์ พีค อินเตอร์เนชั่นแนล ฮิลล์ ไคลมบ์ ครั้งที่ 87 ที่โคโรลาโด สปริงส์ ในประเทศอเมริกา พร้อมคว้าตำแหน่งนักแข่งหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี
โกรนโฮล์ม ขับรถฟอร์ด เฟียสต้า แรลลี่ครอส ที่ทีมโอลส์เบอร์กส์ มอเตอร์ สปอร์ต อีโวลูชั่น ปรับแต่งขึ้นจากรถ "ฟอร์ด เฟียสต้า" เวอร์ชั่นจำหน่ายในทวีปยุโรป เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ในการแข่งขันแบบ "ไม่จำกัดรุ่น" และทำเวลารวมได้ดีที่สุดเป็นลำดับที่ 5 ในการแข่งขันรายการ ไพคส์ พีค อินเตอร์เนชั่นแนล ฮิลล์ ไคลมบ์ ครั้งที่ 87 ที่โคโรลาโด สปริงส์ ประเทศอเมริกา
นอกจากนี้ โกรนโฮล์มยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ "Rookie of the Year" หรือนักแข่งหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี จากการลงแข่งในสนามนี้เป็นครั้งแรกและทำเวลาได้ 11 นาที 28.963 วินาที บนเส้นทางขึ้นเขาไพคส์ พีค ไฮเวย์ ที่ขึ้นชื่อด้านความโหดด้วยระยะทาง 12.4 ไมล์ ที่มีโค้งมากถึง 156 โค้ง
ในการแข่งขันครั้งนี้ นอกจากจะต้องต่อสู้กับความสูงชัน สภาพถนนที่หลากหลาย และสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างมาก บนระดับความสูงจาก 2,800 เมตร ไปยังความสูงกว่า 4,200 เมตร ที่มีอัตราความชันเฉลี่ยอยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์แล้ว โกรนโฮล์มยังประสบปัญหาเครื่องยนต์จากการที่เทอร์โบชาร์จเจอร์ ในเครื่องยนต์ขนาด 800 แรงม้าของรถฟอร์ด เฟียสต้า แรลลี่ครอส เกิดเหตุขัดข้อง ส่งผลให้กำลังของเครื่องยนต์ลดลงอย่างมากในโค้งสำคัญช่วงสุดท้ายของการแข่งขันที่กำลังจะขึ้นสู่ยอดเขา
"ผมอยากจะแข่งที่ไพคส์ พีค มานานแล้ว ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าการได้มาแข่งที่นี่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นับว่าเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพของผม นี่คือหนึ่งในสนามที่คุณอยากจะบอกกับใครๆ ว่าคุณเคยได้มาแข่งแล้ว"โกรนโฮล์ม กล่าวและว่า
"ความสามารถในการยึดเกาะถนนของรถฟอร์ด เฟียสต้า นับว่าดีเยี่ยม และยางบีเอฟ กู๊ดริช ก็ดีมาก น่าเสียดายที่เรามีปัญหาเล็กน้อยระหว่างการแข่งขัน ผมเสียกำลังรถไปบางส่วนในช่วงไม่กี่กิโลเมตรสุดท้าย แต่ผมก็ตั้งใจว่าจะต้องพยายามขับไปถึงเส้นชัยให้ได้ เฟียสต้าเป็นรถที่มีศักยภาพอย่างมาก และน่าจะทำลายสถิติที่ 10 วินาทีได้ ถ้าผมกลับมาคราวหน้า ผมรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้ขับได้เร็วที่สุด"
ส่วนเพื่อนร่วมทีมของโกรนโฮล์มอย่าง อันเดรียส เอริคสัน การแข่งขันที่ไพคส์ พีค ครั้งแรกของเขาต้องจบลงในระยะเวลาอันสั้นเพียงแค่ในช่วงของเอ็นจิเนียร์ส คอร์เนอร์ หรือหลัก 2 ไมล์ เนื่องจากยางหลุดออกจากขอบถึง 2 ล้อ ส่งผลให้โอลส์เบอร์กส์ เอ็มเอสอี เฟียสต้า หลุดออกจากสนามไปชนกับต้นไม้และปีกด้านหลังของรถได้รับความเสียหาย
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้การลงแข่งขัน ไพคส์ พีค ฮิลล์ ไคลมบ์ ครั้งแรกของเอริคสันจบลงอย่างไม่สมบูรณ์แบบนัก "ผมรู้สึกผิดหวังเพราะว่ารถคันนี้มีความสามารถในการยึดเกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงแรกของการแข่งขัน" เอริคสันกล่าว
ขณะที่ โจสต์ คาปิโต ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจการแข่งขันรถยนต์ระดับโลก บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าวว่า แม้อีกประมาณ 1 ปี รถฟอร์ด เฟียสต้า จึงจะเดินทางมาถึงประเทศอเมริกา แต่การได้มีโอกาสโชว์ความสามารถและสมรรถนะของรถในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่ท้าทายที่สุดรายการหนึ่งของโลกนับว่าเป็นโอกาสดีเยี่ยม ซึ่งทีมโอลส์เบอร์กส์ เอ็มเอสอี ทำได้ดีมาสำหรับการแข่งขันที่ไพคส์ พีค เป็นครั้งแรก และขณะนี้พวกเขาก็กำลังโปรโมตรถฟอร์ด เฟียสต้า ในการแข่งขันเอ็กซ์ เกมส์
ทั้งนี้ ในปีหน้า รถ "ฟอร์ด เฟียสต้า" มีแผนจะเปิดตัวให้กับผู้บริโภคในทวีปอเมริกาเหนือ อาเซียน รวมถึงประเทศไทย ได้สัมผัสและเป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการ
โกรนโฮล์ม ขับรถฟอร์ด เฟียสต้า แรลลี่ครอส ที่ทีมโอลส์เบอร์กส์ มอเตอร์ สปอร์ต อีโวลูชั่น ปรับแต่งขึ้นจากรถ "ฟอร์ด เฟียสต้า" เวอร์ชั่นจำหน่ายในทวีปยุโรป เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 ในการแข่งขันแบบ "ไม่จำกัดรุ่น" และทำเวลารวมได้ดีที่สุดเป็นลำดับที่ 5 ในการแข่งขันรายการ ไพคส์ พีค อินเตอร์เนชั่นแนล ฮิลล์ ไคลมบ์ ครั้งที่ 87 ที่โคโรลาโด สปริงส์ ประเทศอเมริกา
นอกจากนี้ โกรนโฮล์มยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ "Rookie of the Year" หรือนักแข่งหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี จากการลงแข่งในสนามนี้เป็นครั้งแรกและทำเวลาได้ 11 นาที 28.963 วินาที บนเส้นทางขึ้นเขาไพคส์ พีค ไฮเวย์ ที่ขึ้นชื่อด้านความโหดด้วยระยะทาง 12.4 ไมล์ ที่มีโค้งมากถึง 156 โค้ง
ในการแข่งขันครั้งนี้ นอกจากจะต้องต่อสู้กับความสูงชัน สภาพถนนที่หลากหลาย และสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างมาก บนระดับความสูงจาก 2,800 เมตร ไปยังความสูงกว่า 4,200 เมตร ที่มีอัตราความชันเฉลี่ยอยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์แล้ว โกรนโฮล์มยังประสบปัญหาเครื่องยนต์จากการที่เทอร์โบชาร์จเจอร์ ในเครื่องยนต์ขนาด 800 แรงม้าของรถฟอร์ด เฟียสต้า แรลลี่ครอส เกิดเหตุขัดข้อง ส่งผลให้กำลังของเครื่องยนต์ลดลงอย่างมากในโค้งสำคัญช่วงสุดท้ายของการแข่งขันที่กำลังจะขึ้นสู่ยอดเขา
"ผมอยากจะแข่งที่ไพคส์ พีค มานานแล้ว ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าการได้มาแข่งที่นี่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นับว่าเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพของผม นี่คือหนึ่งในสนามที่คุณอยากจะบอกกับใครๆ ว่าคุณเคยได้มาแข่งแล้ว"โกรนโฮล์ม กล่าวและว่า
"ความสามารถในการยึดเกาะถนนของรถฟอร์ด เฟียสต้า นับว่าดีเยี่ยม และยางบีเอฟ กู๊ดริช ก็ดีมาก น่าเสียดายที่เรามีปัญหาเล็กน้อยระหว่างการแข่งขัน ผมเสียกำลังรถไปบางส่วนในช่วงไม่กี่กิโลเมตรสุดท้าย แต่ผมก็ตั้งใจว่าจะต้องพยายามขับไปถึงเส้นชัยให้ได้ เฟียสต้าเป็นรถที่มีศักยภาพอย่างมาก และน่าจะทำลายสถิติที่ 10 วินาทีได้ ถ้าผมกลับมาคราวหน้า ผมรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้ขับได้เร็วที่สุด"
ส่วนเพื่อนร่วมทีมของโกรนโฮล์มอย่าง อันเดรียส เอริคสัน การแข่งขันที่ไพคส์ พีค ครั้งแรกของเขาต้องจบลงในระยะเวลาอันสั้นเพียงแค่ในช่วงของเอ็นจิเนียร์ส คอร์เนอร์ หรือหลัก 2 ไมล์ เนื่องจากยางหลุดออกจากขอบถึง 2 ล้อ ส่งผลให้โอลส์เบอร์กส์ เอ็มเอสอี เฟียสต้า หลุดออกจากสนามไปชนกับต้นไม้และปีกด้านหลังของรถได้รับความเสียหาย
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้การลงแข่งขัน ไพคส์ พีค ฮิลล์ ไคลมบ์ ครั้งแรกของเอริคสันจบลงอย่างไม่สมบูรณ์แบบนัก "ผมรู้สึกผิดหวังเพราะว่ารถคันนี้มีความสามารถในการยึดเกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงแรกของการแข่งขัน" เอริคสันกล่าว
ขณะที่ โจสต์ คาปิโต ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจการแข่งขันรถยนต์ระดับโลก บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าวว่า แม้อีกประมาณ 1 ปี รถฟอร์ด เฟียสต้า จึงจะเดินทางมาถึงประเทศอเมริกา แต่การได้มีโอกาสโชว์ความสามารถและสมรรถนะของรถในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่ท้าทายที่สุดรายการหนึ่งของโลกนับว่าเป็นโอกาสดีเยี่ยม ซึ่งทีมโอลส์เบอร์กส์ เอ็มเอสอี ทำได้ดีมาสำหรับการแข่งขันที่ไพคส์ พีค เป็นครั้งแรก และขณะนี้พวกเขาก็กำลังโปรโมตรถฟอร์ด เฟียสต้า ในการแข่งขันเอ็กซ์ เกมส์
ทั้งนี้ ในปีหน้า รถ "ฟอร์ด เฟียสต้า" มีแผนจะเปิดตัวให้กับผู้บริโภคในทวีปอเมริกาเหนือ อาเซียน รวมถึงประเทศไทย ได้สัมผัสและเป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการ