หลังจากดำเนินธุรกิจด้านยางรถยนต์มานานกว่า 50 ปี กลุ่ม “โค้ว อินเตอร์ บิสซิเนส” ถือฤกษ์ดี วันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 เปิดตึกใหม่พร้อมเผยแผนรุกตลาดครั้งใหญ่ ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยางรถยนต์ ยี่ห้อ “โตโย ไทร์” อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง ร่วมสัมภาษณ์ “พรชัย เครือญาติดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โค้ว อินเตอร์ บิสซิเนส จำกัด" ถึงเริ่องราวความเป็นมาและทิศทางในอนาคตของยาง โตโย ไทร์ ในการลุยตลาดยางรถยนต์ของไทยอย่างเต็มรูปแบบครั้งนี้
-เริ่มต้นธุรกิจได้อย่างไร?
เดิมที บริษัท โค้ว อินเตอร์ บิสซิเนส จำกัด เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท ชุนไถ่ กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายยางรถยนต์มานานกว่า 50 ปี โดยแยกตัวออกมาเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ยี่ห้อ โตโย ไทร์ จากญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ซึ่งดำเนินงานมาแล้วถึง 43 ปี
สำหรับตัวผมรับช่วงการดำเนินธุรกิจต่อมาจากพ่อ โดยเริ่มมาจากการนำเข้าและจำหน่ายยางที่ใช้สำหรับอุตสาหกรรมหนัก เช่น ยางสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เหมืองถ่านหิน และการสร้างเขื่อน เป็นต้น ต่อมาขยายสู่ธุรกิจยางรถยนต์สำหรับรถโดยสาร และล่สุดกับยางรถยนต์สำหรับรถเก๋ง ในรุ่น Proxes C1S
-ภาพรวมตลาดยางรถยนต์ของไทย?
บริษัทฯ เน้นไปทางด้านยางนำเข้าดังนั้นจึงขอพูดถึงเฉพาะตลาดยางรถยนต์นำเข้า ภาพรวมของปี 2551 ตลาดยางรถยนต์นำเข้าทุกยี่ห้อมีประมาณ 1,070,000 เส้น รวมทุกแบรนด์ ซึ่งยางนำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นยางที่อยู่ในตลาดยางทดแทน(REM)
-ยอดขายของโตโย ไทร์?
ปีที่แล้วขายได้ 70,000 เส้น เติบโตขึ้นจากปีก่อน 30% ทั้งนี้น่าจะเป็นผลมาจากการสื่อสารการตลาดด้วยภาพลักษณ์ของความเป็นยางพรีเมี่ยมเหมาะสำหรับรถแข่ง ที่บริษัทฯ แม่ในญี่ปุ่น เน้นมาโดยตลอด และทางเราเลือกสนับสนุนทีมแข่งรถดริฟท์ รถยิมคาน่า และการแข่งขันรายการ โตโยต้า มอเตอร์ สปอร์ต เฟสติวัล 2009 ซึ่งรถแข่งทุกคันจะใช้ยาง โตโย ไทร์ ในการแข่งขัน
สำหรับในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าจะทำยอดขายให้ได้ 100,000 เส้น จากตลาดรวมยางรถยนต์นำเข้าที่คาดว่าปีนี้จะมีประมาณ 1,000,000 เส้น ลดลงไปบ้างตามภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งยางของโตโย ไทร์ จะเป็นยางในกลุ่มพรีเมี่ยมที่มีราคาขายสูงกว่าคู่แข่งราว 10%
-แผนในอนาคต?
เรามีการคุยกับบริษัทฯ แม่ในเรื่องของการเข้ามาตั้งโรงงานผลิตยางในประเทศไทย เพื่อเป็นฐานผลิตรองรับตลาดอาเซียน โดยยังอยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่าอีกราว 1-2 ปีจะทราบผล เนื่องจากล่าสุด โตโย ไทร์ ญี่ปุ่น ทุ่มทุนไปกับการตั้งโรงงานผลิตยางแห่งใหม่ในประเทศจีน ดังนั้นแผนโรงงานผลิตอาเซียนจึงต้องเลื่อนไปก่อน เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงต่อการตั้งโรงงานแต่ละแห่ง
ทั้งนี้ในส่วนของการทำตลาดของบริษัทฯ จะยังคงเน้นสร้างแบรนด์โดยใช้สปอร์ต มาเก็ตติ้งนำ ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายยังคงรักษาระดับดีลเลอร์เอาไว้ที่ 200 แห่งทั่วประเทศ แต่จะมีการเปิด โตโย ชอป (Toyo Shop) ศูนย์บริการที่จำหน่ายเฉพาะยางโตโย ไทร์ ขึ้นจำนวน 2 แห่งในปีนี้ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 1 แห่งและต่างจังหวัดอีก 1 แห่ง โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับดีลเลอร์ซึ่งดีลเลอร์จะเป็นผู้ลงทุนเอง สำหรับในระยะยาว ภายใน 5 ปีจะขยายโตโย ชอปเป็น 10 แห่งทั่วประเทศ
-กลยุทธ์ไปสู่เป้าหมาย?
บริษัทฯ จะยังคงดำเนินกลยุทธ์เดิมคือ ใช้กีฬา มอเตอร์สปอร์ต เป็นสื่อนำ พร้อมกับการรุกทำตลาดผ่านสื่อต่างๆ มากขึ้นโดยเพิ่มงบการตลาดจากเดิม 15% ของยอดขายกลายเป็น 20% เพื่อสร้างแบรนด์ โตโย ไทร์ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง ร่วมสัมภาษณ์ “พรชัย เครือญาติดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โค้ว อินเตอร์ บิสซิเนส จำกัด" ถึงเริ่องราวความเป็นมาและทิศทางในอนาคตของยาง โตโย ไทร์ ในการลุยตลาดยางรถยนต์ของไทยอย่างเต็มรูปแบบครั้งนี้
-เริ่มต้นธุรกิจได้อย่างไร?
เดิมที บริษัท โค้ว อินเตอร์ บิสซิเนส จำกัด เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท ชุนไถ่ กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายยางรถยนต์มานานกว่า 50 ปี โดยแยกตัวออกมาเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ยี่ห้อ โตโย ไทร์ จากญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ซึ่งดำเนินงานมาแล้วถึง 43 ปี
สำหรับตัวผมรับช่วงการดำเนินธุรกิจต่อมาจากพ่อ โดยเริ่มมาจากการนำเข้าและจำหน่ายยางที่ใช้สำหรับอุตสาหกรรมหนัก เช่น ยางสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เหมืองถ่านหิน และการสร้างเขื่อน เป็นต้น ต่อมาขยายสู่ธุรกิจยางรถยนต์สำหรับรถโดยสาร และล่สุดกับยางรถยนต์สำหรับรถเก๋ง ในรุ่น Proxes C1S
-ภาพรวมตลาดยางรถยนต์ของไทย?
บริษัทฯ เน้นไปทางด้านยางนำเข้าดังนั้นจึงขอพูดถึงเฉพาะตลาดยางรถยนต์นำเข้า ภาพรวมของปี 2551 ตลาดยางรถยนต์นำเข้าทุกยี่ห้อมีประมาณ 1,070,000 เส้น รวมทุกแบรนด์ ซึ่งยางนำเข้าส่วนใหญ่จะเป็นยางที่อยู่ในตลาดยางทดแทน(REM)
-ยอดขายของโตโย ไทร์?
ปีที่แล้วขายได้ 70,000 เส้น เติบโตขึ้นจากปีก่อน 30% ทั้งนี้น่าจะเป็นผลมาจากการสื่อสารการตลาดด้วยภาพลักษณ์ของความเป็นยางพรีเมี่ยมเหมาะสำหรับรถแข่ง ที่บริษัทฯ แม่ในญี่ปุ่น เน้นมาโดยตลอด และทางเราเลือกสนับสนุนทีมแข่งรถดริฟท์ รถยิมคาน่า และการแข่งขันรายการ โตโยต้า มอเตอร์ สปอร์ต เฟสติวัล 2009 ซึ่งรถแข่งทุกคันจะใช้ยาง โตโย ไทร์ ในการแข่งขัน
สำหรับในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าจะทำยอดขายให้ได้ 100,000 เส้น จากตลาดรวมยางรถยนต์นำเข้าที่คาดว่าปีนี้จะมีประมาณ 1,000,000 เส้น ลดลงไปบ้างตามภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งยางของโตโย ไทร์ จะเป็นยางในกลุ่มพรีเมี่ยมที่มีราคาขายสูงกว่าคู่แข่งราว 10%
-แผนในอนาคต?
เรามีการคุยกับบริษัทฯ แม่ในเรื่องของการเข้ามาตั้งโรงงานผลิตยางในประเทศไทย เพื่อเป็นฐานผลิตรองรับตลาดอาเซียน โดยยังอยู่ระหว่างการพิจารณา คาดว่าอีกราว 1-2 ปีจะทราบผล เนื่องจากล่าสุด โตโย ไทร์ ญี่ปุ่น ทุ่มทุนไปกับการตั้งโรงงานผลิตยางแห่งใหม่ในประเทศจีน ดังนั้นแผนโรงงานผลิตอาเซียนจึงต้องเลื่อนไปก่อน เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงต่อการตั้งโรงงานแต่ละแห่ง
ทั้งนี้ในส่วนของการทำตลาดของบริษัทฯ จะยังคงเน้นสร้างแบรนด์โดยใช้สปอร์ต มาเก็ตติ้งนำ ขณะที่ช่องทางการจำหน่ายยังคงรักษาระดับดีลเลอร์เอาไว้ที่ 200 แห่งทั่วประเทศ แต่จะมีการเปิด โตโย ชอป (Toyo Shop) ศูนย์บริการที่จำหน่ายเฉพาะยางโตโย ไทร์ ขึ้นจำนวน 2 แห่งในปีนี้ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 1 แห่งและต่างจังหวัดอีก 1 แห่ง โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับดีลเลอร์ซึ่งดีลเลอร์จะเป็นผู้ลงทุนเอง สำหรับในระยะยาว ภายใน 5 ปีจะขยายโตโย ชอปเป็น 10 แห่งทั่วประเทศ
-กลยุทธ์ไปสู่เป้าหมาย?
บริษัทฯ จะยังคงดำเนินกลยุทธ์เดิมคือ ใช้กีฬา มอเตอร์สปอร์ต เป็นสื่อนำ พร้อมกับการรุกทำตลาดผ่านสื่อต่างๆ มากขึ้นโดยเพิ่มงบการตลาดจากเดิม 15% ของยอดขายกลายเป็น 20% เพื่อสร้างแบรนด์ โตโย ไทร์ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
