xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ส่งออกระทึกหวั่นจีนไม่รับยางหลังราคาวูบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช – ผู้ส่งออกยางพาราระทึกหวั่นจีนไม่รับยางหลังราคาวูบ ฟันธงดีมานต์ลด จากพิษเศรษฐกิจโลกชะลอตัว วิกฤตการเงินสหรัฐฯ อดีต ส.ว.ชี้พ่อค้าคนกลางเป็นเหตุทำกลไกตลาดพัง บี้ รมว.เกษตรแก้ไขด่วน


นายประภาส เอื้อนนทัช กรรมการสภาอุตสาหกรรมไทย ในฐานะผู้ประกอบการส่งออกยางพารารายใหญ่ของภาคใต้ เปิดเผยว่า จากราคายางที่ตกลงมาอย่างฮวบฮาบในเวลานี้เป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจโลกความต้องการในตลาดโลกลดลง เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในสหรัฐฯ ที่เป็นปัญหาลูกโซ่ไปในหลายๆ ประเทศ รถยนต์ในสหรัฐฯ ชะลอตัวไปราว15-16 เปอร์เซ็นต์ ราคาก็ลดลงเช่นกัน ขณะที่จีนและอินเดีย ที่ถือเป็นตลาดใหญ่ของยางพาราอุตสาหกรรมประเภทนี้ลดลงไปราว 5-6 เปอร์เซ็นต์ และอย่าลืมว่าจีนซื้อยางไปผลิตยางรถยนต์หรืออื่นๆ ตลาดใหญ่ของเขา คือ อเมริกา เมื่ออเมริกากระทบจีนก็กระทบ

“ปัญหาที่ผู้ส่งออกกำลังหวั่นใจ คือ เรื่องการรับสินค้ายางพาราจากการตกลงซื้อขายกันก่อนหน้านี้ว่าจีนยังจะรับสินค้าหรือไม่ ผู้ส่งออกหลายคนต้องเร่งเดินทางไปจีนเพื่อเจรจา เขาจะลดการจ่ายเงินหรือชะลอไม่รับ เพราะยางพาราราคาลดอย่างนี้ ผู้ส่งออกกำลังกังวล ที่น่าเป็นห่วงอย่างน้อยเดือนละประมาณ 1 แสนตันเศษ”

นายประภาส กล่าวต่อว่า ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันถึงพ่อค้าคนกลางเป็นปัญหาเข้าทำลายกลไกการตลาดเพื่อผลประโยชน์นั้น ต้องยอมรับว่าพ่อค้าคนกลางรายใหญ่ของไทยมีไม่มาก มีโรงงานเสียเป็นส่วนใหญ่ และมีมากกว่ายางที่ผลิตได้ด้วยซ้ำ รู้หรือไม่ว่าราคาที่รับซื้อเป็นราคาที่สูงเกินจริง เพราะโรงงานแข่งกัน และเมื่อซื้อไปแล้วขายผ่านไปเลยไม่มีทางได้กำไร เปรียบเหมือนเล่นการพนันซื้อมาแล้ว ต้องผ่านกระบวนการจึงขายไป ถ้าคนกลางเข้าไปมีการฮั้วซื้อยางพารานั้น รับรองว่าเป็นไปไม่ได้เพราะมีตลาดกลางค้ำคออยู่

“ต้องยอมรับว่าแท้จริง ราคาที่อยู่เวลานี้ราว 50 บาทเป็นราคาที่ยังดี ก่อนหน้าราคา 15 บาทฝันถึง 40-50 บาท หลังจากนี้มีผลหากเกษตรกรกักตุนไม่ขายยางออกมา หรือพ่อค้ายี่ปั๊วรับซื้อเก็บไว้ แต่จากราคาที่ลงนั้นยี่ปั๊วขาดทุนย่อยยับไปแล้ว ทุกฝ่ายต้องยอมรับว่าดีมานด์ลดลงอย่างญี่ปุ่นวันนี้จากเดิมราคายางพุ่งกว่า 300 เยน วันนี้เหลือแค่ 191 เยน ชาวสวนยางต้องตั้งหลักให้ดี”

ขณะที่ นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีต ส.ว.นครศรีธรรมราช ในฐานะผู้ผลิตยางพาราและปาล์ม เปิดเผยว่าจากวิกฤตราคายางและราคาปาล์มที่ลดลง ในรอบ 20 วันราคายางจาก 96 บาทเหลือแค่ 51 บาท ราคาปาล์มจาก 5 บาทเหลือแค่ 2.75 บาท มีผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อสภาพเศรษฐกิจ

“มีการจับตามองไปที่พ่อค้าคนกลางเป็นหลัก ที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางเข้ามาปั่นป่วนในกลไกระบบตลาดยางพาราในประเทศ สังเกตได้ว่าหากราคายางขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าลงกลับลงแบบดิ่ง มีการซื้อขายล่วงหน้า จากเวลานี้ผมเชื่อว่า มีการฉวยโอกาสจากการเมืองส่วนที่เกี่ยวข้องเพิกเฉยไม่จริงจัง รัฐบาลควรออกมาปกป้องหรือแทรกแซงราคายางพาราที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 85 บาท ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ควรแสดงบทบาทมากกว่าที่จะไปดูแลแค่เกษตรกรชาวนา ในภาคกลางและภาคตะวันออก” นายพิชัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น