“บีเอฟ กู๊ดริช” ยี่ห้อยางพี่น้องของค่าย “มิชลิน” หลังเงียบหายการทำตลาดยางสมรรถนะสูงสำหรับรถเอสยูวีไปนาน กลับมาคราวนี้ บีเอฟพกพาทีเด็ดใหม่ ในชื่อรุ่น “ลองเทล ที/เอ ทัวร์” มาเผยโฉมสู่ตลาดเมืองไทยหลังจากที่เมื่อปีที่แล้ว มิชลิน ค่ายผู้พี่ได้เปิดตัวรุ่น ละติจูด ออกสู่ตลาดเรียบร้อย
สำหรับ “บีเอฟ กู๊ดริช ลองเทล ที/เอ ทัวร์” เป็นยางสำหรับรถเอสยูวีที่ใช้งานบนถนนหลวงเป็นหลัก เฉกเช่นรุ่นละติจูด แต่จะทำตลาดต่างกันตรงที่จะจับกลุ่มเป้าหมายเอสยูวีระดับปานกลางไปจนถึงรถกระบะดัดแปลงและรถกระบะแบบยกสูง ด้วยสนนราคาที่ถูกกว่ารุ่นละติจูด
และพร้อมกับการเปิดตัว บีเอฟได้จัดให้มีการทดสอบเล็กๆ กับยาง ลองเทล ที/เอ ทัวร์ ซึ่ง “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ไม่พลาดในการเข้าร่วมครั้งนี้
โดยในช่วงแรกเป็นการทดสอบในสถานีที่ถูกจัดเอาไว้ว่า เดิมจะเป็นการลุยถนนลูกรังแบบสุดๆ แต่เนื่องจากฝนตกหนักทำให้แผนเดิมต้องยกเลิกไปกลายเป็นการขับสลาลมบนพื้นหญ้าที่เปียกนุ่มในระยะทางสั้นๆ ความรู้สึกคือยังควบคุมรถได้ดี แม้จะลื่นไปบ้างเล็กน้อยตามสภาพพื้นผิวเฉาะแฉะ
มาในสถานีที่ 2 เป็นการทดสอบแบบออนโรดและจิมคานา เราขอเริ่มที่ออนโรดก่อน ดูจะเป็นการทดสอบเดียวในครั้งนี้ที่สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องกับเราเกี่ยวกับยาง บีเอฟ กู๊ดริช ลองเทล ที/เอ ทัวร์ ได้เพราะสภาพถนนปูนซีเมนต์และยางมะตอยไม่เป็นปัญหาแม้ฝนจะตกลงมา
โดยเราขับเจ้าโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.7 วีวีทีไอ(เครื่องยนต์เบนซิน) ปล่อยไหลลงเนินเพื่อฟังเสียงดัง พบว่า มีความเงียบพอๆ กับยางมิชลิน รุ่นละติจูด เลยทีเดียวอาจจะดังกว่าก็เพียงเล็กน้อย โดยรวมถือว่าประทับใจเราครับ
ด้านการยึดเกาะถนน ก็ทำได้ดีเช่นกันเราลองวิ่งด้วยความเร็วกว่า 120 กม./ชม. บนถนนสายมิตรภาพ(ในสภาพเปียกแฉะหลังฝนตก) รถขับดีไม่มีการเหินน้ำ หรือแฉลบให้รู้สึกแต่อย่างใด และเสียงยางบดถนนก็ดังเพียงเล็กน้อย ความนุ่มนวลไม่รู้สึกแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ
มาถึงสถานีที่ตั้งใจให้เราทดสอบด้วยการขับจิมคาน่าแข่ง ปรากฏว่า ฝนทำให้สภาพของพื้นผิวฝุ่นดินแดงกลายเป็นดินโคลน ไม่สามารถขับแข่งได้ เพราะแม้แค่ลองขับโดยแชมป์ดริฟท์มืออาชีพ กว่าจะผ่านสภาพสนามออกมาถึงจุดพักรถได้ ยังแทบจะเอาตัวไม่รอด รถวิ่งเลื้อยเป็นเรือไม่สามารถคุมทิศทางได้ดั่งใจ ทั้งนี้เป็นเพราะโคลนที่เข้าไปอุดในยางจนไม่มีดอกเหลืออยู่นั่นเอง
ช่วงบ่ายเป็นสถานีเข้าป่า เราขับรถฟอร์จูนเนอร์ เช่นเดิม(แต่เป็นคนละคัน) แน่นอนว่าต้องใส่ยาง บีเอฟ กู๊ดริช ลองเทล ที/เอ ทัวร์ เข้าไปตะลุยเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เส้นทางเป็นดินโคลนบ้าง ก้อนหินบ้าง สะพานไม้ใผ่บ้าง ครบทุกสภาพการลุยป่า ที่สำคัญขับผ่านลำธารน้ำตกที่ไหลแรงสูงถึงขอบประตูรถด้านล่าง (คือถ้าเปิดประตูน้ำจะท่วมเข้ามาได้ทันที) เพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าลองเทลสามารถตะลุยไปได้ทุกที
สุดท้ายเราบอกกับตัวเองว่า แม้ทริปทดสอบนี้จะไม่ได้เห็นสมรรถนะอย่างเต็มรูปแบบของยางตัวนี้ แต่พอจะจับความรู้สึกคร่าวๆ ว่า เจ้าบีเอฟ กู๊ดริช ลองเทล ที/เอ ทัวร์ นั้นเหมาะสมดีกับรถที่ส่วนใหญ่จะขับขี่บนพื้นถนนเรียบ แต่ก็สามารถใช้งานได้โดยไม่เป็นปัญหาหากจำเป็นต้องลุยทางวิบาก
สำหรับ “บีเอฟ กู๊ดริช ลองเทล ที/เอ ทัวร์” เป็นยางสำหรับรถเอสยูวีที่ใช้งานบนถนนหลวงเป็นหลัก เฉกเช่นรุ่นละติจูด แต่จะทำตลาดต่างกันตรงที่จะจับกลุ่มเป้าหมายเอสยูวีระดับปานกลางไปจนถึงรถกระบะดัดแปลงและรถกระบะแบบยกสูง ด้วยสนนราคาที่ถูกกว่ารุ่นละติจูด
และพร้อมกับการเปิดตัว บีเอฟได้จัดให้มีการทดสอบเล็กๆ กับยาง ลองเทล ที/เอ ทัวร์ ซึ่ง “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ไม่พลาดในการเข้าร่วมครั้งนี้
โดยในช่วงแรกเป็นการทดสอบในสถานีที่ถูกจัดเอาไว้ว่า เดิมจะเป็นการลุยถนนลูกรังแบบสุดๆ แต่เนื่องจากฝนตกหนักทำให้แผนเดิมต้องยกเลิกไปกลายเป็นการขับสลาลมบนพื้นหญ้าที่เปียกนุ่มในระยะทางสั้นๆ ความรู้สึกคือยังควบคุมรถได้ดี แม้จะลื่นไปบ้างเล็กน้อยตามสภาพพื้นผิวเฉาะแฉะ
มาในสถานีที่ 2 เป็นการทดสอบแบบออนโรดและจิมคานา เราขอเริ่มที่ออนโรดก่อน ดูจะเป็นการทดสอบเดียวในครั้งนี้ที่สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องกับเราเกี่ยวกับยาง บีเอฟ กู๊ดริช ลองเทล ที/เอ ทัวร์ ได้เพราะสภาพถนนปูนซีเมนต์และยางมะตอยไม่เป็นปัญหาแม้ฝนจะตกลงมา
โดยเราขับเจ้าโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น 2.7 วีวีทีไอ(เครื่องยนต์เบนซิน) ปล่อยไหลลงเนินเพื่อฟังเสียงดัง พบว่า มีความเงียบพอๆ กับยางมิชลิน รุ่นละติจูด เลยทีเดียวอาจจะดังกว่าก็เพียงเล็กน้อย โดยรวมถือว่าประทับใจเราครับ
ด้านการยึดเกาะถนน ก็ทำได้ดีเช่นกันเราลองวิ่งด้วยความเร็วกว่า 120 กม./ชม. บนถนนสายมิตรภาพ(ในสภาพเปียกแฉะหลังฝนตก) รถขับดีไม่มีการเหินน้ำ หรือแฉลบให้รู้สึกแต่อย่างใด และเสียงยางบดถนนก็ดังเพียงเล็กน้อย ความนุ่มนวลไม่รู้สึกแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ
มาถึงสถานีที่ตั้งใจให้เราทดสอบด้วยการขับจิมคาน่าแข่ง ปรากฏว่า ฝนทำให้สภาพของพื้นผิวฝุ่นดินแดงกลายเป็นดินโคลน ไม่สามารถขับแข่งได้ เพราะแม้แค่ลองขับโดยแชมป์ดริฟท์มืออาชีพ กว่าจะผ่านสภาพสนามออกมาถึงจุดพักรถได้ ยังแทบจะเอาตัวไม่รอด รถวิ่งเลื้อยเป็นเรือไม่สามารถคุมทิศทางได้ดั่งใจ ทั้งนี้เป็นเพราะโคลนที่เข้าไปอุดในยางจนไม่มีดอกเหลืออยู่นั่นเอง
ช่วงบ่ายเป็นสถานีเข้าป่า เราขับรถฟอร์จูนเนอร์ เช่นเดิม(แต่เป็นคนละคัน) แน่นอนว่าต้องใส่ยาง บีเอฟ กู๊ดริช ลองเทล ที/เอ ทัวร์ เข้าไปตะลุยเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เส้นทางเป็นดินโคลนบ้าง ก้อนหินบ้าง สะพานไม้ใผ่บ้าง ครบทุกสภาพการลุยป่า ที่สำคัญขับผ่านลำธารน้ำตกที่ไหลแรงสูงถึงขอบประตูรถด้านล่าง (คือถ้าเปิดประตูน้ำจะท่วมเข้ามาได้ทันที) เพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าลองเทลสามารถตะลุยไปได้ทุกที
สุดท้ายเราบอกกับตัวเองว่า แม้ทริปทดสอบนี้จะไม่ได้เห็นสมรรถนะอย่างเต็มรูปแบบของยางตัวนี้ แต่พอจะจับความรู้สึกคร่าวๆ ว่า เจ้าบีเอฟ กู๊ดริช ลองเทล ที/เอ ทัวร์ นั้นเหมาะสมดีกับรถที่ส่วนใหญ่จะขับขี่บนพื้นถนนเรียบ แต่ก็สามารถใช้งานได้โดยไม่เป็นปัญหาหากจำเป็นต้องลุยทางวิบาก